ทำไมลา ลิเวอร์พูล?จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดใจชัดๆเพราะเงินหรือเปล่า

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อดีตกองกลาง ลิเวอร์พูล ยืนยันว่า สาเหตุที่อำลา "หงส์แดง" ไปอยู่กับ อัล-เอตติฟาค สโมสรในลีกซาอุดีอาระเบีย ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน แต่เป็นเพราะรู้ตัวดีว่า จะไม่ได้มีโอกาสลงสนามต่อเนื่องแล้วในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์

มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ วัย 33 ปี ซึ่งได้ค่าเหนื่อยจาก อัล-เอตติฟาค ราว 700,000 ปอนด์ (ประมาณ 31.5 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ เผยผ่าน ดิ แอธเลติก สื่อเมืองผู้ดีว่า "มันมีสัญญานบางอย่างเตือนผม ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ กับ เจอร์เก้น เขาซื่อสัตย์กับผมมาก" 

"ผมจะไม่ขอลงรายละเอียดเกี่ยวกับการสนทนา เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่มันทำให้ผมอยู่ในสถานะที่รู้ว่าตัวเองจะไม่ได้ลงเล่นมากนัก ผมรู้ว่าจะมีนักเตะใหม่เข้ามาในตำแหน่งของผม" 

"ถ้าผมไม่ได้ลงเล่น อย่างที่ใครๆ ก็รู้ โดยเฉพาะผู้จัดการทีม นั่นอาจเป็นเรื่องยากสำหรับผม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผมอยู่กับสโมสรมานาน ผมเป็นกัปตันทีมมานานแล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมชาติอังกฤษเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม"

"ในเวลานั้น ผมรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองหรือความต้องการให้ผมอยู่ต่อ กับผู้จัดการทีมและภายในสโมสร บางทีมันอาจจะเปลี่ยนไป ผมรู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงจุดหนึ่ง ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นตอนนี้ และผมต้องยอมรับสิ่งนั้น นั่นเป็นสิ่งที่ยากลำบาก"

"ผู้คนอาจจะมองว่า สโมสรนี้เข้ามาพร้อมกับเงินก้อนโต และผมจะย้ายไป เมื่อในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ผู้คนจะเชื่อผมหรือไม่ แต่ในชีวิตและอาชีพของผม เงินไม่เคยเป็นแรงจูงใจต่อตัวผมเลย" 

"ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ กับ เจอร์เก้น และกับเหล่าเจ้าของทีม สิ่งนั้นจะคงอยู่ไปตลอดกาล สิ่งที่เราทำได้ร่วมกันในช่วง 12 ปีที่ผ่านมามันน่าทึ่งมากๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากสำหรับผมเหมือนกัน"

 "ถ้าเกิดใครสักคนในกลุ่มพวกเขาบอกกับผมว่า -เราอยากให้นายอยู่ต่อ- แล้วล่ะก็ ตอนนี้เราก็คงไม่ต้องมานั่งพูดแบบนี้กันแล้ว และผมก็คงจะคิดว่าอาชีพการเล่นของผมจะเป็นยังไงต่อไป ผมไม่ได้จะบอกหรอกนะว่าพวกเขาบีบให้ผมต้องออกจากสโมสร หรือสื่อว่าพวกเขาบอกว่าต้องการให้ผมย้ายออกจากทีม แต่มันไม่มีช่วงไหนเลยที่ผมรู้สึกว่าเป็นที่ต้องการของสโมสร หรือรู้สึกว่ามีคนอยากให้ผมอยู่ต่อ"

 "ก่อนหน้านี้ผมทำงานอย่างหนัก และหลายคนก็เห็นกันแล้วว่าผมมีสภาพร่างกายเป็นยังไงในตอนที่กลับมารายงานตัวกับทีม แต่พอผมกลับมาแล้วน่ะสถานการณ์มันก็ยังเหมือนเดิม มันทำให้ผมคิดกับตัวเองว่า -เอาตรงๆ เลยนะ ตอนนี้ต่อให้ฉันทำอะไรแล้วน่ะมันจะมีประโยชน์อะไรอีกเหรอ ?-"