"ฟอร์มของเราถือว่าดีมาก ผมไม่อยากบอกว่ามันเพอร์เฟกต์เพราะยังมีบางอย่างที่ต้องปรับปรุงกันแต่วันนี้พวกเรามีความเหนียวแน่น, มีเกมเพรสยอดเยี่ยมและการเคลื่อนที่ไปกับบอลได้ดี เราไม่ได้เปิดโอกาสให้อาร์เซน่อลเข้าโจมตีเราได้ง่าย มันจึงมีสัญญาณแง่บวกจากเกมวันนี้ที่หลายอย่างไม่เป็นใจให้กับเรา..."
เอริค เทน ฮากก็ยังเป็นเขาคนเดิม คนที่มักพูดตรงไปตรงมา คนที่มีมู้ดบูดๆเสมอยามทีมแพ้โดยจากบทสัมภาษณ์หลังเกมเมื่อวันอาทิตย์ก็ถือว่ามีความเป็นจริงรวมในนั้น
อย่างจบครึ่งแรกที่สกอร์ยัง1-1ก็เป็นฝ่ายครองบอล(53%)กับผ่านบอล(228ครั้ง)เยอะกว่าทางทีมปืนโต เกมในครึ่งหลังถึงต้องตั้งรับหนักกว่าเดิมแต่ภาพรวมก็ทำได้ตามแท็กติกที่วางไว้ นอกจากนั้นยังได้ลูกโต้กลับเร็วเข้าไปพังตาข่ายได้ด้วยจากอเลฮานโดร การ์นาโช่
"ลูกนั้นไม่ล้ำหน้า เราก็ควรได้ลูกโทษด้วยเพราะฮอยลุนด์โดนทำฟาวล์"เทน ฮากยืนกรานความคิดตัวเองผ่านไมโครโฟน
ฟุตบอลก็แบบนี้มักตัดสินที่รายละเอียด บ่อยหนก็ยังมาจากผู้ตัดสินกับในยุคสมัยนี้ที่เอาเทคโนโลยีมาช่วย
คุณจะเห็นด้วยกับเทน ฮากหรือไม่ก็ตาม ก็สามารถกล่าวได้ว่ามันเป็นเกมที่โหดร้ายไปสำหรับใครก็ตามที่เชียร์แมนฯยูไนเต็ด นอกจากโดนริบประตูจากVARแล้วก็ยังมาโดนสองลูกติดๆตอนทดเวลาบาดเจ็บ
"Arsenal Arsenal Arsenaaaaaal"กระหึ่มทั้งสี่ทิศในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ในมุมของผองกูนเนอร์สย่อมทั้งดีใจและสะใจกับสามแต้มอันล้ำค่านี้ พวกเขาย่อมจินตนาการต่อได้ว่ามันก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนของซีซั่นที่ออกสตาร์ทตะกุกตะกัก เกมที่เอาชนะมาได้ก็ไม่ใช่เล่นน่าประทับใจ
ฟุตบอลมีโมเมนตัมของมันเสมอ ทางตรงกันข้ามเลยที่หันไปมองตรงมุมประตูฝั่งทีมเยือนก็พบเก้าอี้ที่ว่างหลายตัว อีกเกมที่เจ็บปวด อีกครั้งที่ทำให้เกิดคำถามขึ้นต่อทีมตัวเอง ถูกต้องว่าบรรทัดสุดท้ายโค้ชก็ต้องรับผิดชอบ
เพราะนี่เป็นการตอกย้ำถึงสถิติเกมเยือนทีมใหญ่ ซีซั่นที่แล้วผลงานนอกรังเจอทีมท็อปเทนตารางอ่านได้ว่า ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 7(ชนะเกมเดียวคือฟูแล่ม ได้ประตูชัยจากการ์นาโช่ทดเจ็บ)
ผ่านมาฤดูกาลนี้ก็ยังคงไม่แตกต่างไป สองเกมที่ลงมาเจอทีมจากนอร์ธ ลอนดอนจบด้วยความปราชัยทั้งสเปอร์สและล่าสุดอาร์เซน่อล
เพราะคงไม่มีใครหรอกคาดคิด ถ้ามีก็คงน้อยมากๆที่กล้าเชื่อว่าแฮร์รี่ แม็กไกวร์กับจอห์นนี่ อีแวนส์จะได้ประสานงานกันอีกครั้ง หนสุดท้ายก็สมัยอยู่เลสเตอร์ปี2018/19โน่น
ใช่ครับ นี่ย่อมไม่เรียกว่าพัฒนาการในขวบปีที่สองของเทน ฮาก
ทุกอย่างต้องการเวลา อย่างยิ่งใครก็ตามที่มาคุมแมนฯยูไนเต็ดย่อมรู้สึกเหมือนแบกจักรวาลเอาไว้ กระนั้นจากสี่เกมแรกที่ผ่านไปก็ยังไม่มีน้ำหนักให้จับต้องได้เลยว่าช่องว่างของสองสโมสรสีแดงกับฟ้าในแมนเชสเตอร์จะขยับเข้าใกล้กว่าเดิม
การออกมาตอบคำถามนักข่าวตรงไปตรงมากรณีเจดอน ซานโช่ก็ดูไม่ช่วยอะไรทีมด้วยเพราะต่อมาไม่นานตัวนักเตะก็โพสต์ตอบโต้โดยสรุปสั้นได้ว่า"ผมเป็นแพะรับบาปมานานแล้ว"
จุดแข็งเทน ฮากอยู่ที่วินัย สปิริตกับการทำงานหนัก นี่ก็ถือเป็นคาแรกเตอร์ที่ใครก็ตามอยากประสบความสำเร็จพึงต้องมี
เพียงแต่ใช่ว่าทุกครั้งจำต้องงัดไม้แข็งมาใช้ ในเมื่อการปกครองคนมีหลายวิธีที่จะทำให้เรือสักลำแล่นผ่านคลื่นมรสุมไปถึงฝั่งได้
เทน ฮากควรทำได้ดีกว่านี้ จากที่เขาเคยออกมากล่าวไว้ตอนปรีซีซั่นที่ผ่านมา"พวกเรามองไปที่ประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูจากคุณภาพของนักเตะที่เรามี คุณสามารถพูดได้เลยว่าอะไรที่พวกเราต้องการจะไปให้ถึง พวกเราต้องการเป็นทีมที่มีเกมการเล่นเข้าทำเร็วดีที่สุดในโลก พวกเราต้องการทำให้ทุกคนประหลาดใจ"
ประตู1-0กับอาร์เซน่อลเมื่อวันอาทิตย์ถือเป็นเครื่องหมายการค้าเลยของผียุคโค้ชชาวดัตช์ ฉวยโอกาสความผิดพลาดคู่แข่งและลงโทษถึงก้นตาข่ายอีกฝั่ง
แต่วิธีการแบบนี้อาจเหมาะในเกมยากๆเท่านั้น ไม่ใช่เวลาเจอทีมที่อ่อนกว่าจริงไหมเพราะคุณคือแมนฯยูไนเต็ด
เทน ฮากควรทำได้ดีกว่านี้ ย้อนไปตอนที่เขาเข้ามารับงานปกครองอาณาจักรสีแดงได้ประกาศไว้ว่า"ทั้งซิตี้กับลิเวอร์พูลต่างเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมแต่ช่วงเวลาของพวกเขาจะหมดลงในไม่ช้านี้..."
เข้าสู่ปีที่สอง คำกล่าวข้างบนยังไม่ใกล้เคียงว่าจะเป็นจริง
"ไก่ป่า"