พลพรรคปีศาจแดงประเดิมศึกพรีเมียร์ลีก 2023/24 ด้วยการเฉือนผู้มาเยือนอย่าง วูล์ฟส์ หวุดหวิด แต่อารมณ์และความรู้สึกเหมือนรอดพ้นจากความเด๊ดห่าอย่างหวุดหวิดซะมากกว่า 5555
และนี่คือสิ่งที่เด็กผีอย่างผมอยากจะบ่น
1. ขณะที่ศูนย์หน้าคนใหม่อย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ ยังไม่พร้อมลงสนาม เอริค เทน ฮาก ค้นพบ 11 ตัวจริงที่เหมาะสมและลงตัวที่สุดมาตั้งแต่ช่วงพรีซีซั่นแล้วนะครับ
ระบบ 4-2-3-1
อองเดร โอนาน่า เฝ้าเสา
แผงแบ็คโฟร์ ราฟาแอล วาราน กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เป็นคู่เซ็นเตอร์ฯ ขนาบด้วยแบ็ค 2 ข้างอย่าง อารอน วาน-บิสซาก้า กับ ลุค ชอว์
แดนกลาง 3 ตัว กาเซมิโร่ กับ เมสัน เมาต์ โดยมี บรูโน่
แฟร์นันด์ส เป็นผู้เล่นหมายเลข 10
กองหน้า 3 ตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด ต้องสวมบทหน้าเป้า ขนาบข้างด้วย อันโตนี่ กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่
ด้วยศักยภาพผู้เล่นที่เหนือกว่า ด้วยการมีทีมที่ดีที่สุดในตอนนี้ และด้วยการเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ด ควรครองบอลบุกกระหน่ำใส่ผู้มาเยือนข้างเดียวแบบพายุอุกาบาตถล่มหัวหมาป่า...ใช่ไหมครับ ???
อนิจจา...ความคาดหวังกับความเป็นจริง มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
2. ครึ่งแรกแม่งเล่นอะไรกันวะ เห็นแล้วหงุดหงิดง่ามตีนชิบหาย
คนไม่มีซิ๊กเซนส์อย่างผมสามารถสัมผัสได้ถึงความอึดอัดตั้งแต่ 5 นาทีแรกที่ครองบอลมากกว่า
ทว่ามันเป็นการครองบอลในแดนตัวเอง โดยลำเลียงลูกไปได้ไม่เกินครึ่งสนาม
วูล์ฟส์ แทบไม่ได้ครองบอล แต่สามารถกดปีศาจแดงให้อยู่ในแดนตัวเองอย่างเดียวด้วยการเคาะไปเคาะมาแล้วคืนหลังอยู่นั่นแหละ
ถามว่าทำไม ???
อันดับแรกเลยคือผู้เล่นพันธุ์หมาป่าขึ้นมาบีบสูง แต่ไม่ได้เพรสส์เข้าใส่ พวกเขาใช้วิธียืนคุมพื้นที่แน่นหนามาก
อันดับต่อมาคือมิดฟิลด์ตรงกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นไม่ออกทั้ง 3 ตัว รวมถึงกองหน้าด้านซ้ายอย่างไอ้หนูอาร์เจนติน่า
พวกเขาเอาบอลพลิกขึ้นไปข้างหน้าไม่ได้ คุณภาพการรับส่งบอลก็บัดซบมาก ต่อบอลกันได้ไม่กี่จังหวะก็ทำเสียกันง่ายๆ
เกมออกมาเชื่องช้าและอืดอาด สร้างจังหวะเข้าทำกันขาดๆ เกินๆ
ต่อเมื่อเล่นเร็วไม่ได้มีปัญหาทันที
เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดความต่อเนื่อง ไม่มีความหลากหลาย ปราศจากความดุดัน และไม่ได้สร้างความกดดันให้ผู้มาเยือน
