จะรุ่งหรือร่วง? 7 สตาร์หน้าใหม่ที่น่าจับตาในเวที พรีเมียร์ลีก

จะรุ่งหรือร่วง? 7 สตาร์หน้าใหม่ที่น่าจับตาในเวที พรีเมียร์ลีก
ถึงแม้ช่วงซัมเมอร์นี้มีหลายคนตัดสินใจย้ายออกไปเล่นที่ประเทศอื่น โดยเฉพาะลีกเศรษฐีน้ำมันอย่าง ซาอุดีอาระเบีย ที่พร้อมเปย์เงินให้แบบไม่อั้น แต่ก็มีนักเตะระดับสตาร์ดังอีกไม่น้อยเช่นกัน ที่เลือกตบเท้าย้ายเข้ามาวาดลวดลายในเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ และนี่คือ 7 ผู้เล่นหน้าใหม่ที่น่าจับตามองประจำฤดูกาล 2023-24

- โดมินิค โซโบซไล (ลิเวอร์พูล)


มิดฟิลด์หน้าหล่อวัย 22 ปี ที่เป็นถึงระดับกัปตันทีมชาติฮังการี ย้ายจาก แอร์เบ ไลป์ซิก เข้าสู่ถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท) พร้อมถูกคาดหวังไว้สูงทีเดียวจากเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ในฐานะนักเตะหมายเลข 8 ที่เปรียบเสมือนเป็นทายาทของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งถึงแม้บทพิสูจน์ตัวเองยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกล แต่อย่างน้อย โซโบซไล ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เขานิ่งพอที่จะเล่นในเวที พรีเมียร์ลีก หลังจากที่คว้า "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" 2 จาก 4 เกมที่เล่นให้ ลิเวอร์พูล ในลีกซีซั่นนี้ แถมเพิ่งซัดประตูสุดสวย อันเป็นประตูแรกในสีเสื้อ "หงส์แดง" ของเจ้าตัวในเกมล่าสุดที่เปิดบ้านอัด แอสตัน วิลล่า 3-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย 

- ราสมุส ฮอยลุนด์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)


ด้วยการที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองอะไรมากในเวทีใหญ่ๆ ดังนั้นการย้ายมาจาก อตาลันต้า ด้วยค่าตัวรวมโบนัสสูงถึง 72 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,240 ล้านบาท) ถือเป็นความกดดันอันมหาศาลที่ หัวหอกทีมชาติเดนมาร์กวัย 20 ปี จำเป็นต้องแบกรับเอาไว้ ในฐานะกองหน้าตัวเป้าความหวังใหม่ของเหล่าแฟนบอล "ปีศาจแดง" แต่ถึงกระนั้นการลงเล่นนัดแรกในสีเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือว่าน่าพอใจเลยทีเดียว ถึงแม้สุดท้ายทีมบุกไปพ่าย อาร์เซน่อล อย่างน่าเจ็บใจด้วยสกอร์ 1-3 ก็ตาม 

- โมฮัมเหม็ด คูดุส (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)


เคยมีข่าวได้รับความสนใจจากทั้ง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ อาร์เซน่อล แต่สุดท้ายได้มาค้าแข้งในเวที พรีเมียร์ลีก กับสโมสรระดับกลางอย่าง "ขุนค้อน" ซึ่งจะว่าไปก็ถือว่าไม่น่าเกลียด เพราะ เวสต์แฮม เป็นทีมที่ดูมีอนาคตที่ดี และ คูดุส เองก็น่าจะได้รับโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอด้วย หากเทียบกับการย้ายไปเล่นให้สโมสรยักษ์ใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ดังนั้นนี่คือฤดูกาลที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับ สตาร์ตัวรุกทีมชาติกานาวัย 23 ปี ที่ย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัว 38 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,710 ล้านบาท) 

- อันซู ฟาติ (ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน) 

ถึงแม้ย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า แบบสัญญายืมตัว 1 ซีซั่น และไม่มีออปชั่นที่ ไบรท์ตัน สามารถซื้อขาด แต่หนึ่งฤดูกาลนี้ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก สำหรับ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติสเปนวัย 20 ปี  ที่หวังมาชุบตัวในเวที พรีเมียร์ลีก หลังจากที่ยังไม่ปังเท่าที่ควรกับ บาร์เซโลน่า นับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2019 ดังนั้นการได้มาร่วมงานกับกุนซือจอมปั้นอย่าง โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ถือว่าน่าจับตามองอย่างยิ่ง

- ยอสโก้ กวาร์ดิโอล (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

ปราการหลังจอมแกร่งชาวโครแอตวัย 21 ปี ย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัวสูงถึง 77 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,465 ล้านบาท) และก็ได้รับโอกาสพิสูจน์ฝีเท้าจากกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทันที ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าสอบผ่าน แต่ฤดูกาลนี้ยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกล ยังไงก็ต้องดูกันอีกยาวๆ กระนั้นการได้มาอยู่กับยอดทีมอย่าง "เรือใบสีฟ้า" ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับ กวาร์ดิโอล ที่จะยกระดับตัวเองขึ้นเป็นหนึ่งในกองหลังระดับท็อปของโลก 

- ซานโดร โตนาลี่ (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)


เปิดตัวนัดแรกได้อย่างสวยหรู ด้วยการโชว์ฟอร์มอันโดดเด่น แถมกดหนึ่งตุงในเกมที่ช่วย นิวคาสเซิ่ล เปิดบ้านยำใหญ่ แอสตัน วิลล่า 5-1 เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม ทว่าหลังจากนั้นสามเกม "สาลิกาดง" แพ้รวด!!! ทำเอา โตนาลี่ เสียศูนย์ไปเหมือนกัน แต่ถึงอย่างไร ห้องเครื่องทีมชาติอิตาลีวัย 23 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง เพราะเจ้าตัวก็คงอยากพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นเช่นกันว่า ทำไม นิวคาสเซิ่ล ถึงยอมจ่าย 55 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,745 ล้านบาท) เพื่อดึงเขามาจาก เอซี มิลาน 

- คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู (เชลซี)

น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บตรงหัวเข่า ทำให้ แนวรุกทีมชาติฝรั่งเศสวัย 25 ปี ซึ่งย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 52 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,340 ล้านบาท) ยังไม่ได้ลงเล่นให้ เชลซี ในฤดูกาลนี้แม้แต่นัดเดียว แต่ฟอร์มของเจ้าตัวในช่วงปรี-ซีซั่น ถือว่าน่าประทับใจไม่น้อย และแน่นอนว่า เขาย้ายมาในฐานะตัวความหวังใหม่ในแดนหน้า เชลซี ซึ่งแฟนๆ "สิงห์บลูส์" ก็ได้แต่หวังว่า ทีมจะมีผลงานดีขึ้นเมื่อได้เขากลับมาลงสนาม โดยเฉพาะเกมรุกที่ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของทีม แม้ตอนนี้เปลี่ยนกุนซือมาเป็น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แล้วก็ตาม 

Subinho


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport