บิ๊กแมตช์เปิดหัวพรีเมียร์ลีก! เกร็ดน่าสนใจเกม เชลซี พบ ลิเวอร์พูล

นอกจากจะเป็นการเจอกันเองของ 2 ทีมใหญ่แห่งเกาะอังกฤษแล้วนั้น เกมนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการประเดิมการคุมทีมในเกมแบบเป็นทางการของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่คนใหม่ของ "สิงห์บลูส์" หรือการประเดิมสนามของนักเตะหน้าใหม่จากทั้ง 2 ทีม ซึ่งวันนี้เรามีเกร็ดที่น่าสนใจเกี่ยวกับคู่นี้มานำเสนอกันสักหน่อย

- กินกันไม่ลงมานาน

ด้วยความที่ทั้งคู่ต่างก็มีขุมกำลังที่แข็งแกร่งทำให้เกมของพวกเขามีความสูสีกันอย่างมาก ถ้าถามว่ามันสูสีกันขนาดไหนก็ต้องบอกเลยว่าในการเจอกัน 6 ครั้งหลังสุดแบบนับรวมทั้งในลีกและฟุตบอลถ้วยนั้นมันก็จบลงด้วยการเสมอกันทั้งหมด นั่นรวมถึงเกมนัดชิงชนะเลิศของทั้ง คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ ในปี 2022 เพียงแต่พอไปวัดกันในช่วงดวลจุดโทษนั้นเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้เฮทั้ง 2 หน

ยิ่งไปกว่านั้น 4 ครั้งหลังสุดที่ เชลซี เจอกับ ลิเวอร์พูล มันยังเป็นการเสมอกัน 0-0 ครบทุกนัดอีกต่างหาก และถ้าเกมในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ สกอร์ยังเป็นแบบนั้นอีกมันก็จะทำให้พวกเขาเป็นคู่แรกในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษที่เสมอกันแบบไร้สกอร์มากถึง 5 นัดติดต่อกัน

- ถูกโฉลกนัดเปิดหัวทั้ง 2 ฝ่าย

เชลซี มักจะเป็นทีมที่ออกตัวได้ดีอยู่เสมอ หนึ่งในหลักฐานของเรื่องนั้นก็คือการที่พวกเขาชนะเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาลได้ถึง 20 ครั้งจากทั้งหมด 31 ฤดูกาล และทำให้ "สิงห์บลูส์" เป็นอันดับ 1 ร่วมในการชนะเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดหัวมากที่สุด แถม โปเช็ตติโน่ เองก็เก็บชัยได้ถึง 5 ครั้งจากทั้งหมด 7 หนในการนำทีมลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก นัดแรกของฤดูกาลด้วย โดยที่เหลือแบ่งเป็นการเสมอกับแพ้อย่างละ 1 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม ฝั่ง ลิเวอร์พูล ก็มีคนที่ชื่นชอบเกมนัดแรกของฤดูกาลเหมือนกัน นั่นคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลังจากดาวเตะชาวอียิปต์สามารถทำประตูในนัดแรกของ พรีเมียร์ลีก ได้ครบทั้ง 6 ฤดูกาลที่เล่นให้ "หงส์แดง" แถมยังยิงได้ 8 ลูกอีกต่างหาก จนทำให้เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก นัดแรกของซีซั่นได้เยอะที่สุดตลอดกาลเทียบเท่ากับ อลัน เชียเรอร์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ เวย์น รูนี่ย์

- ครั้งแรกในรอบหลายปี

ต้องบอกว่า เชลซี กับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เจอกันตั้งแต่นัดเปิดหัวของลีกสูงสุดมานานมาก โดยครั้งล่าสุดมันต้องย้อนกลับไปถึงฤดูกาล 1937-38 ซึ่งเป็นตอนที่ลีกสูงสุดของอังกฤษยังใช้ชื่อว่า ดิวิชั่น 1 เลยทีเดียว

ตอนนั้น เชลซี โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมมากๆ จนเอาชนะไปได้ถึง 6-1 โดยฮีโร่ของวันนั้นคือ จอร์ล มิลส์ ที่สามารถทำแฮตทริกให้กับทีมได้ แถมนั่นยังถือเป็นชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดของ เชลซี ในซีซั่นนั้นด้วย ก่อนที่สุดท้าย เชลซี กับ ลิเวอร์พูล จะจบฤดูกาลด้วยการได้ที่ 10 กับ 11 ตามลำดับ จากการมี 41 แต้มเท่ากัน

- เด็กเกร็ดบอล -