ได้เห็นของเด็ดแน่! 4 สิ่งสำคัญสำหรับ นูนเญซ ในปีที่ 2 กับ ลิเวอร์พูล

ได้เห็นของเด็ดแน่! 4 สิ่งสำคัญสำหรับ นูนเญซ ในปีที่ 2 กับ ลิเวอร์พูล
ผลงานช่วง 12 เดือนแรกของ ดาร์วิน นูนเญซ กับ ลิเวอร์พูล อาจไม่โดดเด่นอย่างที่แฟนบอล "หงส์แดง" คาดหวังเอาไว้ แต่ก็มีสัญญาณที่ค่อนข้างดีในช่วงท้ายซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเตะเริ่มปรับตัวกับชีวิตในอังกฤษได้มากขึ้น

คงจำกันได้ตอนที่ หัวหอกชาวอุรุกวัย ย้ายมาจาก เบนฟิก้า สู่ถิ่นแอนฟิลด์ มีหลายคนที่ปรามาศเขาว่าเป็น "นิว แอนดี้ แคร์โรลล์" ด้วยภาพลักษณ์ผมยาว ตัวสูงใหญ่ ที่สำคัญยังมีค่าตัวสูงถึง 85 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,655 ล้านบาท) 

แม้ช่วงแรกๆ ผลงานของ นูนเญซ จะไม่ค่อยดีนัก แต่จากนั้นก็ค่อยๆ พัฒนาฟอร์ม แต่ก็ยังขาดความคงเส้นคงวา แต่กระนั้นฟอร์มในเกมที่ยิงประตูใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้ง อาร์เซน่อล กับ นิวคาสเซิ่ล, นาโปลี และ เรอัล มาดริด ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่านักเตะคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

สำหรับตอนนี้สิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นต้องขบคิดอย่างหนักก็คือ นูนเญซ ควรจะจับไปเล่นตรงไหนในแนวรุก และควรต้องปรับแก้จุดไหน เพื่อที่จะได้ดึงศักยภาพที่แท้จริงของนักเตะออกมาได้อย่างเต็มที่

1. หน้าเป้า หรือริมเส้น


นูนเญซ เซ็นสัญญามาร่วมทีมในฐานะผู้เล่นเบอร์ 9 หรือ "หน้าเป้า" แต่กลับกลายเป็นว่าเขาทำผลงานได้ดีเวลาที่ถูกขยับไปยืนริมเส้นฝั่งซ้าย โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นในเกมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการเล่นปีกที่มีความรวดเร็ว, โจมตีพื้นที่ว่าง, ใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งสู้กับกองหลัง และการวิ่งทแยงมุมที่ชาญฉลาด

อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพของ นูนเญซ หลายๆ คนเชื่อว่าเขาเหมาะที่จะยืนเป็นหน้าเป้ามากที่สุด และนั่นก็ยังคงเป็นแผนที่ คล็อปป์ และสตาฟฟ์โค้ช คิดเอาไว้ เนื่องจากการเคลื่อนที่ของ นูนเญซ มีความโดดเด่นมากๆ

เขามีความสามารถในการหาพื้นที่ว่าง นอกจากนี้ยังเป็นนักเตะที่มีจังหวะการยิงที่เฉียบคม และสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ดี แต่สิ่งสำคัญก็คือนักเตะต้องรักษาความคงเส้นคงวาให้ได้เหมือนที่เล่นให้กับ เบนฟิก้า 

อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็มีการพัฒนาขึ้นในเรื่องนี้สภาพจิตใจ และเทคนิคการจบสกอร์ แต่สิ่งที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นก็คือเรื่องการรักษาสมดุลร่างกาย และจังหวะการโหม่ง รวมทั้งการจับบอลต้องนิ่งให้มากกว่านี้  

2. อุปสรรคด้านภาษา


คล็อปป์ ยอมรับในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมาว่า นูนเญซ มีปัญหาเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ และไม่มีอะไรต้องสงสัยว่าสิ่งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อฟอร์มการเล่นของ สตาร์ทีมชาติอุรุกวัย อย่างมาก

เป็นเรื่องปกติที่นักเตะทุกคน และผู้จัดการทีมจำเป็นต้องสื่อสารเพื่อทำความเข้าใจเรื่องแท็คติก ฉะนั้นหากผู้เล่นคนไหนไม่สามารถพูดคุยกับคนๆ อื่นด้วยภาษาสากล นั่นทำให้เขาต้องเจอกับความยากลำบากในการเข้าใจสิ่งที่กุนซือต้องการสื่อออกไป

แม้ว่าภายในทัพ "หงส์แดง" จะมีผู้เล่นที่ใช้ภาษาสแปนิชอย่าง ติอาโก้ อัลกันทาร่า ที่คอยเป็นพี่เลี้ยงดูแล นูนเญซ ในช่วงปีแรกของการใช้ชีวิตบนแผ่นดินเมืองผู้ดี แต่เวลาที่ลงไปสนามไม่มีใครที่จะคอยมาช่วยแปลภาษา ฉะนั้นเจ้าตัวต้องเรียนรู้และเข้าใจภาษาอังกฤษให้ได้

ฤดูกาลที่ผ่านมา นูนเญซ แสดงให้เห็นถึงการทุ่มเทในการเล่นอย่างมาก แต่บางครั้งนักเตะก็มักจะขาดไหวพริบในการวิ่งเพรสซิ่ง และการเข้าเสียบสกัดซึ่งเป็นเหตุที่เขาเสียฟาวล์แบบไม่จำเป็น 

ในแง่ของภาษาตอนนี้ นูนเญซ พยายามอย่างหนักที่จะพูดและเข้าใจภาษาอังกฤษให้มากยิ่งขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และบรรดาแฟนบอล "หงส์แดง" หวังว่าในช่วงซ้อมปรีซีซั่น นักเตะจะพัฒนาเรื่องนี้มากขึ้น 

3. ขุมกำลังใหม่ช่วยเพิ่มศักยภาพ


หัวหอกวัย 24 ปี คงจะได้ประโยช์อย่างมากจากการเสริมทัพของ ลิเวอร์พูล ช่วงซัมเมอร์นี้ โดยต้นสังกัดจัดการคว้า 2 กองกลางชั้นดีอย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิก โซโบซไล มาร่วมทัพ

แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โซโบซไล ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความสามารถในการผ่านบอลที่แม่นยำ และยังมีจุดเด่นจากจังหวะการเล่นลูกตั้งเตะด้วย ดังนั้นนักเตะประเภทที่มักจะวิ่งมาจากด้านหลังคู่แข่งจะชื่นชอบการเปิดบอลจากริมเส้นที่แม่นยำของทั้งสองคน ซึ่งนี่คือการเสริมทัพที่เพิ่มประสิทธิภาพของ "หงส์แดง" อย่างแท้จริง 

ถ้าหาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เล่นตำแหน่งกองกลางต่อไป งานนี้ นูนเญซ จะยิ่งมีความสุขเพราะจะมี 3 ยอดนักเตะจอมสร้างโอกาสป้อนบอลให้เขาได้ทำประตู

นูนเญซ รู้ซึ้งเรื่องการผ่านบอลที่เฉียบคมของ "หนุ่มเทรนต์" อยู่แล้ว เพราะนี่คือนักเตะที่เปิดบอลได้แม่นยำที่สุดของ "เดอะ เร้ดส์" ฉะนั้นการมี แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โซโบซไล อยู่ในทีมยิ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการจบสกอร์ให้กับเขามากยิ่งขึ้น

สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินา และ ดาวเตะชาวฮังการี มีความสามารถในการเลี้ยงบอล และจ่ายบอลได้อันตรายมากๆ นอกจากนี้ยังมีทีเด็ดจากจังหวะการเปิดบอลพุ่งจากริมเส้นทั้งทางฝั่งซ้ายและขวา งานนี้คงทำให้ นูนเญซ ระเบิดฟอร์มเก่งออกมาเต็มที่

4. ความท้าทายรออยู่


สำหรับตอนนี้ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ นูนเญซ จะเบียดเป็นตัวจริงสำหรับตำแหน่งสามประสานแนวรุก เพราะทั้ง หลุยส์ ดิอาซ, ดีโอโก้ โชต้า กลับมาฟิตสมบูรณ์ ขณะที่ โคดี้ กัคโป ทำผลงานได้โดดเด่นและคงเส้นคงวา ส่วน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นลูกรักของ คล็อปป์ อยู่แล้ว

เมื่อช่วงท้ายซีซั่นที่ผ่านมา นูนเญซ ต้องตกเป็นตัวสำรอง เนื่องจาก คล็อปป์ ชื่นชอบที่จะให้ กัคโป ทำหน้าที่เป็นหน้าเป้า ส่วน ดิอาซ ได้ยืนปักหลักทางฝั่งซ้าย เขาได้ลงเล่นถึง 42 เกมในทุกรายการแต่ได้ลงตัวจริง 3 จาก 9 เกมหลังสุด และยิงได้แค่ประตูเดียวจาก 11 เกมสุดท้าย

นูนเญซ อาจจะไม่ได้มีความสามารถในการเลี้ยงบอลได้พลิ้วไหวดุจสายน้ำเหมือน ดิอาซ หรือวิ่งเพรสในแดนหน้าได้ดีเหมือน โชต้า และก็ไม่ได้เฉียบคมเท่ากับ ซาลาห์ แถมยังขาดความนิ่งแบบ กัคโป 

อย่างไรก็ตาม ดาวเตะเลือดอุรุกวัย ยังมีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นนักเตะชั้นยอดให้กับ ลิเวอร์พูล ได้ และเชื่อว่าในปีที่สองของเขากับ "หงส์แดง" ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น และงานนี้ทุกๆ คนจะได้เห็นว่าเขาทำผลงานได้คุ้มกับเม็ดเงินมหาศาลที่สโมสรทุ่มลงไป 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport