เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
1.ลงเฝ้าเสานัดแรกในฐานะ "ประตูผี" ก็เจอ ของแข็ง + ของจริง อย่าง เรอัล มาดริด ทันที ถือเป็นบททดสอบที่หนักหน่วงพอสมควร
แต่ด้วยโทษฐานที่เข้ามาแทนตำแหน่งของ ดาบิด เด เคอา นายทวารชาวแคเมอรูนผู้นี้จึงถูกเด็กผีบางประเภทที่ยังตัดใจจาก "พี่เดฟ" ไม่ได้ แถมไม่เข้าใจในปรัชญาการเล่นของ เอริค เทน ฮาก จับจ้องเป็นพิเศษ
2.เรื่องการใช้เท้าออกบอล และแก้เพรสส์ตามที่ผู้เป็นเจ้านายต้องการ สามารถ "สอบผ่าน" แบบสบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร คุณพี่เขาจ่ายบอลแม่นยำ ทั้งลูกสั้น ลูกยาว ลูกเรียด และลูกโด่ง
มิเท่านั้นยังขยับขึ้นสูงมารักษา "ช่องว่าง" ระหว่างแดนไม่ให้ห่างกันเกินไปพลางทำหน้าที่ "สวีปเปอร์" ได้ดีอีกด้วย จังหวะหนึ่ง เขาอ่านเกมแล้วออกมาโหม่งสกัดบอลยาวที่คู่แข่งวางข้ามไลน์มาได้อย่างยอดเยี่ยม
3. ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องการใช้มือป้องกันประตู ซึ่งแน่นอนว่าย่อมถูกนำไปเปรียบเทียบกับนายทวารคนเดิมแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
อองเดร โอนาน่า เซฟเห็นๆ 2 ครั้งในเกมเมื่อวาน
หนึ่งคือการพุ่งปัดลูกตะบันของ วินิซิอุส จูเนียร์ และอีกหนึ่งคือการใช้เท้าสกัดลูกยิงของ โฆเซลู
นอกจากนี้มีอีกจังหวะหนึ่งที่ขยับออกมาใช้มือตัดบอลยาวที่ถูกวางเข้ามาในกรอบเขตโทษ
เรียนตามตรงว่ายังเจอ "บททดสอบ" น้อยไปหน่อย เพราะนอกจาก 2 ประตูที่ทำได้ เรอัล มาดริด ก็ไม่ค่อยมีจังหวะยิงตรงกรอบสักเท่าไหร่
4.สำหรับประตูที่เสียทั้ง 2 ดอก เมื่อวานมีคนแสดงความเห็นในโพสต์วิเคราะห์เกมของผมว่า...
"ถ้าเป็น ดาบิด เด เคอา จะไม่เสียทั้ง 2 ประตู"
อืมมมมมมมม...นะ
ผมดูภาพช้าจังหวะที่เสียประตูในไฮไลท์ (จากแอพฯ อย่างเป็นทางการของ แมนฯ ยูไนเต็ด) แบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะพบว่า...
ประตูแรกที่ถูก จู๊ด เบลลิงแฮม ชิพข้ามหัว เขาพลาดจริงๆ
ย้ำว่าพลาดจริงๆ !!!
คือจังหวะนั้น ตอนที่ "ไอ้จู๊ด" ใช้ตีนดูดบอลลงมา มันเสียเวลาตกแต่งจน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ตามลงมาทันแล้วนะครับ
ทว่า อองเดร โอนาน่า กลับรีบขยับออกมาบีบมุม ทั้งๆ ที่มีกองหลังพยายามพัวพันอยู่กับคู่แข่งจึงถูกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษชิพข้ามหัวเข้าประตูไปแบบนิ่มๆ
ถ้าไม่หุนหันพลันแล่นออกมาแบบนั้น
ผมว่า...ไม่เข้าครับ
ส่วนประตูที่ 2 บอลถูกเปิดจากขวามาทางเสาไกล ก่อนที่ โฆเซลู จะกระโดดตีลังกาฟาดลูกเต็มหลังเท้า บอลพุ่งเสียบโคนเสาไกล
นายทวารค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ถูกจับผิด ข้อหา "ไม่พุ่ง" เขาแค่ขยับตามบอลที่โยนมาทางขวามือของตัวเอง แล้วเกิดอาการ "นะจังงัง" ขึ้นมา...ซะอย่างนั้น
ประมาณว่า "กูพุ่งไม่ทันแน่" หรือต่อให้พุ่งก็คงไม่ทัน
มันก็เลยถูกเปรียบเทียบกับ ดาบิด เด เคอา ผู้มีจุดเด่นเรื่องปฏิกิริยาในการเซฟแบบช่วยไม่ได้
ผมก็ตอบไม่ได้นะครับว่าถ้าพุ่งแล้วจะเซฟได้หรือเปล่า แต่คิดว่าไม่น่าทัน
คือถ้าพยายามพุ่งสักหน่อย แม้จะเข้าประตู มันก็แสดงให้เห็นว่าพยายามพุ่งแล้วนะ
ประตูแรก ตัดสินใจพลาดครับ ขณะประตูที่ 2 ต้องยกเครดิตให้คนยิงด้วย เช่นเดียวกับตำหนิกองหลังที่ปล่อยให้คู่แข่งยืนโล่งซะขนาดดีดกายขึ้นไปจักรยานอากาศได้
5.ต่อเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนพอจะสรุปเบื้องต้น โดยรวมๆ ถือว่า "สอบผ่าน" นะครับ
อย่าลืมว่านี่คือเกมแรกของ อองเดร โอนาน่า หลังบินมาฝึกซ้อมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แค่อาทิตย์เศษๆ เท่านั้น ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมใหม่อีกสักระยะหนึ่ง
การใช้มือป้องกันประตู ถือว่าไม่เลวนะครับ แต่ถ้าจะเอาเรื่องนี้ไปเปรียบเทียบกับนายทวารคนเก่ามันคงสู้ "พี่เดฟ" ไม่ได้หรอก
ขอโทษ...ใครๆ ก็รู้ว่าสู้ไม่ได้ เอริค เทน ฮาก ก็ย่อมรู้อยู่แล้วว่า...สู้ไม่ได้
เพียงแต่นี่คือผู้รักษาประตูที่กุนซือปีศาจแดงต้องการในยุคสมัยของฟุตบอลที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ลูกทีมเล่นได้ตามปรัชญาของตนเอง มันก็แค่นั้นเอง
หาก ดาบิด เด เคอา เป็นคนเฝ้าเสา แมนฯ ยูไนเต็ด อาจไม่เสีย 2 ประตูนี้ก็จริง แต่คุณรู้ได้อย่างไรล่ะว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่เสียประตูในรูปแบบอื่นๆ ???
ฉะนั้น & ฉะนี้
เลิกห่วงหานายทวารคนเก่าได้แล้ว และแทนที่จะจ้องจับผิด หรือแช่งให้พลาด เพื่อแสดงให้ชาวบ้านเห็นว่า "ความคิดกูถูกต้องนะ"
เปลี่ยนมาเป็นเอาใจช่วยนายทวารคนใหม่ดีกว่าครับ
บอ.บู๋