ของดีประโยชน์เยอะ! 3 แนวทางที่ สเปอร์ส จะใช้งาน เจมส์ แมดดิสัน

ของดีประโยชน์เยอะ! 3 แนวทางที่ สเปอร์ส จะใช้งาน เจมส์ แมดดิสัน
การได้ตัว เจมส์ แมดดิสัน มาร่วมทีมถือเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมสำหรับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพราะพวกเขาต้องการผู้เล่นแดนกลางที่มีความสามารถหลากหลาย เพื่อจะได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเกมรุกให้มีความดุดัน และเฉียบคมมากยิ่งขึ้นสำหรับฤดูกาล 2023/2024

"ไก่เดือยทอง" ต้องพบกับฤดูกาลที่น่าผิดหวังเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา โดยพวกเขาหมดโอกาสไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรป ด้วยเหตุนี้ สเปอร์ส จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างทีมใหม่ในยุคกุนซืออังเก้ ปอสเตโคกลู 

ดังนั้นการได้ตัว แมดดิสัน มาเสริมแกร่งถือเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมอย่างมาก เพราะนักเตะเป็นผู้เล่นที่มีความหลากหลายในเกมรุก และสามารถที่จะสร้างเพิ่มศักยภาพในการทำประตูให้กับทีมได้มากยิ่งขึ้น 

แมดดิสัน สามารถเล่นตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ก็ได้ซึ่งเคยทำมาแล้วตอนที่อยู่กับ โคเวนทรี ซิตี้ แต่นักเตะยังเล่นได้อีกหลายตำแหน่งซึ่งเขาแสดงให้เห็นมาแล้วตอนที่อยู่กับ "เดอะ ฟ็อกซ์" เลสเตอร์ ซิตี้ 

แล้วการย้ายมาอยู่กับยอดทีมแห่งนอร์ธ ลอนดอน ในช่วงซัมเมอร์นี้ ปอสเตโคกลู จะเลือกจับ แมดดิสัน เล่นในตำแหน่งไหนเพื่อจะดึงศักยภาพของนักเตะออกมาได้อย่างเต็มที่ นี่คือสิ่งที่สาวก "ไก่เดือยทอง" อยากรู้เหลือเกิน

- สวมบทมิดฟิลด์บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์

ช่วงปรีซีซั่นเป็นโอกาสดีเยี่ยมที่ ปอสเตโคกลู จะได้ทดลองระบบการเล่น โดยเขาอาจจะใช้แผน 4-3-3 ซึ่งจะเป็นการเล่นที่เน้นเกมบุก และเขามักจะใช้แท็คติกนี้บ่อยๆ ตอนที่กุมบังเหียนกลาสโกว์ เซลติก 

สำหรับระบบการเล่นแบบนี้ นายใหญ่ชาวออสเตรเลีย คงเลือกใช้งาน อีฟส์ บิสซูม่า ในตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 6 หรือโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ ขณะที่ แมดดิสัน จะได้สวมบทบาทนักเตะเบอร์ 8 หรือ "บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์" 

สไตล์การเล่นแบบนี้สำหรับ แม็ดดิสัน ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะเขาถือเป็นแข้งที่มีประสบการณ์สูงแม้จะอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น แน่นอนว่านี่คือออปชั่นที่ดีเยี่ยมสำหรับ ปอสเตโคกลู หากเลือกใช้แท็คติกแบบนี้ 

การทำหน้าที่ในตำแหน่งบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ จะต้องเป็นนักเตะที่มีระเบียบวินัยสูง และทุ่มเทอย่างหนักไม่ว่าจะตอนที่มีบอลหรือไม่มีก็ตาม ที่สำคัญแท็คติกนี้จะทำให้ แมดดิสัน ได้โอกาสทะลุทะลวงเข้าไปสร้างความอันตรายในแดนคู่แข่งทุกครั้งที่ สเปอร์ส ได้ครองเกม 

- สวมบทเบอร์ 10 เพลย์เมกเกอร์

สมัยแรกๆ ช่วงที่เริ่มต้นอาชีพ แม็ดดิสัน ไม่ค่อยโดดเด่นมากนักในเรื่องการปั้นเกม เขาแทบจะไม่ใช่นักเตะจอมสร้างสรรค์เลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมาเจ้าตัวค่อยๆ พัฒนาฝีเท้า และตอนนี้ก็สามารถสวมบทบาทเพลย์เมกเกอร์ได้เลย  

อย่างไรก็ตาม ด้วยขุมกำลังของ สเปอร์ส ในปัจจุบันดูเหมือนว่าทีมน่าจะเหมาะกับระบบ 4-2-3-1 แต่ถ้าหาก ปอสเตโคกลู เลือกที่จะใช้แผน 4-3-3 นั่นจะทำให้ แมดดิสัน มีบทบาทมากยิ่งขึ้นในฐานะจอมทัพ ที่สำคัญ ซน ฮึง-มิน กับ แฮร์รี่ เคน หรือ ริชาร์ลิซอน จะได้ประโยชน์จากการสร้างโอกาสของ ดาวเตะวัย 26 ปี ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือบทบาทดังกล่าวจะทำให้ แมดดิสัน ได้ดันเกมบุกอย่างเต็มที่ โดยมี บิสซูม่า กับ  โรดรีโก้ เบนตานกูร์ คอยทำหน้าที่สนับสนุน นอกจากนี้เขายังสามารถสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ก็ได้ ฉะนั้นระบบการเล่นแบบนี้จะมีประโยชน์อย่างมากต่อเกมบุกของ "ไก่เดือยทอง" 

- แนวรุกฝั่งซ้าย

สำหรับการทำหน้าที่เป็นแนวรุกฝั่งซ้ายถือเป็นอีกระบบที่จะทำให้ ปอสเตโคกลู จะได้เห็นศักยภาพชั้นยอดของ แมดดิสัน ในอีกตำแหน่งหากเขาเลือกใช้แผนการเล่นแบบแนวรุก 3 คน 

แม้ว่าการยืนทางริมเส้นฝั่งซ้ายจะไม่ใช่ตำแหน่งที่ แมดดิสัน ได้ลงไปเล่นบ่อยนัก แต่มันอาจเป็นไปได้ที่เจ้าตัวจะได้ทำหน้าที่ตรงนี้ถ้าหาก ปอสเตโคกลู ต้องการที่จะจับเขาไปเล่น ยกตัวอย่างตอนที่คุม เซลติก, กุนซือแดนจิงโจ้ มักจะให้ผู้เล่นริมเส้นจัดการโจมตีฟูลแบ็กคู่แข่งแบบตัวต่อตัว

อย่างไรก็ตามถ้าหากทำแบบนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายพอสมควร เพราะนั่นทำให้ "ไก่เดือยทอง" พลาดโอกาสที่จะได้ใช้พรสวรรค์ในการสร้างสรรค์เกมของ แมดดิสัน 

กระนั้นมันก็อาจจะไปได้สวยก็ได้ ถ้าหาก แมดดิสัน ได้อิสระในการวิ่งสลับตำแหน่ง โดยบางครั้งเขาอาจขยับเข้าไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางซึ่งเป็นตำแหน่งที่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ และสร้างความอันตรายบริเวณกรอบเขตโทษคู่แข่ง หรือจะประสานงานทางริมเส้นกับฟูลแบ็กเวลาที่ขยับไปยืนริมเส้นก็ได้ 

ทอมเม้ง 


ที่มาของภาพ : gettyimages, standard.co.uk
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport