มิดฟิลด์รายต่อไป! 5 ข้อชี้ชัด ลิเวอร์พูล ควรคว้า โรเมโอ ลาเวีย

แม้ หงส์แดง จะได้สองกองกลางชั้นยอดอย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิก โซโบซไล เข้าสังกัดแล้ว แต่เชื่อกันว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่หยุดล่ามิดฟิลด์แต่เพียงเท่านั้น

เท่าที่ผ่านมา ทีมดังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ถูกลือกับกองกลางพลังหนุ่มมากมายทั้ง เคเฟรน ตูราม , มานู โคเน่ , ไรอัน กราเฟนแบร์ก และ กาบรี้ เบก้า แต่ล่าสุดคาดกันว่ากุนซือชาวเยอรมันหมายมั่นคว้าตัวดาวเตะทีม เซาธ์แฮมป์ตัน มาร่วมชายคา

ทำไมต้องเป็น ลาเวีย? นี่คือ5เหตุผลที่ยืนยันว่าเขาเหมาะกับสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ มากกว่าตัวเลือกรายอื่นๆที่ เร้ด แมชีน ให้ความสนใจ

1. เน้นเกมรับเป็นหลัก

เทียบกับสองกองกลางที่ ลิเวอร์พูล คว้ามาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลาเวีย ช่ำชองในการเล่นเกมรับอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด

แน่นอนว่าทั้ง แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โซโบซไล จะย้ายมาทำให้แดนกลางของ เร้ด แมชีน แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่ คล็อปป์ จำเป็นต้องมีใครสักคนยืนอยู่หน้าแผงหลังคอยปัดกวาดบอลอันตรายก่อนถึงพื้นที่สำคัญ

ท้ายซีซั่นที่ผ่านมา กุนซือด๊อยทช์ปรับให้ทีมหันมาเล่นในระบบ 3-4-3 แทน 4-3-3 ซึ่งทำให้ทีมมีผลลัพธ์ที่ดีจนเกือบโกยแต้มคว้าอันดับท็อปโฟร์ได้อยู่เหมือนกัน แต่มองดูแล้ว หงส์แดง ยังขาดนักเตะกองกลางตัวต่ำที่ถนัดการเล่นเกมรับ

ฉะนั้นแล้ว ลาเวีย จะเป็นการแก้ปัญหาแผงกลางตัวรับทางด้านซ้ายให้กับ เร้ด แมชีน และจะเป็นตัวแทนที่ดีในอนาคตข้างหน้าของ ฟาบินโญ่ ด้วยเช่นกัน

2. อายุยังน้อย

ในวัยเพียง 19 ปี ลาเวีย แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีโอกาสผงาดเป็นยอดดาวเตะ และมันมีแนวโน้มเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นหากเขาจะย้ายมาเป็นสมาชิกของ ลิเวอร์พูล

ภายใต้การเจียระไนของยอดกุนซืออย่าง คล็อปป์ เชื่อแน่ว่าสตาร์วัยรุ่นจะมีฝีเท้าที่พัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน และเขาจะกลายเป็นนักเตะคนโปรดของสาวก เดอะ ค็อป อย่างไม่ต้องสงสัย

ด้วยเหตุที่อายุยังน้อย มันจึงเป็นข้อได้เปรียบของ ลาเวีย เช่นกันเนื่องจากการคาดหวังในตัวเขาจะไม่สูงปรี๊ดเหมือนกับที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โซโบซไล ต้องเผชิญโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และมันจะทำให้เขาสามารถวาดลวดลายได้อย่างเต็มที่ชนิดไร้ความกดดัน

ขณะเดียวกัน แม้ ฟาบินโญ่ จะยังเหลือสัญญาจนถึงปี 2026 แต่การดึง ลาเวีย มาร่วมทีมจะทำให้เขามีเวลาเรียนรู้จากดาวเตะชาวเมืองกาแฟอย่างเต็มที่ก่อนก้าวขึ้นเป็นกำลังสำคัญของสโมสรแทนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

3. ประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก

เทียบกับตัวเลือกอื่นๆที่อยู่ในลิสต์ของ ลิเวอร์พูล ลาเวีย โดดเด่นเกินใครไม่ว่าจะเป็น กราเฟนแบร์ก , ตูราม และ เบก้า เนื่องจากเขาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก อยู่ก่อนแล้ว

ฉะนั้นแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องปรับตัวกับ พรีเมียร์ลีก ต่างไปจากพ่อค้าแข้งที่ย้ายเข้ามาใหม่ซึ่งมักต้องใช้เวลาสร้างความคุ้นเคย แถมบางรายล้มไม่เป็นท่าด้วยซ้ำทั้งๆที่มีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมจากลีกอื่น

เมื่อเป็นอย่างนี้ การเลือกเซ็นสัญญากับ ลาเวีย จึงเป็นการลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี ทั้งยังจะเป็นการเพิ่มความฮึกเหิมให้นักเตะไปในตัวด้วยที่ได้ย้ายมาค้าแข้งกับสโมสรที่ใหญ่ขึ้น

ยิ่งเทียบอายุกับนักเตะรายอื่นๆใน พรีเมียร์ลีก ด้วยกันแล้ว ลาเวีย สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นมากกว่าเช่นกัน เขาจึงดีเกินกว่าที่จะถูกปล่อยให้หล่นไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นหน้า

4. อย่าปล่อยให้ย้ายกลับสู่ทีมเรือใบเชียว

ถึงตอนนี้ ยังไม่มีข่าวความเคลื่อนไหวว่า แมนฯ ซิตี้ อยากคว้า ลาเวีย กลับสู่ เอติฮัด สเตเดี้ยม หลังตัดสินใจขายเขาให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี เรือใบสีฟ้า ทำเงื่อนไขสามารถดึงอดีตดาวเตะเยาวชนกลับสู่สโมสรได้ด้วยการควักกระเป๋า 40 ล้านปอนด์ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2024

ลองมีสัญญาผูกมัดแบบนี้ หากปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปถึงปีหน้า มันก็ไม่แน่ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจนึกอยากดึง ลาเวีย มาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรก็ได้สำหรับการเสริมทัพในซัมเมอร์หน้า

และถ้าเป็นอย่างนั้น แมนฯ ซิตี้ จะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกขนาดไหนเห็นทีคงไม่ต้องบอกเพราะนักเตะไม่ว่ารายไหนหากผ่านมือของ กวาร์ดิโอล่า รับรองได้เลยว่าเขาคนนั้นจะต้องมีศักยภาพที่เพิ่มพูนมากขึ้นอีกหลายขีดขั้น

5. กฏโฮมโกรนคือคำตอบ

สุดท้ายแล้ว ลาเวีย สมควรถูก เร้ด แมชีน คว้ามาร่วมสังกัดก็ด้วยกฏโฮมโกรนนี่แหละ

สตาร์วัยรุ่นไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อลงทะเบียนในขุมกำลัง 25 รายของ ลิเวอร์พูล ตลอดสามปีข้างหน้า และเมื่อเขามีอายุครบ 22 ปี ลาเวีย ก็จะยังอยู่ในหมวดหมู่นักเตะโฮมโกรนเนื่องจากใช้เวลากับสโมสรในอังกฤษเกินกว่าสามซีซั่น

ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นอีกข้อดีของ ลาเวีย ที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล สามารถเสริมทัพเพิ่มได้อีกหากพวกเขายังต้องการช็อปปิ้งต่อโดยที่ยังมีงบประมาณเหลือมากพอ