แมนฯ ยูไนเต็ด รอดพ้นจากความปราชัยคารังเป็นเกมที่สามติดต่อกันอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อถูก เบรนท์ฟอร์ด บุกมาสอยตาข่ายออกนำก่อนในครึ่งแรก แต่สุดท้าย ผีแดง ซึ่งยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังเหมือนเดิมมาได้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ สวมบทซูเปอร์ซับลงเล่นในช่วงสี่นาทีสุดท้าย และสร้างเรื่องช็อกกดคนเดียวสองเม็ดในช่วงทดเวลาพา เร้ด อาร์มี่ รอดตายไม่พอ แถมได้สามแต้มเต็มอีกต่างหากจากเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.
จากชัยชนะที่มีเหนือ เดอะ บีส์ ทำให้ เร้ด เดวิลส์ สร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรพลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัยชนะในเกม พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งแรกด้วยหลังยังตกเป็นรองคู่แข่งจนถึงนาทีที่ 90
1.แม็กไกวร์ หวนคืนโผตัวจริง
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อดีตกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกม พรีเมียร์ลีก นัดแรกของซีซั่น และเป็นนัดแรกของเขานับตั้งแต่เดือนพ.ค.เนื่องจาก ราฟาแอล วาราน บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่พร้อมลงบู๊ติดๆกันอย่างต่อเนื่องตามที่ เอริค เทน ฮาก เผย
ขณะเดียวกัน แม็กไกวร์ ถูกจับให้เล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ จอนนี่ อีแวนส์ อดีตคู่ขาที่ เลสเตอร์ เนื่องจาก วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ โดนถ่างออกไปรับบทแบ็คซ้ายแทน โซฟียาน อัมราบัต ที่กลับไปสวมบทมิดฟิลด์ตามถนัด
สำหรับคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แม็กไกวร์-อีแวนส์ ถือเป็นการประสานงานกันอีกหนเป็นครั้งแรกในรอบห้าปีโดยหนสุดท้ายที่กองหลังทีมชาติ ไอร์แลนด์เหนือ ได้ลงเล่นให้ ผีแดง ในเกมลีกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นแมตช์ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 เมื่อเดือนก.พ.2015 ในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล
ด้าน วาราน พลาดการลงเล่นให้ทีมเป็นนัดที่สี่แล้วในซีซั่นนี้โดยซีซั่นก่อนสตาร์วัย 30 ปีพลาดการลงสนามมากถึง 15นัด รวมเบ็ดเสร็จกองหลังเฟรนช์แมนไม่ได้ลงเล่นให้ ผีแดง มากถึง 35 นัด
รวมแล้ว ผีแดง เปลี่ยนทีมสองรายจากเกมแพ้ กาลาตาซาราย คารังในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก 3-2 เมื่อวันอังคารโดยมี แม็กไกวร์ กับ อีแวนส์ ได้ลงสนามแทน วาราน และ ฮันนิบาล เมจบรี้ ที่นั่งข้างเป็นสำรอง
นอกจากนี้ นักเตะ ผีแดง สวมปลอกแขนดำลงบู๊ด้วยด้วยเนื่องจาก เคธี่ ภรรยาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตนายใหญ่เสียชีวิตเมื่อวันก่อนโดยในช่วงวางมือเมื่อปี 2013 ป๋าเฟอร์กี้เผยว่าเขาจำเป็นต้องตัดสินใจรีไทร์เพื่ออยู่กับภรรยาซึ่งโศกเศร้าหลังพี่สาวของเธอเสียชีวิต
2. เดอะ บีส์ ปรับทัพสองจุด
โธมัส แฟร้งค์ กุนซือทีม เบรนท์ฟอร์ด เปลี่ยนทีมสองตำแหน่งจากนัดก่อนที่พวกเขาบุกไปเสมอกับ ฟอเรสต์ 1-1 เมื่อวันอาทิตย์
นอกจาก โธมัส สตราโคชา ที่ได้เฝ้าตาข่ายแทน มาร์ค เฟล็อเค่น ที่ป่วยโดยเป็นการออกสตาร์ตเกมแรกของเขาในซีซั่นนี้แล้ว อีกรายเป็นการปรับแผงหลังโดย มาดส์ โรเออร์สลาฟ ได้ลงบู๊แทน คีน ลูอิส พ็อตเตอร์ ที่บาดเจ็บ
3. ได้เวลาดร็อป โอนาน่า?
เป็นเกมเหย้าใน พรีเมียร์ลีก นัดที่สี่ติดต่อกันแล้วที่ ผีแดง เสียประตูให้กับอาคันตุกะก่อนในครึ่งแรกโดยก่อนหน้านี้สามเกมพวกเขาพลิกกลับมาแซงชนะได้แค่นัดเดียวเท่านั้น
1-2 v ฟอเรสต์ , 26 ส.ค. (ชนะ 3-2)
0-2 v ไบรท์ตัน, 16 ก.ย.(แพ้ 1-3)
0-1 v พาเลซ , 30 ก.ย.(แพ้ 0-1)
แน่นอนว่าแม้ กาเซมีโร่ จะจ่ายบอลเสียในแดนกลาง แต่จังหวะยิงของ มาเธียส เยนเซ่น ไม่ถึงกับยาก ทว่า อ็องเดร โอนาน่า พลาดอีกจนได้เมื่อปัดบอลไม่หลุดมือทำให้ตาข่ายสั่นไหวอันเป็นสกอร์นำ 1-0 ของ เบรนท์ฟอร์ด ในครึ่งแรกนาทีที่ 26
ถึงขณะนี้ นายทวารทีมชาติ แคเมอรูน ก่อความเสียหายให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากเกินพอแล้ว และหาก เอริค เทน ฮาก จะยอมรับความจริง บางทีเขาน่าจะเปิดโอกาสให้ อัลตาย บายินเดียร์ ได้เฝ้าตาข่ายบ้างโดยดร็อปลูกรักออกไปนั่งข้างสนามซะที
จบ 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด สมควรโดนนำอย่างที่เห็นแม้จะครองบอลได้เหนือกว่า 60:40% แต่ความผิดพลาดของ โอนาน่า ส่งผลเสียอย่างแรงในช่วงที่ทีมฟอร์มตกชนิดกู่ไม่กลับ ซ้ำร้ายเป็น เบรนท์ฟอร์ด ที่ได้ยิงมากกว่าด้วย 8:7 ครั้ง แต่ทั้งสองทีมส่งบอลเข้ากรอบ 1 ครั้งเท่ากันโดยฝั่ง ผีแดง เป็นจังหวะสับไกของ มาร์คัส แรชฟอร์ด
4. ซูเปอร์สกอตต์
เข้าครึ่งหลัง เทน ฮาก เปลี่ยนตัวทันทีให้ คริสเตียน เอริคเซ่น ลงไปแทน กาเซมีโร่ แต่ยังไม่มีอะไรดีขึ้น อันโตนี่ กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ จึงลงไปแทน เมสัน เมาท์ กับ แรชฟอร์ด ในนาทีที่ 63 กระทั่งนาทีที่ 72 ลินเดอเลิฟ เริ่มช้ำต้องเดินลงอุโมงค์ทำให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงเล่นเป็นตัวสำรองรายที่สามซึ่งแน่นอนว่า อัมราบัต ต้องกลับไปทำหน้าที่แบ็คซ้ายจำเป็นจนได้
จนแล้วจนรอด การแก้เกมของ เทน ฮาก ยังไม่มีวี่แววว่าจะทำให้ทีมได้ประตู จวบจนนาทีที่ 86 แม็คโทมิเนย์ ถูกเปลี่ยนลงไปแทน อัมราบัต และกลายเป็นว่าสตาร์ทีมชาติ สกอตแลนด์ ขโมยซีนไปคนเดียวจากการกระทุ้งสองประตูในนาทีที่ 93 และ 97 ให้ ผีแดง เป็นฝ่ายพลิกชนะซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกที่เหมาสองตุงในช่วงทดเวลาของเกม พรีเมียร์ลีก ถัดจาก สตีเว่น เบิร์กไวจ์น อดีตดาวเตะทีม สเปอร์ส ซึ่งฝากผลงานเอาไว้เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2022 ในเกมบู๊กับ เลสเตอร์ โดย ไก่เดือยทอง แซงชนะ เดอะ ฟ็อกซ์ เช่นกัน
ขณะเดียวกัน 10 ประตูหลังสุดของ แม็คโทมิเนย์ ในเกมลีกอุบัติขึ้นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ล้วนๆ เป็นรองแค่ โอเล่ กุนาร์ โซลชา รายเดียวที่เคยยิงได้ในเกมลีกที่รังตัวเอง 11 เม็ดระหว่างเดือนมี.ค.1999-เม.ย.2000
หลังจากโม่เกือกกันครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายกำชัยจากสถิติครองบอลเหนือกว่า 64:36% และได้ง้างยิงทั้งสิ้น 21 ครั้งเข้ากรอบ 8 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนทำได้ 11 ครั้งและเข้ากรอบ 3 ครั้ง
5. ผีแดงอย่าพึ่งชะล่าใจ
จากการพลิกแซงชนะ เบรนท์ฟอร์ด เทน ฮาก ระบุหลังเกมมั่นใจว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กลับคืนสู่เส้นทางแห่งการคว้าชัยชนะแล้วหลังสะดุดไปนาน แต่หากจะมองจากความเป็นจริงในสนาม เห็นได้ชัดว่า ดาวเตะ เร้ด เดวิลส์ หลายรายยังสอบตกกันโดยถ้วนหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวใจสำคัญของเกมอย่างแผงกลางที่ไร้ประสิทธิภาพในการสร้างสรรค์เกมรุกในพื้นที่สุดท้าย
จบจากเกมคว่ำ เดอะ บีส์ แบบหืดจับ แมนฯ ยูไนเต็ด และสโมสรต่างๆจะเข้าสู่โหมดหยุดพักกันอีกรอบเพื่อเปิดทางให้ทีมชาติลงสนาม และหากจะดูโปรแกรมหลังจากนั้น ปีศาจแดง ยังมีเกมหนักรออยู่ครบทั้งสามรายการไม่ว่าจะเป็น แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พวกเขาจะต้องพยายามคว้าชัยเป็นนัดแรกให้ได้สถานเดียวหากยังหวังมีลุ้นเข้ารอบเนื่องจากแพ้มาสองนัดรวด รวมทั้งเกมลีกที่ต้องปะทะกับแชมป์เก่า ตลอดจนการป้องกันแชมป์ ราคาบาวคัพ กับโจทก์เก่า
21 ต.ค.: เชฟฯ ยูไนเต็ด (เยือน) พรีเมียร์ลีก
24 ต.ค.: โคเปนเฮเก้น (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
29 ต.ค.: แมนฯ ซิตี้ (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
1 พ.ย.: นิวคาสเซิ่ล (เหย้า) คาราบาวคัพ รอบสี่
4 พ.ย.: ฟูแล่ม (เยือน) พรีเมียร์ลีก