VAR ทำพิษ, 9 คนสู้ยิบตา!เจาะ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ต้านไม่ไหวแพ้ สเปอร์ส

VAR ทำพิษ, 9 คนสู้ยิบตา!เจาะ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ต้านไม่ไหวแพ้ สเปอร์ส
ลิเวอร์พูล ต้องพบกับความพ่ายแพ้เกมแรกในลีกหลังออกไปโดน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส สอยด้วยสกอร์ 1-2 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้ "หงส์แดง" มีผู้เล่นน้อยกว่า 2 คน แถมยังมาโดน "วีเออาร์" ทำผิดในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่ทีมจะดวงแตกเมื่อ โฌเอล มาติป สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง อย่างไรก็ตาม ต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้กับความมุ่งมั่นของเจ้าบ้านที่ไล่บดขยี้ทีมเยือนอย่างหนัก และได้ 3 คะแนนที่ต้องการ ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ แอนด์ โค. ต้องทำใจเนื่องจากแมตช์นี้หลายอย่างไม่เข้าทาง โดยเฉพาะการตัดสินของกรรมการ

1. สปิริตสุดยอดแม้เป็นรองสุดกู่

จังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ โดนใบแดงไล่ออกกลายเป็นแมตช์ที่ 3 ของซีซั่นนี้ที่ "หงส์แดง" ต้องมีผู้เล่นตกเป็นรองคู่แข่งในเกมพรีเมียร์ลีก และแน่นอนว่าการที่ต้องเล่น 10 คนตั้งแต่กลางครึ่งแรกเป็นงานที่สุดหินมากๆ เพราะคู่แข่งอย่าง สเปอร์ส อันตรายสุดๆ ในจังหวะการเล่นเกมรุก

ขณะที่ครึ่งหลังทีมเหลือ 9 คน เพราะ ดีโอโก้ โชต้า โดนใบเหลืองติดๆ กัน 2 ใบในนาทีที่ 68 กับ 69 ยิ่งทำให้ ลิเวอร์พูล ตกเป็นรองแบบสุดกู่ แต่สิ่งที่ยังพออุ่นใจได้บ้างก็คือสกอร์ยังเสมอกัน 1-1 ในช่วงเวลานั้น แม้สุดท้าย โฌเอล มาติป จะพลาดทำเข้าประตูตัวเอง ทำให้ "เดอะ เร้ดส์" แพ้ด้วยสกอร์ 2-1

ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง แต่ก็ไม่มีสิทธิ์อ้างว่ามีผู้เล่นน้อยกว่าถึง 2 คน เพราะหากวิเคราะห์กันอย่างตรงไปตรงมา จังหวะของ โจนส์ อาจจะมองได้สองมุมเพราะนักเตะไม่ได้เจตนาแต่การเล่นอันตรายย่อมส่งผลเสียต่อเพื่อนร่วมอาชีพ ขณะที่จังหวะของ โชต้า ต้องบอกว่าเป็นการเสียท่าของ ดาวเตะชาวโปรตุกีส เอง 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถือเป็นเรื่องดีมากๆ ที่สาวก "ค็อป" ควรภูมิใจก็คือ "สปิริต" ของนักเตะลิเวอร์พูลสายเลือดใหม่ ที่สู้ไม่มีถอย และช่วยกันเลย พยายามตัดเกมจากนั้นก็มองหาโอกาสยิงประตู แน่นอนว่าบทเรียนในเกมนี้จะทำให้แข้ง "หงส์แดง" ได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย 

2. ลุ้นอาการเจ็บ กัคโป

แฟนบอลิเวอร์พูลหลายคนคงอยากเห็น ดาร์วิน นูนเญซ ลงเป็นตัวจริง เพราะนักเตะฟอร์มกำลังดีวันดีคืน และเล่นด้วยความมั่นใจ แต่งานนี้ โคดี้ กัคโป แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเหมาะสมที่จะได้ลงเล่นก่อน เพราะนักเตะมีส่วนร่วมกับเกมได้ดีเยี่ยม

กองหน้าชาวดัตช์ ฉลาดหลักแหลมในการวิ่งเพรสซิ่ล และครองบอลอย่างระมัดระวังซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ในช่วงที่ทีมตกเป็นรองเรื่องผู้เล่น ที่สำคัญ กัคโป แสดงให้เห็นถึงไหวพริบในการจบสกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงท้ายครึ่งแรกด้วย

สำหรับผลงานในแมตช์นี้เป็นการยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า คล็อปป์ ตัดสินใจถูกที่เลือกส่ง กัคโป ลงเล่นตัวจริง เชื่อว่าหากนักเตะไม่มีปัญหาบาดเจ็บ น่าจะยังคงอยู่สร้างความปั่นป่วนให้กับเกมรับ สเปอร์ส ต่อไปในช่วงครึ่งหลังชัวร์

ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดที่แฟนบอล "หงส์แดง" ต้องลุ้นก็คือนักเตะจะไม่มีปัญหาบาดเจ็บรุนแรงจนต้องพักหลายเกม เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีม และช่วยทำให้สโมสรสร้างผลงานได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นฤดูกาลนี้ 

3. วีเออาร์ ทำพิษอีกแล้ว

ตอนนี้หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยแล้วว่าระบบ "วีเออาร์" (VAR) ช่วยสร้างมาตรฐานให้กับวงการลูกหนังได้จริงไหม หลังจากที่เกิดความผิดพลาดบ่อยเหลือเกินในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุด ลิเวอร์พูล ต้องเสียประโยชน์อย่างมหันต์จากความผิดพลาดของเทคโนโลยีช่วยตัดสินในแมตช์นี้

ในช่วงระหว่างที่ "หงส์แดง" เหลือผู้เล่น 10 คน พวกเขาต้องอาศัยจังหวะสวนกลับ และสัมฤทธิ์ผลเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ผ่านบอลสุดเฉียบคมให้ หลุยส์ ดิอาซ หลุดมาไปยิงประตู แต่ไม่ได้ประตูเนื่องจาก "วีเออาร์" เช็คว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า

สำหรับจังหวะดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างหนัก และกลายเป็นไวรัลทั่วสื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากมองจากมุมไหนก็ไม่ล้ำหน้า แถมสตูดิโอของ "บีอิน สปอร์ต" (BeIN Sport) ทำการตีเส้นจังหวะดังกล่าว และเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามองจากมุมไหน ดิอาซ ก็ไม่อยู่ในจังหวะล้ำหน้า 

ล่าสุด  องค์กรผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ (พีจีเอ็มโอแอล) ออกโรงยอมรับแล้วว่าทีมงานผู้ตัดสินก่อความผิดพลาดในจังหวะดังกล่าว  และได้ทำการขอโทษไปยัง ลิเวอร์พูล แล้ว แต่สุดท้ายก็เท่านั้นเพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขัน

หลายคนอาจมองว่าแพ้ก็คือแพ้ แต่ถ้าหากมองอย่างเป็นกลางถ้าจังหวะของ ดิอาซ เป็นประตู งานนี้ สเปอร์ส คงเปิดเกมบุกหนักกว่าเดิม และน่าจะทำให้แนวรุก "หงส์แดง" มีพื้นที่ได้เล่นสวนกลับมากยิ่งขึ้น แต่ก็เท่านั้นเพราะมันเป็นแค่จินตนาการ ไม่ใช่ความจริง (ที่เจ็บปวด) !!! 

4. วิคาริโอ โชว์เซฟสำคัญช่วย สเปอร์ส

เกมนี้ต้องยอมรับว่า สเปอร์ส ทำผลงานได้ดีเยี่ยมทุกตำแหน่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่พวกเขาได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น แต่ถ้าจะหานักเตะที่มีส่วนสำคัญต่อชัยชนะแน่นอนว่า กูเยลโม่ วิคาริโอ คือคนที่สมควรได้รับการยกย่องอย่างมาก

สเปอร์ส พยายามควานหานายทวานคนใหม่เพื่อมาแทนที่ อูโก้ โยลิส กัปตันทีม จนกระทั่งพวกเขาได้ วิคาริโอ มารับหน้าที่มือ 1 ซึ่งแน่นอนว่านักเตะทำผลงานได้อย่างโดดเด่น มีจังหวะเซฟสำคัญหลายคนในการเล่นเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีฤดูกาลนี้

นายทวารชาวอิตาเลียน ไม่แสดงอาการประหม่าเลยในเกมเปิดตัวปะทะ เบรนท์ฟอร์ด และเล่นด้วยความมั่นใจมาตลอด ขณะเดียวกันในเกมนี้เจ้าตัวโชว์ซูเปอร์เซฟสองจังหวะติดกันจากการยิงของ โคดี้ กัคโป และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 

ถ้าหากสองจังหวะดังกล่าวเป็นประตูสถานการณ์ของ "ไก่เดือยทอง" คงน่าเป็นห่วง ดังนั้นเครดิตควรยกให้ วิคาริโอ ที่ช่วยป้องกันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แน่นอนว่าเกมลีกยังอีกยาวไกล และเจ้าตัวก็ยังไม่ได้ทำผลงานเพอร์เฟกต์มากนัก แต่อย่างน้อยๆ เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าทีมเลือกถูกที่ได้โกลรายนี้มาร่วมทัพ 

5. โชคดีแมนซิตี้แพ้

การพ่ายแพ้ในเกมนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะนั่นทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทำแต้มแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พ่าย วูล์ฟส์ อย่างเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตามถ้าหากมองอีกมุม แม้ "หงส์แดง" จะไม่ได้อะไรกลับบ้าน แต่ก็ไม่โดน "เรือใบสีฟ้า" ทำแต้มทิ้งห่างออกไป

"เดอะ เร้ดส์" ยังคงมีเพียง 16 คะแนนเท่านั้น และห่างจากทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า 2 แต้ม ตามหลัง สเปอร์ส กับ อาร์เซน่อล ทีมละ 1 คะแนนเท่านั้น ฉะนั้นการที่ คล็อปป์ แอนด์ โค. หล่นมาอยู่อันดับ 4 ยังถือว่าไม่ได้ส่งผลเสียอะไรมากนัก

แน่นอนว่าหนทางยังอีกยาวไกลในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก เพราะเพิ่งจะผ่านไปแค่ 7 แมตช์เท่านั้น แต่การที่ไม่โดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำแต้มหนีห่างถือเป็นหนึ่งในเรื่องดีๆ สำหรับ ลิเวอร์พูล จากความพ่ายแพ้ในแมตช์นี้ 

แม้ขนาดบางทีมที่มีแต้มตามหลังเกือบ 10 คะแนน แต่เมื่อเห็นทัพ "สำเภาทอง" สะดุด นั่นอาจทำให้เกิดขวัญกำลังใจ และเชื่อว่ายังมีโอกาสไล่ตามทัน เพราะทุกอย่างยังเปิดกว้างงงงง  !!! 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport