จาก ริตซ์-คาร์ลตัน โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่เมื่อมองออกไปยังภายนอกนั้น แสดงถึงทัศนียภาพมุมกว้างของ มาริน่า เบย์ ประเทศสิงคโปร์
การเดินทางมายังอีกซีกโลกแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดูห่างไกลจากการใช้เวลาช่วงพักร้อนของ โคดี้ กัคโป
หลังเสร็จสิ้นภารกิจกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ในศึกเนชั่นส์ ลีก 2023 ราวเดือนมิถุนายน กัคโป เลือกเดินทางไปประเทศโตโก ตามความตั้งใจที่มีมานาน
จอห์นี่ พ่อของเขาเกิดที่นั่น และทั้งคู่ก็ได้ทำกิจกรรมด้านการกุศลให้แก่ชุมชนยากไร้
"มันเป็นครั้งแรกของผมเลย ซึ่งมันพิเศษเอามาก ๆ" กัคโป เผยถึงการไปเยือน โตโก ครั้งนี้
"เป็นประสบการณ์ที่ดีจริง ๆ และผมก็ได้เจอกับบรรดาญาติ ๆ มากมาย"
"จริง ๆ ผมอยากไปที่นั่นเรื่อย ๆ เลยนะ แต่ด้วยการที่พ่อของผมต้องทำงานตอนช่วงผมพักร้อนจากการแข่งฟุตบอลพอดี มันจึงทำให้เป็นเรื่องยาก ผมต้องไปกับพ่อ เพราะท่านพูดภาษาท้องถิ่นได้"
4 ปีก่อน สมาคมฟุตบอลโตโก เคยทาบทาม กัคโป เพื่อให้มาเล่นในนามทีมชาติ แต่เขาเลือกเล่นให้ทัพอัศวินสีส้ม ตามถิ่นกำเนิด และสัญชาติของคุณแม่
ดังนั้น การจะทำประโยชน์อะไรสักอย่างตามถิ่นฐานของพ่อบังเกิดเกล้าจึงเป็นสิ่งที่อยู่ในใจ กัคโป
"ในฐานะคนในครอบครัว ผมต้องทำการกุศลอะไรบางอย่างให้กับที่นั่น สิ่งสำคัญคือการช่วยเหลือ และตอบแทนคุณให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ ผมพยายามช่วยเหลือผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"
ความรับผิดชอบที่ กัคโป ว่านั้น เกิดจากความศรัทธาในฐานะชาวคริสเตียน
เขามีความเชื่อในศาสนาอย่างแรงกล้าเช่นเดียวกับหลายคนใน ลิเวอร์พูล เช่น อลีสซง เบ็คเกอร์ (ซึ่งเคยทำพิธีชำระบาปให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่สระว่ายน้ำในบ้านของตัวเองเมื่อปี 2020) และ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้เป็นเจ้านาย
13 ชั่วโมงจากเกาะอังกฤษ ลัดฟ้าสู่ สิงคโปร์ กัคโป ใช้เวลาส่วนใหญ่บนเครื่องบินด้วยการอ่านคัมภีร์ไบเบิ้ล และหลังชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-0 เขาก็ได้โพสต์ข้อความส่วนหนึ่งจาก Book of Proverbs ลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวที่มีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้านคน
"The heart of man plans his way, but the Lord establishes his steps."
"หัวใจวางแผนทิศทางของชีวิต แต่พระยาห์เวเป็นผู้ที่นำย่างก้าวของเขา"
ดาวเตะวัย 24 ปีมีความสุขุมเยือกเย็นขึ้นมาก นับตั้งแต่ย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาอยู่ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคม 2023
"ศาสนาของผม ไม่ได้ช่วยแค่ในเรื่อการทำงานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนต่อการดำเนินชีวิตของผมทั้งหมด" กัคโป อธิบาย
"มันเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตสำหรับผม ผมนำคัมภีร์ไบเบิ้ลติดตัวทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะอยู่ในสหราชอาณาจักร หรือที่ไหนก็ตาม"
"ผมอ่าน ผมคุยกับผู้คนทางโทรศัพท์เกี่ยวกับสิ่งนั้นทุก ๆ วัน พยายามที่จะเรียนรู้จากมันเสมอ ไม่เคยหยุดเลย"
"ผมค้นหาเรื่องเหล่านั้นมาตลอด มาถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 3-4 ปีเห็นจะได้ ผมมีความเชื่อมั่นกับเรื่องนี้มากขึ้น"
"สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตของคุณร่วมกับของขวัญที่พระผู้เป็นเจ้ามอบให้กับคุณ ในคัมภีร์ไบเบิ้ลมันมีหลายประโยคที่พูดถึงเรื่องนั้น"
.
.
.
ช่วงเวลาครึ่งซีซั่นกับ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลก่อน กัคโป ตอบแทนสโมสรด้วยการยิง 7 ประตู และ 2 แอสซิสต์จาก 26 นัดที่ลงเล่น
เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกใช้งาน กัคโป ในบทบาทฟอลส์ ไนน์ ซึ่งตัวเขาก็น้อมรับการเรียนรู้หน้าที่นี้เพื่อสืบทอดสิ่งที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ทำไว้
"ตอนแรกมันยากอยู่บ้างเพราะในฐานะทีมแล้วนั้นเราไม่ได้ชนะมากเท่าไหร่" กัคโป เผย
"ส่วนตัวแล้วการไปให้ถึงระดับที่ผมต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นน่ะมันยากพอตัว ผมต้องการเวลาสำหรับการปรับตัว แต่แล้วเราก็เริ่มเล่นได้ดีในช่วงปลายฤดูกาล และเกือบได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย"
"ในฐานะนักเตะในตำแหน่ง ฟอลส์ ไนน์ แล้วนั้น ผมสามารถถอยต่ำนิดหน่อยเพื่อมาเป็นกองกลางได้, อยู่ในพื้นที่ที่ต่ำกว่าปกติได้, มองหาสถานการณ์ที่เหมาะสม แล้วเริ่มเกมบุก"
"ผมไม่จำเป็นต้องรอให้เกมบุกเข้ามาหาผม การได้มีส่วนร่วมกับเกมแบบนั้นมันถือเป็นเรื่องที่ดี"
.
.
.
ด้วยความอเนกประสงค์ที่นอกจากการเล่นเป็นตัวรุกแล้วนั้นเขายังสามารถถอยลงมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ได้
และเมื่อถามว่าตำแหน่งใดที่เหมาะสมกับตัวเองมากสุดนั้น กัคโป เผยว่า
"มันเป็นเรื่องที่พูดได้ยากเพราะมันขึ้นอยู่กับแต่ละเกมและคู่แข่งแต่ละราย"
"ผมชอบอยู่ในตำแหน่งที่สามารถได้เล่นกับบอลเยอะ ผมชอบพาบอลจากแดนกลางเข้าไปอยู่ในแนวรุกแล้วหวังว่าจะทำประตูหรือแอสซิสต์ได้"
"ผมชอบเล่นในบทบาทไหนมากเป็นพิเศษน่ะเหรอ ?"
"ผมสนแค่การเล่นเท่านั้นแหละ เมื่อต้องเล่นในตำแหน่งที่แตกต่างกันแล้ว คุณก็ต้องปรับบางอย่างในเรื่องที่เกี่ยวกับแท็กติก แต่ในท้ายที่สุดคุณก็จะชินกับมันเอง มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากขนาดนั้นหรอก"
.
.
.
นี่คือปรี-ซีซั่นแรกของ กัคโป กับ ลิเวอร์พูล และทีมก็มีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนแรกที่ตัวเองเข้ามา
การย้ายออกไปของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาควรจะได้เรียนรู้จากอดีตกัปตันมากกว่านี้
"เฮนโด้ เป็นเหมือนพี่ใหญ่"
"เขาคอยถามผมอยู่เสมอว่าผมเป็นยังไงบ้าง, สถานที่ที่ผมอยู่มันโอเครึเปล่า, ผมต้องการอะไรบ้างไหม ?"
"เขาคือกัปตันทีมที่แท้จริงไม่ว่าจะทั้งในสนามหรือนอกสนาม เขาพร้อมช่วยทุกคนอยู่เสมอ เขามีบุคลิกที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นแบบอย่างในเรื่องที่ว่าต้องทำยังไงถึงจะเป็นมืออาชีพที่ดี"
"ผมมองเขาเป็นแบบอย่าง ผมสามารถเรียนรู้หลายอย่างจากเขาได้ ผมน่าจะมีโอกาสได้เรียนรู้จากเขามากกว่านี้ด้วย แต่มันเป็นไปไม่ได้แล้ว เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่"
"ก็เหมือนกับที่โค้ชบอกนั่นแหละว่าเขาเป็นตำนานและเราจะคิดถึงเขา"
แน่นอนว่าการออกไปของนักเตะหลายคน ทั้ง เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ฟีร์มีโน่, เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ นาบี้ เกอิต้า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสโมสร
แต่ กัคโป ก็รู้สึกตื่นเต้นกับได้ร่วมงานกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซโบซไล สองเพื่อนใหม่ที่ถือเป็นการเติมเต็มการเข้าสู่ยุคใหม่ของ ลิเวอร์พูล
"ทั้งคู่ต่างก็เป็นนักเตะที่ดีและมีคุณภาพอย่างมาก"
"พวกคุณเห็นถึงเรื่องนั้นตั้งแต่ในการซ้อม รวมถึงสมัยที่พวกเขาเล่นให้ทีมเก่ากันแล้ว เราโชคดีที่ได้พวกเขามาอยู่กับทีม เมื่อนักเตะประสบการณ์สูงย้ายออกไปแล้ว ถือเป็นเรื่องแย่สำหรับสโมสร"
"แต่มันก็เป็นการเปิดทางให้นักเตะคนอื่น ๆ ได้พัฒนาตัวเองเหมือนกัน ซึ่งเรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ"
.
.
.
เรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่แฝงด้วยคุณภาพทั้งถ้อยคำ และการเล่น บ่งบอกถึงความเป็นตัวตน โคดี้ กัคโป
HOSSALONSO
เรียบเรียงจาก เจมส์ เพียร์ซ ดิ แอธเลติก