วันนี้...ขอว่าด้วยเรื่อง เมสัน เมาท์ อีกสักครั้ง ในจังหวะที่ มีข่าวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เชลซี กำลังเล่นชักคะเย่อกันอยู่
1.เรื่อง แมนฯ ยูไนเต็ด อยากจะ 'เอานะ' เมสัน เมาท์ เรียนตามตรงในฐานะเด็กผีคนหนึ่งว่าเขายังไม่ใช่คนที่โดนใจสักเท่าไหร่
แต่เชื่อว่าน่าจะเป็น 'ใบสั่ง' จาก เอริค เทน ฮาก โดยตรง
นินทากันว่ากุนซือปีศาจแดงชื่นชอบนักเตะวัย 24 ผู้นี้ ตั้งแต่ตอนคุม อาแจ็กซ์ เมื่อดาวรุ่งของ เชลซี ถูกส่งให้ทีมในลีกดัตช์อย่าง วิเทสส์ ยืมตัวไปใช้งาน เมื่อฤดูกาล 2017/18
เมสัน เมาท์ ในสายตาของผมเป็นผู้เล่นที่ ยิงได้ จ่ายได้ สร้างสรรค์เกมรุกได้ แต่ไม่ค่อยหวือหวาหมาเห่าเท่าไหร่ และไม่ถึงกับมีอิทธิพลต่อเกมอะไรมากมาย
คือไม่ถึงขั้น 'จอมทัพ'
เข้าใจว่า เอริค เทน ฮาก น่าจะชื่นชอบสไตล์การเล่นเป็นการส่วนตัว และคิดว่าน่าจะเข้าระบบพลางใช้ประโยชน์จากนักเตะผู้นี้ได้
เขาเล่นได้หลายตำแหน่งในแดนกลาง
หมายเลข 10 ก็ได้ หมายเลข 8 ก็น่าจะได้นะ และที่เห็นประจำยามรับใช้ เชลซี และทีมชาติอังกฤษ
คือ 'กองหน้ากึ่งปีกซ้าย' ซึ่งกุนซือหัวหลอดไฟไม่น่าจะเอามาเล่นตำแหน่งนี้แน่ เพราะมีอยู่แล้วหลายคน
วิเคราะห์ว่าน่าจะดึงตัวมา เพื่อสวมบทหมายเลข 8 คู่กับมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง กาเซมิโร่ ในระบบ 4-2-3-1
เหมือน คริสเตียน เอริคเซ่น ที่ตอนอยู่กับ สเปอร์ส, อินเตอร์ มิลาน และเบรนต์ฟอร์ด เขาไม่ได้เล่นตำแหน่งนี้สักหน่อย
หรือจะถอย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ลงมาเล่นเหมือน ดีพไลน์อิ้ง เพลย์เมคเกอร์ แล้วให้ เมสัน เมาท์ ขึ้นไปเป็น 'หน้าต่ำ'
อีกรูปแบบหนึ่งคือปรับระบบเป็น 4-3-3 โดยมีคุณเกษมวิโรจน์ ปักหลักเก็บกวาดหน้าแผงแบ็คโฟร์ แล้วใช้ตัวขับเคลื่อนเกม 2 คน เพื่อแบ่งเบาไม่ให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส รับบทหนักอยู่คนเดียว
2.นับตั้งแต่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีม 'สิงห์บลูส์' รอบแรก เขาหนีบ เมสัน เมาท์ มาจาก
ดาร์บี้ (ยืมตัว) กลับมาที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยกัน
'เอ็มเอ็ม' เป็นตัวหลักของ เชลซี ทันทีจนก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษ
ฤดูกาลที่แล้วก็ยังเป็นตัวหลักนั่นแหละ เพียงแต่ฟอร์มตกลงไป แถมได้ลงเล่นน้อยลงด้วยการเพิ่มขนาดทีมของ 'เสี่ยต๊อด' รวมถึงถูกอาการบาดเจ็บคอยรังควาน
ซีซั่น 2022/23 ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกแค่ 24 นัด (ตัวจริง 20 นัด สำรอง 4 นัด) ยิง 3 แอสซิสต์ 2 น้อยที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2019/20 เลยทีเดียว
ด้วยตำแหน่งของ เมสัน เมาท์ (หน้าซ้าย) มีตัวเลือกอย่าง
ราฮีม สเตอร์ลิง, มิไคโล มูดริค และคริสเตียน พูลิซิช
เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมขนานใหญ่ เปลี่ยนผู้จัดการทีมเหมือนเปลี่ยนกางเกงใน ลูกหม้อของสิงห์บลูส์ผู้นี้เหมือนจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของกุนซือคนใหม่ จึงยังไม่ยอมต่อสัญญาฉบับใหม่ที่จะหมดลงในช่วงกลางปี 2024
เมสัน เมาท์ หาทางเอาตัวรอด ขณะเดียวกับที่ เชลซี ก็พร้อมปล่อย ในวงเล็บว่า (ถ้าได้ราคาที่น่าพอใจ)
3.หลังจบฤดูกาลมีข่าวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ขอซื้อ เมสัน เมาท์ มาร่วมทัพ
ทว่า เชลซี ที่ขายผู้เล่นได้ราคามาตลอด พอยิ่งเห็นเป็นทีมที่ยอมจ่ายค่าตัว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ อันโตนี่ ในระดับ 80 ล้านปอนด์ จึงจ้องฟันให้ยับมากที่สุดพลางแลบลิ้นเลียปาก แผล็บๆๆๆ
ปีศาจแดง ซึ่งถูกขูดรีดมาตลอดคงเห็นว่าเหลือสัญญาแค่ปีเดียว แล้วกูจะจ่ายแพงไปทำแมวน้ำอะไร
มันจึงยังตกลงกันไม่ได้
4.ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง
ราคา 55 ล้านปอนด์ ถือว่าสมน้ำสมเนื้อนะครับ
ไม่ถูก แต่ก็ไม่แพงเกินไปจนน่าเกลียด
ในฐานะ 'เด็กผี' ย่อมเข้าใจดีอยู่แล้วว่าเราจ่ายแพงกว่าชาวบ้านเสมอ
แต่ เชลซี บอกเอามา 65 ล้านปอนด์
ถามว่าอยากได้ไหม ???
ตอบว่า...ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เดือดร้อนอะไร ถ้าต้องถูกขูดจนเลือดซิบ เก็บเงินเอาไว้ซื้อผู้เล่นคนอื่นในตำแหน่งที่ 'Most Wanted' มากกว่าอย่างกองหน้าตัวเป้าดีกว่า
ตัวอย่างเช่นมิดฟิลด์อย่าง ดีแคลน ไรซ์ หรือ มอยเซส ไกเซโด้
5.ในเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ยืนกรานว่ายอมจ่ายเต็มพิกัดที่ 55 ล้านปอนด์ เท่านั้น
ขณะที่ เชลซี ต้องการ 65 ล้านปอนด์ เท่านั้นเช่นกัน
หากดูดปากกันไม่ได้
สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดอย่าง เชลซี นั่นแหละ
ถ้าคิดว่าไม่คุ้ม ค่าตัวน้อยไปก็ไม่ต้องขาย
ก็เท่านั้นเอง ง่ายดี จบๆ กันไป อย่าไปยืดเยื้อ
เดี๋ยวจะเหมือนตอนตามตื้อ เฟร้งกี้ เดอ ยอง เมื่อปีที่แล้ว เสียเวลาชิบหายเลย !!!
บอ.บู๋