เชลซียุคพอชมีหวัง

เชลซียุคพอชมีหวัง
ไม่ง่ายทีอดีตกุนซือท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สจะเป็นที่ยอมรับของแฟนเชลซีได้ในเวลารวดเร็ว จากนอกสนามตรงแผงลอยขายสินค้าเจ้าประจำ ก้าวเท้าไปทักทายตามธรรมเนียม เราคุยกันถึงซีซั่นใหม่บนความหวังใหม่และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

"เขาเป็นโค้ชที่มีฝีมือ เราต้องให้เวลากับเขา เราจะต้องดีขึ้นกลับไปอยู่แถวหัวตารางแน่นอน"คำพูดจากเจ้าของแผงก่อนหน้าบิ๊กแมตช์เมื่อวันอาทิตย์

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ได้รับเสียงปรบมือจากสี่ทิศตอนเดินลงสนาม จากสภาพทีมปัจจุบันที่มีการโอนถ่ายตอนซัมเมอร์ก็ย่อมถือเป็นงานยากแน่ในเกมเปิดสนามกับลิเวอร์พูล

30นาทีแรกของเกมก็บ่งชี้เช่นนั้น ทีมเยือนจากเมอร์ซี่ย์ไซด์เปิดเกมรุกตามสไตล์ ทั้งเพรสเร็ว, ต่อบอลเร็วและเข้าทำเร็ว ประตูนำ1-0จากหลุยส์ ดิอาซที่พุ่งเข้าชาร์ตเสาสองถือเป็นเครื่องหมายการค้าของพวกเขาภายใต้เจอร์เก้น คล็อปป์    


อาการผุดลุกผุดนั่งของพอชรวมถึงหันไปปรึกษาผู้ช่วยที่ก็ชุดเดิมกับที่ทำมาด้วยกันสมัยอยู่สเปอร์สก็หมายถึงความกังวลที่ทีมตัวเองเริ่มต้นเกมได้ไม่ดี ความจริงเมื่อลองพิจารณาจากระยะเวลาเพียงสองเดือนเศษที่เข้ามาคุมทีมที่ไม่เป็นโล้เป็นพายซีซั่นก่อนก็เข้าใจได้ เปลี่ยนโค้ชสามรอบ จากโธมัส ทูเคิ่ล, เกรแฮม พอตเตอร์, มาจนถึงแฟร้งค์ แลมพาร์ด

หลายคนรู้ถึงปัญหาของสโมสรตราสิงโตสีน้ำเงิน

ใช้เงินเยอะแต่ทีมสะเปะสะปะ นั่นทำให้งานแรกของโปเช็ตติโน่เป็นการล้างไพ่ในมือ เขาไม่รีรอที่จะโละกลุ่มนักเตะที่คิดว่าไม่อยู่ในแผนออกไป ทางตรงกันข้ามก็พยายามสร้างทีมในฉบับตัวเองขึ้นมา

แน่นอนว่าเรื่องเวลาก็เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่ง

กระนั้นเชลซีในตอนนี้ไม่ได้เหมือนเดิมที่เคยผ่านๆมา ไม่ได้มีซูเปอร์สตาร์เดินชนกัน ไม่ได้เป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์ จากสิบเอ็ดตัวจริงกับหงส์แดงก็มีแค่ 4 ตำแหน่งเท่านั้นที่ออกสตาร์ทเกมเปิดสนามเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นอกจากนั้นก็มีถึง 6 รายด้วยกันที่ได้ประเดิมสนามทางการ

นี่เรียกว่าการโอนถ่ายทีม

โปเช็ตติโน่วางระบบ3-4-3โดยที่ไล่จากผู้รักษาประตูขึ้นมาก็เรียกได้ว่าเป็นทีมยุคใหม่แท้จริง มีแค่ติอาโก้ ซิลวาคนเดียวที่อายุอยู่หลักเลขสาม ทว่าก็ต้องชื่นชมที่นับจากพังประตูตีเสมอ1-1ได้ในนาที37จากอักเซล ดิซาซี่ กองหลังที่เพิ่งย้ายมาจากโมนาโกก็กลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมได้เกือบหมด

สถิติครองบอล65%กับโอกาสยิงตรงกรอบ4ครั้ง(ลิเวอร์พูล1ครั้ง)โดยเฉพาะครึ่งหลังที่ดูไม่ออกเลยว่านี่เป็นทีมที่กำลังเปลี่ยนถ่าย หลังเกมคล็อปป์ก็กล่าวผ่านไมโครโฟนรับว่าทีมของเขาต้องพอใจแล้วกับผลเสมอซึ่งก็มีน้อยครั้งที่เราจะเห็นสามแนวรุกถูกถอดออกในเกมเดียวกัน

ในแง่หนึ่ง นี่ก็ยังถือเป็นเกมที่สะท้อนว่าทำไมเดอะ ค็อปทั้งหลายถึงเรียกร้องให้สโมสรทุบคลังมาเสริมทัพโดยด่วน การที่เชลซีใช้กองกลางแค่สองคนได้แก่เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซกับคอนอร์ กัลลาเกอร์แต่ก็จัดการแผงมิดฟิลด์หงส์แดงที่มีสามคนได้อยู่มือก็ชัดเจน

หลังเกมไม่นานนัก ก็มีข่าวดีของเชลซีแต่เป็นข่าวร้ายของลิเวอร์พูลเมื่อดีลมอยเซส ไกเซโด้จากไบร์ทตันใกล้บรรลุแล้ว เรื่องค่าตัวสถิติเกาะอังกฤษ เรื่องแพงไปไหม เรื่องจะคุ้มหรือไม่คุ้มถือว่าธรรมดาของการซื้อขาย อย่างยิ่งในยุคของเกมลูกหนังที่เงินหมายถึงพระเจ้า

พอชยังใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เขาได้ขอไปยังสโมสรให้เปลี่ยนฝั่งซุ้มสำรองจากซ้ายมาทางขวา(ยึดจากตำแหน่งอุโมงค์)โดยให้เหตุผลว่าเพราะฝั่งขวาจะมีมุมมองดูเกมในสนามดีกว่า ยังไม่ใช่แค่นั้นการซ้อมเมื่อวันศุกร์ก็ยังเลือกมาซ้อมในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่ใช่ที่สนามซ้อมแถบคอบแฮ่มเหมือนปกติ 

เหตุผล?

"เรามีนักเตะหลายคนเลยไม่เคยเล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์มาก่อน ผมอยากให้พวกเขาได้คุ้นเคยกับสภาพหญ้ารวมถึงอีกบางเรื่องก่อนหน้าเจอลิเวอร์พูล"กุนซือวัย51แจงเอาไว้

เชลซียุคพอชถือว่าเริ่มต้นได้น่าประทับใจแต่คำถามเดียวเลยก็อยู่ตรงกลุ่มเจ้าของกับกองเชียร์จะอดทนได้แค่ไหนในช่วงเวลาที่ทีมต้องการแรงสนับสนุนเพราะในโลกของฟุตบอลมันจะต้องมีช่วงเวลาที่อะไรๆก็ดูย่ำแย่ไปซะหมด

มีอีกจุดก็ตรงตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาที่บางคนที่ชื่อไม่คุ้นหูแฟนบอลทั่วไปนัก เอาว่านอกจากมิคฮาโล มูดริค ปีกยูเครนเจ้าของค่าตัว88.5ล้านแล้วที่เหลือก็เป็นดาวรุ่งอายุน้อย

นั่นเองที่ทำไมเชลซีถึงยังไม่หยุดเสริมทัพ

ขณะเดียวกัน นั่นเองทำไมโปเช็ตติโน่ถึงเป็นคนเหมาะสมนั่งเก้าอี้ตัวที่เปลี่ยนโค้ชมาแล้วไม่รู้กี่คนต่อกี่คนในรอบไม่กี่ปีมานี้

ตอนเกมจบเสียงให้กำลังใจปรบมือจากแฟนบอลตัวเองก็ด้วยที่ยืนยันว่า...เชลซียุคใหม่นี้มีหวัง

"ไก่ป่า"


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport