เงินน้อยใช้สอยอย่างระวัง! 5 ออปชั่นหน้าเป้าช่วย แมนยู ประหยัดงบประมาณ

"ปีศาจแดง" เพิ่งจะเซ็นสัญญานักเตะใหม่ได้ 2 รายนั่นก็คือ เมสัน เมาท์ กองกลางชาวอังกฤษจาก "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี และ อ็องเดร โอนาน่า นายทวารชาวแคเมอรูนของ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน 

ด้วยงบประมาณที่จำกัดการเสริมทัพจึงต้องระมัดระวังเพราะอาจทำให้พวกเขาละเมิดกฎการเงิน หรือ "ไฟแนลเชียล แฟร์ เพลย์" ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ฉะนั้นการซื้อผู้เล่นหน้าเป้าควรจะเลือกออปชั่นที่ไม่ส่งผลกระทบต่องบการเงินสโมสร

กรณีของ แฮร์รี่ เคน สตาร์ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ วิคเตอร์ โอซิมเฮน หัวหอกฟอร์มโหด นาโปลี น่าจะต้องตัดออกไปก่อน เนื่องจากค่าตัวแพงลิบลิ่ว ส่วน ราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวยิงชาวเดนมาร์ก ยังไม่มีความแน่ชัด เนื่องจาก อตาลันต้า ตั้งค่าหัวเอาไว้สูงเช่นกัน 

ฉะนั้นในเมื่อทีมมีเงื่อนไขเรื่องงบประมาณ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ อาจต้องเลือกหน้าเป้าฝีเท้าพอไว้วางใจได้ แต่ราคาไม่แรงหรือถ้าจะให้ดีเป็นนักเตะฟรีเอเจ้นต์ก็เข้าทาง กระนั้นถ้าหาแล้วไม่มีใครจริงๆ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในทีมถือเป็นออปชั่นที่น่าสนใจเช่นกัน 

1. เมห์ดี้ ทาเรมี่

กองหน้าจากสโมสรเอฟซี ปอร์โต้ มีข่าวว่า เทน ฮาก สนใจอยากได้ตัวมาร่วมทัพ หลังสร้างผลงานดีมีคุณภาพให้กับต้นสังกัดเมื่อฤดูกาลล่าสุด โดยตะบันไป 31 ประตูจาก 51 เกมในทุกรายการ 

ต้องยอมรับว่า ดาวเตะทีมชาติอิหร่าน โชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยม และผลงาน 80 ประตูจาก 147 แมตช์ตลอดระยะเวลา 3 ซีซั่นที่เล่นให้ ปอร์โต้ ถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่านักเตะมีมาตรฐานระดับสูง

แม้ว่านักเตะจะอายุ 31 ปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังสามารถยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเขาเหลือสัญญาจนถึงซัมเมอร์หน้า นั่นหมายความว่า ปอร์โต้ อาจะยินดีลดค่าตัวดีกว่าเสียนักเตะไปฟรีๆ ว่ากันว่าอาจจะแค่ 17 ล้านปอนด์ (ราว 714 ล้านบาท) เท่านั้น

2. มุสซ่า เดมเบเล่

สำหรับตอนนี้ เดมเบเล่ กลายเป็นแข้งฟรีเอเจ้นต์อย่างเป็นทางการ หลังจากหมดสัญญากับ โอลิมปิก ลียง เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเขากำลังมองหาสโมสรใหม่เพื่อชุบตัว หลังต้องเจอกับความยากลำบากโดยยิงได้แค่ 3 ประตูเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และยังนั่งตบยุงอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่

แม้ว่า เดมเบเล่ อาจจะอยู่ในฟอร์มที่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่ศักยภาพของเขายังถือว่าน่าสนใจ เพราะก่อนหน้านี้เขาทำผลงานได้ดีเยี่ยม โดยมีสถิติซัดไปถึง 70 ประตูจาก 172 เกมตลอดระยะเวลา 5 ปีที่อยู่กับ "โอแอล" 

มันอาจจะดูเสี่ยงไปบ้างกับนักเตะที่ฟอร์มร่วงกราวรูดเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา แต่จากประสบการณ์ที่เคยทำผลงานได้ดีเยี่ยมสมัยเล่นกับ ฟูแล่ม (อังกฤษ) และ กลาสโกว์ เซลติก (สกอตแลนด์) เชื่อว่า เทน ฮาก น่าจะดึงพรสวรรค์ของ เดมเบเล่ ออกมาได้ เหมือนที่เขาทำให้เห็นกับนักเตะหลายๆ คนของ "ปีศาจแดง" 

3.  โนอาห์ โอคาฟอร์

กองหน้าทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับความสนใจจากหลายๆ ทีมในพรีเมียร์ลีก หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก โดย ดาวยิงวัย 23 ปี ซัดไป 10 ประตจาก 32 เกมในทุกรายการ รวมทั้ง 3 ประตูจาก 6 เกมในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตอนนี้ โอคาฟอร์ จะได้รับความสนใจจากทีมชั้นนำในยุโรป ขณะที่ ซัลซ์บวร์ก ตั้งค่าหัวของเขาเอาไว้ประมาณ 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,050 ล้านบาท) สำหรับ หัวหอกดาวโรจน์ พรสวรรค์สูง 

สำหรับตอนนี้ ยอดทีมในลีกออสเตรีย พร้อมที่จะเปิดการเจรจาเพื่อขาย โอคาฟอร์ หลังจากที่นักเตะเขาสู่สัญญา 12 เดือนสุดท้าย ฉะนั้นด้วยค่าที่ถูกแสนถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพของเขา แมนฯ ยูฯ ก็น่าจะพิจารณาแข้งรายนี้ 

4. เมาโร อิการ์ดี้

หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ พิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าชั้นดีของลีกยุโรป โดยเขาตะบันไป 23 ประตูจากการเล่น 26 เกมให้กับ กาลาตาซาราย ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา 

ช่วงที่ผ่านมา ดาวเตะวัย 30 ปี ต้องพบกับช่วงเวลาที่แสนยากลำบากกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต้นสังกัดแม่ เนื่องจากโดนอาการบาดเจ็บรบกวน และฟอร์มตก แต่กระนั้นเขาก็เคยสร้างชื่อกระฉ่อนวงการลูกหนังสมัยที่เล่นอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ก่อนจะย้ายมาเล่นกับ "เปแอสเช" 

ก่อนหน้านี้ โรม่า เป็นหนึ่งในหลายๆ ทีมที่อยากได้ อิการ์ดี้ ไปเสริมแกร่ง ขณะที่ แซงต์-แชร์กแมง ก็พร้อมปล่อยตัวเพื่อหวังได้เงิน เพราะนักเตะเหลือสัญญาแค่ปีเดียวเท่านั้น ขณะที่ แมนฯ ยูฯ ก็น่าจะลองคว้าตัวนักเตะรายนี้มาร่วมทัพ โดยสื่อรายงานว่าค่าตัวของเขาตอนนี้ไม่ถึง 20 ล้านปอนด์ (ราว 840 ล้านบาท) เท่านั้น

5. มาร์คัส แรชฟอร์ด

ในกรณีที่ไม่สามารถหาหน้าเป้ามาร่วมทัพได้จริงๆ งานนี้ เทน ฮาก คงต้องเลือกที่จะพึ่งพาทรัพยากรที่มีอยู่ และนักเตะที่น่าจะพี่งพาอาศัยได้ที่สุดก็คือ แรชฟอร์ด ซึ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

"แรชชี่" เพิ่งจะเซ็นสัญญาใหม่ 5 ปีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเขาตะบันไปถึง 30 ประตูจากการเล่นในทุกรายการ แต่จำนวนประตูที่ทำได้ส่วนใหญ่มาจากการประจำตำแหน่งในแนวรุกฝั่งซ้าย 

อย่างไรก็ตาม เทน ฮาก พร้อมที่จะจับ แรชฟอร์ด ยืนเป็นหน้าเป้า แม้ว่าอาจจะเสี่ยงเพราะนั่นจะเป็นการตัดทอนศักยภาพของเขา แต่ด้วยการที่ทีมมีแนวรุกทางซ้ายชั้นดีอย่าง เจดอน ซานโช่ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่สามารถทดแทนได้ ฉะนั้นการจับ ดาวยิงเลือดผู้ดี วัย 25 ปี เล่นกองหน้าเต็มตัว ถือเป็นออปชั่นที่ดีในช่วงที่งบจำกัดแบบนี้