ติอาโก้ ทำสถิติ-เหตุผลไร้ เอ็นโซ่-มูดริค!5ประเด็นร้อน เชลซี พบ เบรนท์ฟอร์ด

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีม เชลซี นำทัพ "สิงห์บลูส์" เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ พ่าย เบรนท์ฟอร์ด 0-2 ในศึก พรีเมียร์ลีก คู่แรกประจำวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม ส่งผลให้หล่นไปอยู่อันดับ 11 ของตารางชั่วคราว

หลังลงเล่นไปแล้ว 10 นัดนั้น เชลซี เก็บได้ 12 คะแนน ส่วน เบรนท์ฟอร์ด แซงขึ้นไปอยู่ที่ 10 มี 13 คะแนน โดยเกมนี้มี 5 ประเด็นน่าสนใจดังนี้

1. สิงห์ไร้ เอ็นโซ่-มูดริค

เกมนี้ เชลซี ไม่มี เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา ลงสนาม หลังเจ้าตัวออกสตาร์ตตัวจริงใน พรีเมียร์ลีก ตลอด 9 เกมแรกของฤดูกาลนี้ 

ขณะที่ มิไคโล มูดริค ปีกตัวจี๊ดทีมชาติยูเครน ก็ไม่มีชื่ออยู่ในทีมเช่นกัน โดย โปเช็ตติโน่ ให้เหตุผลว่าทั้งคู่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ไม่ได้รุนแรง

โปเช็ตติโน่ เผยว่า "เอ็นโซ่ และ มูดริค รู้สึกบางอย่างในการฝึกซ้อมเมื่อวานนี้ มันเป็นอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อเล็กน้อยสำหรับทั้งคู่ ตอนแรกเราหวังว่า พวกเขาจะโอเคพออยู่ในทีม แต่พวกเขายังไม่พร้อม เราไม่ต้องการเสี่ยงแต่อย่างใด" 

อย่างไรก็ตามในรายของ เอ็นโซ่ ที่ไม่ได้ลงสนามอาจไม่ใช่ปัญหาการบาดเจ็บอย่างเดียวก็ได้ หลังเจ้าตัวเพิ่งโพสต์รูปลูกชายที่เพิ่งออกมาลืมตาดูโลกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา

2. อายุทำอะไร ติอาโก้ ไม่ได้

ติอาโก้ ซิลวา ปราการหลังประสบการณ์สูงชาวบราซิเลียน ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงให้กับ เชลซี แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถช่วยให้ "สิงห์บลูส์" เก็บคลีนชีตได้

ติอาโก้ ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมลีกนัดที่ 87 และกลายเป็นนักเตะนับตั้งแต่อายุมากกว่า 36 ปี ที่สตาร์ตตัวจริงมากสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก (ไม่รวมผู้รักษาประตู) 

ดาวเตะวัย 39 ปี ย้ายมาอยู่กับ เชลซี ตั้งแต่ปี 2020 หลังก่อนหน้าเคยผ่านการค้าแข้งมาหลายสโมสรอาทิ ฟลูมิเนนเซ่, เอซี มิลาน และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นต้น

3. โมเปย์จอมป่วน

นีล โมเปย์ กองหน้าตัวสำรองของ เบรนท์ฟอร์ด โดนผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ในนาทีที่ 66 ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลงสนาม หลังเจ้าตัววอร์มอัพอยู่แล้ววิ่งเข้ามาป่วน โคล พาลเมอร์ จังหวะที่กำลังจะเปิดฟรีคิกริมเส้นข้างสนาม

จากนั้นอีกเพียงแค่สองนาที เบรนท์ฟอร์ด ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 หลัง บริย็อง เอ็มเบอโม่ เปิดบอลให้ อีธาน พินน็อค โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย ก่อนที่ โมเปย์ จะถูกส่งมาเป็นตัวสำรองนาทีที่ 76 แล้วมาเป็นคนแอสซิสต์ให้ เอ็มเบอโม่ ยิงตอกฝาโลง 2-0 นาทีที่ 90+6

โมเปย์ เพิ่งย้ายกลับมาอยู่กับ เบรนท์ฟอร์ด รอบสองในฤดูกาลนี้ หลังทีมไปยืมตัวมาจาก เอฟเวอร์ตัน โดยรอบแรกเคยค้าแข้งด้วยระหว่างปี 2017-2019

4. พอช อดพาทีมไร้พ่าย 5 นัดติด

จากความพ่ายแพ้ในนัดนี้ทำให้ โปเช็ตติโน่ พา เชลซี ปราชัยนัดแรกในรอบ 5 เกมหลังสุดทุกรายการ และเวลานี้หล่นมาอยู่ที่ 11 ของตาราง ปล่อยให้ เบรนท์ฟอร์ด แซงขึ้นไปอยู่ที่ 10 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของ เชลซี

28 ตุลาคม 2023 แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-2 (พรีเมียร์ลีก)

21 ตุลาคม 2023 เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 (พรีเมียร์ลีก)

7 ตุลาคม 2023 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 4-1 (พรีเมียร์ลีก)

2 ตุลาคม 2023 ชนะ ฟูแล่ม 2-0 (พรีเมียร์ลีก)

27 กันยายน 2023 ชนะ ไบรท์ตัน 1-0 (คาราบาว คัพ)

5. โปรแกรมหฤโหดรอ เชลซี

หลังจบเกมนี้แล้ว เชลซี มีโปรแกรมเปิดบ้านต้อนรับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในศึก คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันพุธที่ 1 พฤศจิกายนนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นลูกทีมของ พอช จะต้องเจอกับโปรแกรมหฤโหดใน พรีเมียร์ลีก 5 นัดต่อไปเริ่มตั้งแต่ไปเยือนทีมจ่าฝูง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แล้วกลับมารับมือ แมนฯ ซิตี้ ต่อด้วยไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จากนั้นเปิดบ้านพบ ไบรท์ตัน ก่อนไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด