ตำนานที่ต้องจดจำ ! "10 การย้ายทีมที่เจ๋งที่สุดในวงการลูกหนังโลก"

ตำนานที่ต้องจดจำ ! "10 การย้ายทีมที่เจ๋งที่สุดในวงการลูกหนังโลก"
การย้ายทีมเป็นวัฎจักรของวงการฟุตบอล แต่การย้ายทีมบางครั้งทำให้โลกต้องจดจำเพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของนักเตะคนหนึ่ง หรืออาจจะสโมสรๆ หนึ่งเลยทีเดียว

แน่นอนว่าการที่ผู้เล่นคนหนึ่งย้ายไปอยู่กับสโมสรใหม่ อาจจะต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาลทั้งเรื่องความคาดหวัง และเม็ดเงินที่สโมสรทุ่มซื้อมา แต่นั่นเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะต้องเจออยู่แล้ว

กระนั้นการย้ายทีมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และด้วยเหตุที่เข้าสู่ช่วงฤดูกาลโยกย้ายก็เลยนำ 10 การย้ายทีมที่ดีที่สุดตลอดกาล มานำเสนอแต่จะเหมือนกับที่หลายๆ คนคิดกันไหม ไปลองดูกันเลย 

10. เนย์มาร์ (บาร์เซโลน่า ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง)


 ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อน เนย์มาร์ ทำให้วงการลูกหนังต้องเซอร์ไพรส์เมื่อเขาตัดสินใจอำลา บาร์ซ่า เพื่อไปเล่นกับ "เปแอสเช" และที่ช็อกยิ่งกว่านั่นก็คือค่าตัวของเขาสูงถึง 198 ล้านปอนด์ (ราว 8,316 ล้านบาท) ซึ่งมันยังคงเป็นสถิติค่าตัวแพงสุดตลอดกาลจนถึงปัจจุบัน สำหรับตอนนี้ สตาร์ลูกหนังชาวบราซิเลียน ยังคงอยู่ในถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ แต่ก็มีข่าวเรื่องย้ายทีมออกมาอย่างต่อเนื่อง กระนั้นบทสรุปในชีวิตพ่อค้าแข้งของเขายังไม่ชัวร์ว่าจะอยู่กับต้นสังกัดต่อไป หรือออกไปหาความท้าทายใหม่กับทีมอื่นซัมเมอร์นี้ 

9. ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ (บาเยิร์น มิวนิค ไป นิวยอร์ค คอสมอส)


"ไกเซอร์ฟร้านซ์" ยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่แกร่งที่สุดในโลกตลอดกาล โดยเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่เดินทางไปบุกเบิกเกมลูกหนังในประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นแข้งแชมป์โลก และตำนานนักเตะเยอรมันตะวันตก ตกลงรับค่าเหนื่อยมหาศาลเพื่ออำลา บาเยิร์น ไปอยู่กับ นิวยอร์ค คอสมอส  ช่วงเวลานั้น เบ็คเค่นบาวเออร์ คว้าแชมป์ทุกอย่างกับ "เสือใต้" แล้ว โดยเฉพาะแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย นั่นทำให้เขารู้สึกว่าการย้ายไปยังนคร "บิ๊ก แอปเปิ้ล" ในปี 1977 ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญ 

8. เธียร์รี่ อองรี (ยูเวนตุส ไป อาร์เซน่อล)


 มีนักเตะที่ไม่ใช่ชาวสหราชอาณาจักรไม่กี่คนที่สามารถสร้างปรากฎการณ์ให้กับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหมือนที่ เธียร์รี่ อองรี ได้สร้างเอาไว้กับ อาร์เซน่อล โดยเขาย้ายจาก ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ (ราว 462 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์ปี 1999 พร้อมกับสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซกับ "เดอะ กันเนอร์" โดย ตำนานทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 2 สมัย รวมทั้งแชมป์ลีกชุดไร้พ่ายฤดูกาล 2003/2004 

7. หลุยส์ ฟิโก้ (บาร์เซโลน่า ไป เรอัล มาดริด)


 กรณีการย้ายทีมแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยโดยเฉพาะระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด แต่ หลุยส์ ฟิก้า ได้สร้างเรื่องที่สุดช็อกในครั้งนั้น และนั่นทำให้เขากลายสภาพจากฮีโร่เป็นคนทรยศของสาวก "เจ้าบุญทุ่ม" ไปโดยปริยาย หลังทำเรื่องต้องห้ามเมื่อปี 2000 ตอนนั้นนักเตะย้ายทีมด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์ (ราว 1,554 ล้านบาท) ซึ่งเป็นสถิติโลกในเวลานั้น กระนั้น ตำนานแข้งชาวโปรตุกีส ดูเหมือนจะคิดถูกเพราะเขาประสบความสำเร็จกับทัพ "ราชันชุดขาว" ด้วยการคว้าแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย 

6. โรนัลโด้ (บาร์เซโลน่า ไป อินเตอร์ มิลาน)


 แค่ปีเดียวหลังจากที่ "โล้นทองคำ" ย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลก นักเตะก็ตัดสินใจอำลาถิ่นคัมป์ นู ไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน แต่น่าเสียดายที่นักเตะไม่ได้สัมผัส "สคูเด็ตโต้" เลย แถมยังใช้เวลาอยู่บนเตียงหมอมากกว่าสนามซ้อมด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้น โรนัลโด้ ยังมีสถิติตะบันไป 59 ประตูจาก 99 เกมตลอด 5 ซีซั่นกับทัพ "งูใหญ่" ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาเจอโรคเดี้ยงเล่นงานมาตลอด และสุดท้ายก็ย้ายตามฝันไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ในปี 2002 

