ใครสายเปย์ตัวพ่อ?เทียบเม็ดเงินสองอริร่วมเมืองถลุงนับตั้งแต่ เป๊ป คุมทีม แมนซิตี้

ใครสายเปย์ตัวพ่อ?เทียบเม็ดเงินสองอริร่วมเมืองถลุงนับตั้งแต่ เป๊ป คุมทีม แมนซิตี้
แมนฯ ซิตี้ ใช้เงินซื้อนักเตะไปมากนับตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถูกดึงตัวมาคุมทีมเมื่อปี 2016

จนในที่สุด เรือใบสีฟ้า สามารถทาบรัศมี แมนฯ ยูไนเต็ด อริร่วมเมืองได้สำเร็จแล้วหลังเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน 1-0 ในเกมชิงถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เหมาคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่

ฉะนั้นแล้วคำถามจึงมีอยู่ว่าระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมไหนใช้เงินซื้อนักเตะมาเสริมทัพมากกว่ากันนับตั้งแต่กุนซือสแปนิชเข้ามารับงานกับสังเวียนแข้ง เอติฮัด สเตเดี้ยม

ต่อประเด็นนี้ กวาร์ดิโอล่า เคยเอ่ยออกมาว่า "เราใช้เงินไปมากเพื่อซื้อนักเตะที่น่าทึ่งมากมาย และมันเป็นเหตุผลหลักต่อการประสบความสำเร็จของสโมสร"

แน่นอนว่า กวาร์ดิโอล่า ไม่คิดโกหกเนื่องจากการใช้เงินของเขาส่งผลให้ เรือใบสีฟ้า ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ห้าสมัย , แชมป์ ลีกคัพ สี่สมัย และแชมป์ เอฟเอคัพ สองสมัยก่อนผงาดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์

กระนั้นก็ดี แมนฯ ซิตี้ ไม่ใช่ทีมเดียวที่ทุ่มเงินไปกับเรื่องดังกล่าวนับตั้งแต่พวกเขาแต่งตั้งกุนซือสแปนิชคุมทีมเนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมร่วมเมืองใช้เงินซื้อนักเตะอย่างบ้าคลั่งเกินกว่าหนึ่งพันล้านปอนด์ตลอดระยะเวลาหกปีที่ผ่านมา

ฉะนั้นแล้วกุนซือวัย 52 ปีจึงยืนยันว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่ใช่ทีมใน พรีเมียร์ลีก รายเดียวที่ถลุงเงินเป็นเข่ง

"ฟังนะ หลายทีมต่างก็ลงทุน แมนฯ ยูไนเต็ด , อาร์เซน่อล ตอนที่ เชลซี เริ่มได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก พวกเขาใช้เงินมากกว่าทุกทีมด้วยซ้ำ" กวาร์ดิโอล่า เอ่ยเมื่อปี 2020

"ผมเป็นผู้จัดการทีมที่ดี แต่ผมไม่มีทางได้แชมป์หากผมไม่มีนักเตะที่ดี และนักเตะที่ดีมีราคาแพง ทุกสโมสรใช้เงินมากมาย บาร์เซโลน่า ใช้เงินมาก มาดริด ใช้เงินมาก ทีมในอังกฤษใช้เงินมาก"

"หากเราสร้างทีมเพื่อต่อสู้ใน พรีเมียร์ลีก หรือ แชมเปี้ยนส์ลีก เราจำเป็นต้องลงทุน"

"เราสามารถใช้เงินได้มากเพราะประธาน และเจ้าของทีมต้องการ แต่มันมีกฏ ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ เสมอ และเราแสดงให้เห็นแล้วแม้เราจะถูกกล่าวหาตลอดเวลา"

"ผมไม่ต้องการขอโทษต่อสิ่งไหน ผมเสียใจด้วย แมนฯ ซิตี้ ไม่จำเป็นต้องขอโทษเพราะสามองค์กรอิสระตัดสินว่าเราทำทุกอย่างด้วยความเหมาะสม มันยิ่งกว่าชัดเจนซะอีก"

ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ใช้เงินอย่างมหาศาล แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมคู่แข่ง หนีไม่พ้นต้องตกอยู่ใต้ร่มเงาของ กวาร์ดิโอล่า และไม่ต้องสงสัยเลยว่า เอริค เทน ฮาก ตระหนักดี

"สโมสรซื้อนักเตะจำนวนมากในระยะหลังซึ่งพวกเขาไม่ดีพอ" กุนซือดัตช์เอ่ยกับสื่อ

"นักเตะส่วนใหญ่มีฝีเท้าพื้นๆ และที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มันไม่ดีพอ เราต้องการนักเตะที่สามารถเล่นได้ภายใต้ความกดดัน และมีบุคลิกภาพอย่างแท้จริงที่จะเล่นให้กับสโมสรนี้"

จะอย่างไรก็ตามเห็นทีว่าเราควรเปรียบเทียบการใช้เงินของสองทีมร่วมเมืองดูสักหน่อยว่านับตั้งแต่ กวาร์ดิโอล่า เข้ามาสร้างชื่อในลีกอิงลิชเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2016 ทั้ง เรือใบสีฟ้า และ ปีศาจแดง หมดเงินกันไปมากน้อยแค่ไหน

- เม็ดเงินที่ แมนฯ ซิตี้ ใช้นับตั้งแต่ซีซั่น 2016/17

5 การซื้อที่แพงที่สุด

1. แจ็ค กรีลิช 105.8 ล้านปอนด์

2. รูเบน ดิอาส 61.2 ล้านปอนด์ง

3. ริยาด มาห์เรซ 61 ล้านปอนด์

4. ชูเอา กานเซโล่ 58.5 ล้านปอนด์

5. เอมเมอริค ลาปอร์กต์ 58.5 ล้านปอนด์

5 การขายที่แพงที่สุด

1. เลรอย ซาเน่ 54 ล้านปอนด์

2. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 50.9 ล้านปอนด์

3.เฟร์ราน ตอร์เรส 49.5 ล้านปอนด์

4. กาเบรียล เชซุส 47 ล้านปอนด์

5. ดานิโล่ 33.3 ล้านปอนด์

รวมเม็ดเงินที่จ่ายออก : 1.074 พันล้านปอนด์

รวมเม็ดเงินที่รับเข้า : 596 ล้านปอนด์

รวมการใช้จ่าย : 478 ล้านปอนด์

- เม็ดเงินที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้นับตั้งแต่ซีซั่น 2016/17

5 การซื้อที่แพงที่สุด

1. ปอล ป็อกบา 94.50 ล้านปอนด์

2. อันโตนี่ 86 ล้านปอนด์

3. แฮร์รี่ แม็กไกวร์ 78.30 ล้านปอนด์

4. เจดอน ซานโช่ 76.5 ล้านปอนด์

5. โรเมลู ลูกากู 76.23 ล้านปอนด์

5 การขายที่แพงที่สุด

1. โรเมลู ลูกากู 66.60 ล้านปอนด์

2. เฮนริค มคิตาร์ยาน 30.60 ล้านปอนด์

3. แดเนี่ยล เจมส์ 26.19 ล้านปอนด์

4. มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน 20.70 ล้านปอนด์

5. เมมฟิส เดอปาย , ดาเลย์ บลินด์ 14.40 ล้านปอนด์

รวมเม็ดเงินที่จ่ายออก : 1.077 พันล้านปอนด์

รวมเม็ดเงินที่รับเข้า : 242 ล้านปอนด์

รวมการใช้จ่าย : 835 ล้านปอนด์


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport