"ฮาลันด์" กวาด 4 รางวัล, "เด เคอา" เหนียวสุด! บทสรุปพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/2023

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงแข็งแกร่งสมเป็นทีมอันดับ 1 ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม้ว่าในช่วงต้นฤดูกาลจะฟอร์มกระท่อนกระแท่น แต่หลังจากปรับจูนเครื่องจนทุกอย่างลงตัว ทัพ "เรือใบสีฟ้า" ก็จัดการกางใบแล่นชิวพุ่งแรงแซงหน้า อาร์เซน่อล ในช่วงโค้งสุดท้าย ผงาดคว้าแชมป์ลีกไปครอบครองอย่างยิ่งใหญ่

สำหรับทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 5 จาก 6 ฤดูกาลหลังสุด ขณะที่ อาร์เซน่อล ต้องบอกว่าน่าผิดหวังสุดๆ เพราะพวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงมาตลอดและครองตำแหน่งจ่าฝูง 93 เปอร์เซนต์ของซีซั่น แต่พวกเขาดันมาฟอร์มหลุดในช่วงสำคัญทำให้โดน แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่องแซงหน้า

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคใหม่ภายใต้การกุมบังเหียนของ เอริค เทน ฮาก ต้องบอกว่าสามารถลบคำปรามาสของบรรดาเกจิลูกหนังได้สำเร็จ เมื่อพวกเขาจบอันดับ 3 ได้อย่างสุดยอดทั้งๆ ที่เปิดตัวไม่สวยแพ้ 2 เกมติดต่อกัน แต่สุดท้ายบรรลุเป้าหมายเข้าป้ายคว้าโควตากลับไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ

ในส่วนของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับสาวก "เดอะ แม็กพายส์" เมื่อพวกเขาสามารถฉีกความยิ่งใหญ่ของเหล่าทีมท็อปซิกซ์ในลีกก้าวขึ้นมายึดท็อปโฟร์ได้อย่างยิ่งใหญ่ และหวนกลับไปลุยศึกถ้วยใบโตยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษเลยทีเดียว

 ที่น่าผิดหวังคงหนีไม่พ้น ลิเวอร์พูล เนื่องจากพวกเขาถือเป็นขาประจำแชมเปี้ยนส์ ลีก มาตลอด 7 ซีซั่นที่ผ่านมา โดยฤดูกาลนี้ "หงส์แดง" เริ่มต้นได้อย่างย่ำแย่ ฟอร์มขาดความสม่ำเสมอ และกว่าจะตั้งสติได้ก็ช่วงท้ายฤดูกาลซึ่งไม่ทันซะแล้ว ทำให้พวกเขาจบที่อันดับ 5 ไปเล่นในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ไปโดยปริยาย

ด้านสโมสรที่ต้องบอกว่าร้อนแรงเหลือเกินอย่าง ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ถือว่าเซอร์ไพรส์สุดๆ เมื่อพวกเขาต่อกรกับพวกทีมใหญ่ได้อย่างสนุก โดยสามารถจบอันดับ 6 ได้สิทธิ์ไปลุยรอบแบ่งกลุ่ม ยูโรปา ลีก งานนี้สาวก "เดอะ ซีกัลส์" ต้องขอบคุณ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือชาวอิตาเลียน ที่เข้ามารับงานต่อจาก แกรม พ็อตเตอร์ 

สำหรับ แอสตัน วิลล่า ต้องบอกเลยว่ากลับชาติมาเกิดอีกครั้งนับตั้งแต่ที่ได้ อูไน เอเมรี่ เข้ามากุมบังเหียน โดยเขาสามารถปลุก "สิงห์ผงาด" จากทีมในโซนท้ายตารางในช่วงต้นฤดูกาล ค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนในที่สุดสามารถจบอันดับ 7 คว้าสิทธิ์ไปเล่น ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก 

ตบท้ายด้วย 3 ทีมที่ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่เดอะ แชมเปี้ยนชิพ โดยสโมสรแรกก็คือ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ต้องโบกมือลาพรีเมียร์ลีก เป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2011/2012 หรือเมื่อ 11 ปีที่แล้ว 

ส่วนที่ทำเอาแฟนบอลชาวไทยใจหายก็คงหนีไม่พ้น เลสเตอร์ ซิตี้ ที่พยายามอย่างเต็มที่ในเกมสุดท้าย แต่ไม่เพียงพอเช่นเดียวกับ "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อทั้งสองทีมไม่สามารถรอดพ้นชะตากรรมต้องจับมือกันไปเริ่มต้นใหม่พร้อมกับ "เดอะ เซนต์ส" ในเกมแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้า 

บทสรุปพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2022/2023

แชมป์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

โควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

โควตา ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : ลิเวอร์พูล, ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

โควตา ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก : แอสตัน วิลล่า

ตกชั้น : เลสเตอร์ ซิตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด, เซาธ์แฮมป์ตัน

เลื่อนชั้น : เบิร์นลี่ย์,  เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, ลูตัน ทาวน์ 

ดาวซัลโว : เออร์ลิง ฮาแลนด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 36 ประตู

ผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูมากที่สุด (แอสซิสต์) : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 16 ครั้ง

ถุงมือทองคำ : ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 17 คลีนชีต

นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล : เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 

นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล : เออร์ลิง ฮาลันด์(แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 

นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอลอังกฤษ : เออร์ลิง ฮาลันด์  (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport