ความพ่ายแพ้..ที่มีพลัง

“ล้ำหน้าเหรอ ? ดิอ๊าซ ยิงอย่างเฉียบ”  ใครคนนี้ เอ่ยปากหลังเกมกับ น้องชิม  เจ้าของสนามเช่าหญ้าแท้ กรีนฟิลด์ แถวย่านรามอินทรา (หนึ่งในสนามหญ้าระดับต้นๆ แห่งกทม.)  แฟนพันธ์แท้ลิเวอร์พูลเหมือนกัน ระหว่างเดินจากด้านหน้าเล้าไก่ ผ่านซอย Whitehall Street  หยุดถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนัง หรือที่เรียกว่า Mural ของแฮร์รี่ เคน สักนิด ก่อนเดินไปเข้าแถวเพื่อขึ้นรถไฟโอเวอร์กราวด์ ป้ายใกล้สนามสุด ไวท์ ฮาร์ท เลน

พอดีนัดนี้ ต้องขอบคุณเพื่อนรักฝากซื้อตั๋วไว้ แล้วติดธุระกะทันหัน ก็เลยถือโอกาสเสียบแทน แต่การไม่ได้เข้าไปในพื้นที่มีเดีย ก็เลยขาดรหัสไวไฟที่ช่วยทำให้เช็คโน่นเช็คนี่สะดวกนัก

และตอนเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นระหว่างที่ เคอร์ติส โจนส์ โดนไล่ออกไปแล้ว กับก่อนหน้า ซน ฮึง มิน เข้าชาร์จเผาขนทำให้ไก่ขึ้นนำนั้น

เราอยู่ห่างจากประตูฝั่งนั้น ก็เลยเผลอคิดไปก่อนว่า การที่ผู้ตัดสินไซม่อน ฮูเพอร์ เป่าให้เล่นต่อเร็วเชียว  นั่นคงล้ำหน้าแบบชัดเจน —- ที่ไหนได้ !!!

PGMOL  แปลว่า อ้ารายยย,  ถ้านึกไม่ออกพี่จะบอกให้ ลั้นหล่าลันหล่า ลั้นหล่าลันล่า

แปลว่า หน่วยงาน ขยันขอโทษฮะ …

การออกมาขอโทษทันทีของคณะกรรมการผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ ว่าเป็นความผิดพลาดของมนุษย์ ลิเวอร์พูลควรได้ประตูนั่น เปล่าประโยชน์ฮะ

เช่นเดียวกับการดร็อป ดาร์เรน อิงแลนด์ ผู้ตัดสินวีเออาร์เกมที่เอนเตอร์เทนมาก เมื่อมีผู้เล่นครบทั้งสองฝั่ง หรือแม้แต่ตอนลิเวอร์พูลเหลือ 10 คน แล้วก็ตาม, ไม่ให้ทำหน้าที่ผู้ตัดสินที่ 4 แม็ตช์ ฟอเรสต์ - เบรนท์เฟิร์ด   

ดร็อป แดน คุ้ก ผู้ช่วยผู้ตัดสินวีเออาร์ในแม็ตช์ที่เล้าไก่  ไม่ให้ทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินเกมมันเดย์ไนต์ ฟูแล่ม - เชลซี

นั่นก็เปล่าประโยชน์ฮะ  เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้คนของตัวเองหลุดจากการเพ่งเล็งไปสักนิด

หากปัญหาใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเกิดกับลิเวอร์พูลทีมเดียวหรอก นั่นคือ ความคงเส้นคงวา ของผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในลีกที่ป๊อปปูล่าร์ที่สุดในโลก

คุณต้องมีมาตรฐาน คุณต้องเนี้ยบกันหน่อย ไม่ใช่ว่า ที่ได้ทำงานกันนี่ เพราะคุณเป็นคนอังกฤษเท่านั้น !

การเข้าของโจนส์ นั้น ความรู้สึกของนักบอล, คนที่ผ่านเกมแข่งขันมาก่อน อาจมองว่า ไม่ได้ตั้งใจ ตั้งใจเข้าไปแย่งบอลแล้วพลาดไปย่ำเข้า ให้ใบเหลืองก็พอ  ดูปฏิกิริยาของโจนส์ ได้ รีบยกมือขอโทษทันที

หากพอผู้ตัดสินต้องวิ่งไปดูจอ ดูภาพช้าที่ค้างไว้ จับจังหวะแล้วหงายปุ่ม ยังงัยก็โดนครับ และโจนส์ ก็ไม่ใช่คนแรกหรอก

ผมเคยคิดว่าในห้องควบคุมวีเออาร์ น่าจะมี อดีตนักฟุตบอล ไปนั่งทำงานด้วย ช่วยปรึกษาหรือคัดค้าน  แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ พีจีอะไรนั่น อาจจะไม่คล้อยตาม เดี๋ยวจะรู้สึกว่าเป็นการแทรกแซง

เราไม่สามารถบอกได้ว่า ถ้าผู้เล่นเท่ากัน ลิเวอร์พูลชนะแน่

แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ นั่นคือ แม้ช่วงต้นเกม ท็อตแน่มจะดูอันตราย แต่จังหวะการคุกคามนั้น ลิเวอร์พูลมีมากกว่า

ในเกมที่สูสีแบบนี้ ประตูของ ดิอ๊าซ ย่อมสำคัญอย่างยิ่งยวด ต่อให้ตัวน้อยกว่า ปรับโม ซาล่าห์ มายืนเป้า โคดี้ กัคโป ถอยลงมา  … ถ้าลิเวอร์พูล ขึ้นนำ ก็น่าจะทำให้ทีมเจอร์เก้น คล็อปป์ เล่นง่ายขึ้น

ลิเวอร์พูลดูเป็นฝ่ายโดนกระทำ เยอะมากในแม็ตช์นี้นะครับ และไม่ได้เกี่ยวกับท็อตแน่ม นำมา, แต่เป็นผู้ตัดสิน และทีมงาน

ไลน์แมนควรจะเข้าใจเกม และรู้ว่าเดี๋ยวโม ก็คงต้องส่งให้ ดิอ๊าซ วิ่ง ซึ่งไลน์แมนก็อยู่ใกล้เหตุการณ์ สามารถเห็นลายหญ้าช่วย มันเป็นจังหวะสำคัญ

ต่อมามีการแถลงว่า คนในห้องควบคุมวีเออาร์ ดาร์เรน อิงแลนด์ สื่อสารผิดพลาดกับ ผู้ตัดสินในสนาม แจ้งว่า “เช็ค คอมพลีท” เพราะคิดว่า ฮูเพอร์ ให้ประตูลิเวอร์พูล  พอบอกมาจากห้องส่งว่า ตรวจสอบสมบูรณ์ก็หมายถึง ลิเวอร์พูลได้ประตู

ในขณะผู้ตัดสินเป็นอีกแบบหนึ่ง ไม่มีคำแย้งมา ก็แสดงว่า ที่เขาไม่ให้ประตูนั้นถูกต้อง  คำแก้ต่อมาคือ พอวีเออาร์ รู้ว่าทำผิดไป สเปอร์สได้ฟรีคิก เริ่มเล่น ตามกฎก็ไม่สามารถไปโต้แย้งได้อีก

ถึงบรรทัดนี้ ขอแฟนหงส์ ช่วยอุทานแบบสุภาพ พร้อมกันสักคำขอรับ  ………… แฮ่ !

มีหลายเหตุการณ์ได้ใบเหลืองในเกมนี้ ที่เด็กหงส์ไม่พึงพอใจกันนะครับ และใบเหลืองแรกของตัวสำรอง ดิโอโก้ โชต้า ก็โชคร้าย เดสตินี่ อูโดกี้ กองหลังไก่ ขาหลังไปสะกิดขาหน้าตัวเองล้มลง ได้ฟาวล์ และเรียกใบเหลืองได้เฉย  ผู้ตัดสินก็วิ่งตามมาไม่ไกลเลย

คุณอาจจะวิจารณ์ โชต้า ที่ไม่ระวังกับใบเหลืองที่ 2  ที่เกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ เพียงนาทีต่อมา และทำให้สถานการณ์ลิเวอร์พูล กลายเป็นเลวร้าย จากที่พอจะยังสู้ได้ ทำให้บอสส์ ต้องตัดสินใจ ไม่ต้องมีหน้ากันแล้ว เอา ดิอาซและ โม ออกหมด  … แต่อย่าไรเสีย ไม่มีใบเหลืองแรก ก็ไม่มีใบเหลืองที่สอง

และนั่นทำให้สิ่งที่ผมคิดไว้ก่อนเกมตอนเห็นรายชื่อทีม ดาร์วิน นูนเยซ ที่น่าจะเป็นแผนลงมาเป็นทีเด็ดในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย หรือห้วงเวลาน้อยกว่านั้น ก็อดลงเล่นไปด้วย

ทีมของอังเก้ ปอสเตโคกลู นั้นน่าดู มีของนะครับ แต่สุดท้าย จวนจะหมดช่วงทดเวลาบาดเจ็บอยู่แล้ว ถ้าไม่เป็นความโชคร้ายสกัดเข้าประตูตัวเองของ โฌแอล มาติป,  มันก็ควรจะเป็น “หนึ่งแต้มที่สุดยอด” ของลิเวอร์พูล

สิ่งที่เกิดขึ้นที่ N17  (ฝรั่งชอบใช้ช่วงต้นของรหัสไปรษณีย์ ที่บ่งบอกตำแหน่งที่ตั้งสโมสร, แอเรียไหน เป็นคำเท่ๆ คำหนึ่ง) ,  ถ้าเอ่ยแบบเด็กหงส์ ก็อาจจะทำนองว่า ;

“ทุกคนเจ๋งมากแล้ว เหลือสิบคนตั้งแต่ 26 นาทีแรก

เหลือ 9 คน ตั้งแต่นาที 69  ต้องปรับหมากถอดหน้าออกหมด เพราะคุณกำลังแข่งกับทีมคุณภาพสูง

เราแพ้ด้วยกันครับ มาติป

จากนี้ไป  … ก็มาดิคร้าบ

โดนทำร้ายทุกรูปแบบ แต่คุณไม่มีวันทำลาย สปิริตของทีม ไปได้ !”

ท่าที ดาร์วิน นูนเยซ ศูนย์หน้าที่อดลงเล่น เดินไปหากลุ่มแฟนอะเวย์หลังเกม ทำท่าปลุกเร้า เอามือตบไปที่ตราสโมสรบนหน้าอกนั้น ได้ใจเหลือเกิน

มันเหมือนบ่งบอกว่า คุณอาจตัดสินไม่เป็นธรรมกับเรา เล่นงานพวกเราอย่างไร

แต่คุณไม่สามารถทำลายสปิริตที่น่าทึ่งของทั้ง นักเตะ และแฟน ไปได้

ลิตเติ้ลโจ