มาดขรึมๆของอังเก้ ปอสเตโคกลูก็ไม่อาจปกปิดความรู้สึกข้างในได้หมด ชัยชนะเหนือลิเวอร์พูล2-1ทำให้เจ้าตัวมีรอยยิ้มมุมปากแทบตลอดระหว่างการให้สัมภาษณ์ในเพรส คอนเฟอเรนซ์ นี่คือคนที่กำลังเปลี่ยนสโมสรที่มักเจอแฟนคู่แข่งเย้ยหยันด้วยว่า'spursy'หรือแปลเป็นไทยว่า'ท่าดีทีเหลว'
โอเค พวกเขาอาจจะไม่ได้สามแต้มถ้าหากหงส์แดงไม่เหลือเพียง9คนรวมถึงไม่ได้การส่งเสริมจากโฌแอล มาทิป
แต่ในเกมลูกหนังนั้น คุณก็ต้องการโชคช่วยเสมอเพื่อประสบความสำเร็จ
ขณะเดียวกันเปรียบเทียบกับซีซั่นก่อน ผ่านไป7เกมก็กวาดไป17แต้มเท่ากัน จำนวนประตูที่ยิงได้ก็ไล่เลี่ยกันอีกต่างหาก นั่นก็หมายถึงว่าเราเองไม่ควรไปด่วนสรุปใดๆกับเวลาที่ยังเหลืออยู่อีกหลายเดือน กระนั้นเอาไปถามสาวกสเปอร์สเรียงคนก็คงได้คำตอบคล้ายคลึงกัน
ความแตกต่างอยู่ที่ภายใต้ปอสเตโคกลูนั้นสไตล์ของบอลเอนเตอร์เทนกว่า เร้าใจกว่าและดูมีชีวิตชีวากว่า
นี่คือฟุตบอล ที่หากเลือกได้ก็ส่วนใหญ่ย่อมปรารถนาอยากเห็นทีมตัวเองเล่นบอลเกมรุกกว่าเกมรับเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ
ที่สำคัญมี2-3เกมที่พิสูจน์ถึง'mentality'ของทีมตราไก่ชุดนี้ เริ่มจากวันตามหลังเชฟฯยูไนเต็ด0-1ก่อนมาแซงยิงชนะสองลูกตอนทดเจ็บ ต่อมาก็ศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ที่ต้องออกไปเยือนคู่อริตลอดกาลอย่างอาร์เซน่อล ถึงจะโดนนำถึงสองหน ก็ยังตามตีคืนได้สองหน
แน่นอนล่าสุดก็เกมสุดดราม่าเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่กำราบทีมที่พวกเขามักแพ้ทางได้สำเร็จ ภายใต้วงเล็บ(ต่อให้มีโชคช่วยก็ตาม)
งานของปอสเตโคกลูก็เหมือนหลายๆคนที่มาปีแรก ต้องมาปฎิรูปทีมใหม่ให้เข้ากับแนวทางตัวเอง เพียงแต่อย่าลืมว่าเขาคือโค้ชที่มาแล้วต้องทำงานโดยปราศจากแฮร์รี่ เคนที่ถูกขายออกให้บาเยิร์น มิวนิค
ไล่ดูรายชื่อทีละตำแหน่งก็ยิ่งน่าสนใจว่าเขาเลือกระบบมาก่อนตัวบุคคล ยิ่งแนวรับด้วยแล้วก็ถือว่าเป็นการเสี่ยงอยู่ไม่น้อยเลยกับแผงแบ็กโฟร์ที่มีอายุเฉลี่ยแค่22.7ปี
แต่ไหนแต่ไรจุดอ่อนของสเปอร์สก็อยู่ที่เกมรับนี่แหละ เสียง่ายไป
มีตัวผู้เล่นที่บางคนลืมไปแล้วก็กลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้งโดยเฉพาะยีฟส์ บิสซูม่า จากดาวดังกับไบร์ทตันก็มาตกอับเป็นแค่สำรองในปีก่อน เนื่องจากโดนอันโตนิโอ คอนเต้มองข้ามในฝีเท้า ทว่านาทีนี้กลายเป็นฟันเฟืองตัวหลักของทีมไปเรียบร้อย
"ผมไม่รู้หรอกว่าเราจะไปไกลแค่ไหนกับนักเตะชุดนี้ พวกเราแค่พยายามผลักดันไปข้างหน้าในทุกเกม พวกเราแค่ต้องการเล่นให้เต็มที่เพื่อสโมสรกับแฟนบอลที่ตามเชียร์"บางประโยคที่ปอสเตโคกลูกล่าวในห้องเพรสวันอาทิตย์
มันเร็วไปจริงๆที่จะคาดการณ์ว่าสเปอร์สทีมนี้จะจบอันดับที่ตรงไหน
กระนั้นจากที่ได้สัมผัสมาถึงบรรยากาศทั้งใน-นอกสนาม ความรู้สึกที่เหล่ากองเชียร์ตราไก่มีก็ชัดเจนว่าต่างมีความสุขที่สุดนับจากสมัยเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ยังอยู่
อย่างแรกเพราะแต่ไหนแต่ไรสเปอร์สเป็นทีมเล่นเกมรุก ไม่ใช่เกมรับ
อย่างต่อมาที่สำคัญเล่นเกมรุกแล้วทีมก็มีผลงานที่ดีเยี่ยมด้วย เมื่อสองอย่างสอดประสานกันได้ก็หมายถึงความหวัง...
"ไก่ป่า"