3. ลิซานโดร มาร์ติเนซ เล่นได้ครึ่งเดียวก็ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกซะอย่างนั้น
เหตุเพราะดันโดนใบเหลืองแบบไม่น่าโดน แล้วเล่นด้วยความดุเดือดเลือดพล่านตามสไตล์ของตัวเองไม่ได้ เพราะมันล่อแหลมและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกไล่ออก
จังหวะนั้น คุณพี่เขาเล่นแรงแบบไม่จำเป็น คือไม่จำเป็นต้องทิ้งตัวเสียบทะลุดากขนาดนั้น แค่ตามไปประชิดแล้วรอจังหวะก็พอแล้วพ่อ
เมสัน เมาต์ ที่ดึงมาด้วยหวังว่าสร้างความสมดุลย์พลางช่วยให้เกมไหลลื่นกลับทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ พอเปลี่ยนออกแล้วเอา คริสเตียน เอริคเซ่น ลงมา ปรากฎว่าเกมมีชีวิตชีวามากขึ้นทันตาเห็น
4. ตลอดทั้งเกม แมนฯ ยูไนเต็ด แทบหาโอกาสทำประตูแบบเหมาะเหม็งไม่เจอ
ยกเว้นจังหวะที่ได้ประตูชัย
และนั่นเป็นเพียงครั้งเดียวที่พวกเขาสมควรได้ประตูมากที่สุด นอกนั้นไม่มีจังหวะไหนใกล้เคียงเลยอันสะท้อนถึงเกมรุกที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ
ปีก 2 ข้าง เลี้ยงกินตัวคู่แข่งไม่เป็น ตัดเข้าในก็ไม่ถนัด เวลาเปิดบอล ถ้าน้ำหนักไม่ขาดก็ล้นทะลัก แถมไม่ค่อยประสานงานกับหัวหอกสักเท่าไหร่
ห้องเครื่องตรงกลางก็ตกอยู่ในอาการง่อยแดกนะคะ
สุดท้ายก็ต้องหวังพึ่ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เหมือนเดิม
5. ส่วนจังหวะปัญหาที่แฟนบอลผู้รักความยุติธรรมแบบเต็มประดาจำนวนหนึ่งร้องเรียนและโวยวายนั้น
คือจังหวะที่ อองเดร โอนาน่า ลอยตัวโถมเข้าใส่คู่แข่งจนล้มคว่ำในจังหวะขึ้นโขก
ถามว่าควรเป็นจุดโทษหรือไม่ ???
ผมมองว่าไม่ฟาวล์นะครับ ขอโทษ
เพราะคุณพี่เขาเจตนาพุ่งปัดบอลด้วยใจบริสุทธิ์อย่างชัดเจน
แล้วมึง เอ๊ย! คุณจะให้เขาทำอย่างไรในจังหวะแบบนี้ คนเป็นผู้รักษาประตู ใจคอจะให้ยืนมองบอลลอยผ่านหน้าตัวเองบนเส้นเฉยๆ หรือไง ???
และต่อให้ไม่มีการปะทะ วูล์ฟส์ ก็ไม่น่าจะได้ประตูจากจังหวะนี้อยู่ดี เพราะบอลมาสูงเกินกว่าจะโขกเต็มหน้าผาก
ช่วงท้ายเกม เอริค เทน ฮาก เปลี่ยนตัวให้ลูกทีมเล่นเกมรับกันมากเกินไปหน่อย เข้าใจไหม โบ้ไม่ชอบเลย เอ๊ย! บู๋ไม่ชอบเลย มันเสียว
โชคดีที่เกมรุกของผู้มาเยือนมีความสากกะเบือสูง ปีศาจแดงเลยรอดตายหวุดหวิด
ชนะก็จริง แต่ฟอร์มการเล่นไม่ไฉไลเอาเสียเลย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งในวรรณะเดียวกันอย่าง แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล, นิวคาสเซิ่ล, เชลซี และลิเวอร์พูล
ว่าแล้วก็ขอเรียนตามตรงว่าถ้าเล่นได้แค่นี้ มันยังไม่ดีพอที่จะลุ้นแชมป์แน่นอน ไม่ต้องไปหวังเลย
"บอ.บู๋"