5. เอริค คันโตน่า (ลีดส์ ไป แมนฯ ยูไนเต็ด)


 ต้องบอกว่านี่คือหนึ่งในดีลประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยน แมนฯ ยูไนเต็ด ให้กลายเป็นมหาอำนาจลูกหนังในช่วงยุค 90 จนถึงกลางยุค 2000 ภายใต้การกุมบังเหียนเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ย้อนกลับไปในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 1992 "ผีแดง" ลงทุนทุ่มเงินถึง 1 ล้านปอนด์ (ราว 42 ล้านบาท) ซึ่งตอนนั้นถือว่าแพงมาก เพื่อกระชาก เอริค คันโตน่า มาจากอ้อมอก ลีดส์ ยูไนเต็ด ทั้งๆ ที่ "ยูงทอง" คือทีมคู่อริกับ "เร้ด เดวิลส์" มานานแสนนาน หลังจากนั้น "ก็องโต้" ก็สร้างปรากฎการณ์มากมายรวมทั้งนำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย ก่อนที่จะตัดสินใจแขวนสตั๊ดทั้งๆ ที่อายุเพียง 30 ปีเท่านั้น ปัจจุบัน คันโตน่า ยังคงเป็นที่รักของสาวก "เร้ด อาร์มี่" อย่างมิเสื่อมคลาย 

4. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนฯ ยูไนเต็ด ไป เรอัล มาดริด)


 ตอนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาอยู่กับ "ผีแดง" ถือว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น แต่ตอนนั้นเขาเหมือนมาฟูมฟักฝีเท้าจนกระทั่งแข็งแกร่งแล้ว นักเตะก็เลือกเดินตามฝันอำลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟอฟร์ด ไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ในปี 2009 ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ (ราว 3,360 ล้านบาท) โดย "เฮียโด้" ประสบความสำเร็จมากมายมหาศาลทั้งคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย, แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย และ โกปา เดล เรย์ 2 สมัย รวมทั้งเป็นดาวซัลโวตลอดกาล "โลส บลังโก้" และได้บัลลงดอร์ 5 สมัย (1 สมัยกับ แมนฯ ยูฯ)

3. ซีเนดีน ซีดาน (ยูเวนตุส ไป เรอัล มาดริด)


 นี่คืออีกหนึ่งนักเตะที่เป็นเจ้าของค่าตัวสถิติโลกตอนย้ายมาอยู่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว โดย ซีเนดีน ซีดาน คือการลงทุนที่สำคัญในการสร้างทีมยุค "กาลาติกอส" ที่สำคัญเขาสามารถนำต้นสังกัดคว้าโทรฟี่ "หูกาง" ในซีซั่นแรกที่ย้ายมาทำมาหารับประทานที่แดนกระทิงดุ และสอยแชมป์ ลา ลีกา ในปีถัดมา ฉะนั้นนี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดของ "ซิซู" ที่เลือกโบกมือลา ยูเวนตุส เพื่อมาเล่นกับ เรอัล มาดริด ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อ ซีดาน หันมาทำงานกุนซือเขายังนำทีมยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ถ้วยใบโตยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน และลา ลีกา 2 สมัย 

2. ดีเอโก้ มาราโดน่า (บาร์เซโลน่า ไป นาโปลี)


 ต้องยอมรับว่านี่คือการย้ายทีมที่ทำให้โลกต้องจดจำไม่มีวันลืม โดยตอนนั้น ดีเอโก้ มาราโดน่า เลือกที่จะอำลาสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับทีมระดับปานกลางอย่าง นาโปลี หลังจากนั้น ตำนานลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ผู้ล่วงลับ ก็สร้างประวัติศาสตร์นำ "อัซซูร์ร่า" ผงาดคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 2 สมัย, ยูฟ่า คัพ และ โคปปา อิตาเลีย ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่อยู่กับทีม ความสุดยอดของ "เสือเตี้ย" ยังคงอยู่ในหัวใจของชาวเนเปิ้ลส์ไม่มีวันลืมเลือน และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาตัดสินใจใช้ชื่อสนามเหย้าว่า "ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า" ตามชื่อสุดยอดนักเตะหมายเลข 10 ของโลก

1. เปเล่ (ซานโตส ไป นิวยอร์ค คอสมอส)


 ไม่มีใครปฏิเสธว่านี่คือการย้ายทีมที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการฟุตบอลในอเมริกา โดย เปเล่ ทำให้ผู้คนในเมืองลุงแซมได้เข้าใจคำว่า "เกมฟุตบอลที่สวยงาม" ตอนที่เขาย้ายมาอยู่กับ คอสมอส ในปี 1975 ลองนึกภาพนักฟุตบอลที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 3 สมัยกับทีมชาติบราซิล เดินทางมาขุดทองในสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่ตลอดชีวิตนักเตะของเขาเล่นกับ ซานโตส แน่นอนว่านี่มันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับการย้ายทีมในตอนนั้น "ไข่มุกดำ" ช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ เอ็นเอเอสแอล ซอคเก้อร์ โบว์ล ในปี 1977 และหลังจากนั้นเกมลูกหนังก็ค่อยๆ กลายเป็นหนึ่งในกีฬายอดฮิตของชาวอเมริกันจนถึงปัจจุบัน 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport