เกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ชัดเจนแล้วว่าทำไม มอยเซส ไกเซโด้ ถึงเป็นที่ต้องการของ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี
เปรียบเทียบกับเกมเมื่อฤดูกาลก่อนที่จบลงเอยด้วยผล 0-0 ทั้ง 2 นัด เกมรุกทั้งสองทีมดูมีคุณภาพมากขึ้น แต่ช่องโหว่วก็เกิดตรงกลางสนาม
หากฝั่งใดฝั่งหนึ่งมี ไกเซโด้ อยู่ในทีม พวกเขาจะมีคนที่คอยทำลายเกมสวนกลับเร็ว ลดทอนความอันตรายของฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งทีมที่กำลังจะได้มิดฟิลด์ทีมชาติเอกวาดอร์ ไปทำหน้าที่นั้น คือทีมเสื้อสีน้ำเงิน
ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ลิเวอร์พูล ต้องเชิดหน้าตามล่าเป้าหมายใหม่ให้ทันก่อนวันสิ้นสุดตลาด
เกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ เป็นสิ่งตอกย้ำถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดช่วงปรี-ซีซั่นของลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์
"เกมรุกอันตราย แต่เกมรับหละหลวม"
แม้ว่าครึ่งหลังเกมรับ "หงส์แดง" ทำผลงานโดยรวมได้น่าพอใจ ไม่ว่าจะ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ไปจนถึงความยอดเยี่ยมของ อลีสซง เบ็คเกอร์
แต่ ลิเวอร์พูล กลับเสียการครองบอลฝั่งแดน เชลซี บ่อยครั้งจนทำให้ตัวเองไม่สามารถครองบอลได้ตามระดับมาตรฐาน
เมื่อกองกลางไม่สามารถปกป้องพื้นที่ด้านหลังได้ ภาระหนักจึงตกไปอยู่ที่กองหลัง
คล็อปป์ ออกลูกโมโห และไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองอยู่หลายครั้งจากพื้นที่ข้างสนาม
เขารู้ดีว่าการเล่นแบบนี้สร้างความสุ่มเสี่ยงต่อทีม แล้วมันชวนให้นึกถึง ลิเวอร์พูล ยุคตั้งไข่กุนซือเยอรมัน ที่คุมเกมในแดนกลางได้ในตอนที่มันไม่มีประโยชน์
"เราเริ่มเกมได้ดีทั้งรุกและรับ เราได้ประตูแรกที่ยอดเยี่ยม และน่าจะได้ประตูที่สองด้วย แต่โชคร้ายที่มันล้ำหน้า"
"หากคุณถามผมว่าผมแฮปปี้กับเกมนี้หรือไม่ ผมขอบอกว่าไม่ แต่ผมเห็นว่าเราสามารถพัฒนาต่อไปได้ในทิศทางที่ถูกต้อง"
"เรามีจังหวะของเรา มันเป็นเกมที่ตึงเครียด เราน่าจะคอนโทรลเกมได้มากกว่านี้ แต่เราทำไม่ได้ และตอนนี้เราต้องทำงานกันต่อ" บอสเจเค กล่าวหลังเกม
คล็อปป์ ไม่ใช่คนเดียวที่ไม่มีความสุขในเกมนี้ ภาพ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ออกลูกหงุดหงิดตอนโดนเปลี่ยนตัวออกก็เช่นกัน
กองกลางตัวรับยังเป็นคำถามที่ต้องหาใครคนใหม่มาเป็นคำตอบ
ปัญหาที่กำลังแก้ไขแต่ไม่ใช่ระยะยาวคือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
แม้การถอยมาทำเกมจากพื้นที่แนวลึกของแข้งอาร์เจนติเนี่ยน จะทำได้ดีมาก ๆ แต่เขาควรได้เล่นตำแหน่งหมายเลข 8 ไม่ใช่หมายเลข 6
ครั้น เคอร์ติส โจนส์ ที่ คล็อปป์ วางไว้เป็นตัวเลือกจะทำได้ดีในเกมเจอ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ สิงคโปร์ แต่ก็เจอปัญหาในการรับมือ บาเยิร์น มิวนิค
โดมินิค โซโบซไล แสดงให้เห็นถึงเหตุผลที่ ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มเงิน 61 ล้านปอนด์
หนึ่งในจุดเด่นที่สุดของการเล่นของเขาคือความสามารถในการปิดพื้นที่ตรงทางฝั่งขวาของแผงกลาง
โดยรวมแล้วดาวเตะชาวฮังการี ทำการวิ่งแย่งบอล 8 ครั้ง และมักจะช่วยปกป้องรวมถึงบีบกดดันบริเวณที่เป็นพื้นที่ว่างตรงหน้าของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งบรรดาคนที่เคยรับบทบาทนี้ก่อนหน้า โซโบซไล มักจะทำได้ไม่ดีจนทำให้คู่แข่งมีพื้นที่ว่างเยอะ
จากเกมเปิดสนาม เหมือนว่า คล็อปป์ จะเจอนักเตะที่เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อเขา เมื่อ โซโบซไล ทั้งกดดันคู่แข่งได้ดี, เล่นได้เยี่ยมในจังหวะที่ไม่ได้ครองบอล, เล่นได้หลายบทบาท และมีความสามารถในการเล่นลูกเซตพีซ ราวกับว่า โซโบซไล เล่นตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาตามแบบที่ ลิเวอร์พูล ต้องการ
โคดี้ กัคโป เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องทอนบทบาทหลักของตัวเอง มันไม่ใช่วันที่ดีของเขานักเมื่อต้องชนกับมิดฟิลด์เจ้าถิ่นที่มีพละกำลังสูงอย่าง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์
ลิเวอร์พูล ไม่ใช่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วในเรื่อง
การเข้ามาชมเกมนี้ของ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ มันประจวบเหมาะกับการที่ทั้ง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี เปิดศึกนอกสนามเพื่อแย่งชิง ไกเซโด้ และ โรเมโอ ลาเวีย จาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาแก้ปัญหาแผงกองกลาง
ที่จริง เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล ไม่จำเป็นต้องเดินทางเป็นระยะหลายพันไมล์เพื่อมาเป็นพยานของสิ่งที่ คล็อปป์ รู้ดีตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้
แต่ตอนนี้เขาคงจะตระหนักแล้วว่า ลิเวอร์พูล ต้องการกองกลางตัวรับมาเสริมทีมมากขนาดไหน
12 เดือนก่อน ผลเสมอที่ ฟูแล่ม เป็นสัญญาณอันน่ากังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ ลิเวอร์พูล ในภายหลัง
และล่าสุดกับสิ่งที่เกิดขึ้นแถบย่าน เวสต์ ลอนดอน เช่นกัน ก็น่าจะเป็นการบ่งบอกถึงสิ่งที่กำลังจะตามมา
ซึ่งหนนี้ เอฟเอสจี และ เฮนรี่ คงรู้ถึงเรื่องนั้นดีกว่าครั้งไหน ๆ
HOSSALONSO