ฉลองแชมป์แมนซิตี้ 5 แชมป์ใน 6 ซีซั่น

ฉลองแชมป์แมนซิตี้ 5 แชมป์ใน 6 ซีซั่น
เป๊ปสร้างและเสริมแบรนด์เรือใบยิ่งใหญ่สุดยอด

แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยล่าสุด....ไม่มีความลับอะไรมากมายกับคุณภาพของสถาปนิกเอก ลูกหลาน "เกาดี้" แห่งแคว้นกาตาลุนยา...อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

แชมป์พรีเมียร์ลีกล่าสุดคือการเสริมแบรนด์เรือใบสีฟ้าให้แข็งโป๊กยิ่งๆขึ้น เพราะนี่คือการได้แชมป์สมัยที่ 5ใน 6 ฤดูกาล

ลองนึกภาพดูว่าถ้าซีซั่น 2019-20 ลิเวอร์พูลไม่เบรกความสุดยอดของ "เรือใบสีฟ้า" พวกเขาคงกวาดถ้วยพรีเมียร์ลีก 6 ฤดูกาลติดต่อแน่นอน

2017-18 แมนฯซิตี้

2018-19 แมนฯซิตี้

2019-20 ลิเวอร์พูล

2020-21 แมนฯซิตี้

2021-22 แมนฯซิตี้

2022-23 แมนฯซิตี้ 

ดังนั้น....ความล้มเหลวของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และพลพรรคหงส์แดงที่ลุ้นสี่แชมป์เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ไม่จำเป็นต้องไปขับไล่ เจเค หรือติงว่า "หมดมุก" 

มันคือความยอดเยี่ยมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การทำงานของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นับจากปีแรก 2016 ที่คุมทีมเป็นต้นมา

โดยการคว้าแชมป์ของแมนฯซิตี้ ในเชิงเทคนิคและแทกติกบอลนั้น....ก็ปูทางสร้างทีมมาต่อเนื่องด้วยโค้ชคนเดียว แค่ปรับแต่งแทกติกเพื่อให้หลากหลายในการไล่ขยี้ ทีมคู่แข่ง 19 ทีมเท่านั้นเอง 

มีเวลา...มีแรงสนับสนุน....มีสมองของเป๊ป....ย่อมมีความสำเร็จตามมา 

ที่สำคัญตลอดเส้นทางการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของ เป๊ป นั้นคู่แข่งของเขาแบบหลักๆมี 2 ทีมคือ ลิเวอร์พูลกับอาร์เซนอล ขณะที่ "รองแชมป์" สองครั้งอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค โชเซ มูรินโญ กับ โอเล กุนนาร์ โซลชา นั้นเป็นแค่ "อันดับสอง" ที่ไม่ใช่คู่แข่งลุ้นแชมป์

ด้วยเพราะ "แต้ม" นั้นโดนทิ้งขาดกระจุยกระจายจำนวน 19 และ 12 แต้ม อย่าเรียกว่าลุ้นแชมป์กัน แค่ แมนฯซิตี้ ทำแต้มหล่นไปกี่แต้มและ "แมนฯยูฯ"ทำแต้มมากสุดเท่าไหร่

ส่วนแชมป์ซีซั่นนี้...แฟนบอลบางส่วนอาจบ่นด้วยความเซ็งว่า "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลครองจ่าฝูงถึง 248 วันแต่กลับไม่ได้แชมป์

ด้วยความเคารพแฟนหงส์เอ้ยแฟนบอลบางส่วนเหล่านั้น  การคว้าแชมป์ไม่ได้ขึ้นกับจำนวน "วัน" ที่ครองจ่าฝูง หากแต่มันขึ้นกับว่าเมื่อขึ้น "จ่าฝูง"แล้วคู่แข่งทำแต้มไล่ไม่ทัน หรือครองจ่าฝูงหลังจบนัดที่ 38 นั่นแหละแชมป์

ถ้าถามถึงปัจจัยแห่งแชมป์ ผมมองว่ามี 1 ข้อเท่านั้นเอง ตอบแบบกำปั้นทุบดินได้ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอ ยอดโค้ชอันดับหนึ่งของโลกในเวลานี้ คือผู้รังสรรค์แชมป์แบบ "ไม่เหนื่อยมาก" ในซีซั่นนี้

สถิติแชมป์พรีเมียร์ลีก

เมื่อ 7 เม.ย. พวกเขาตามหลังอาร์เซนอล 8 แต้ม แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด นี่คือซีซั่นที่สี่แล้วที่พวกเขาไล่ตามคู่แข่ง 8+ หลังผ่าน 28 เกม  จากนั้นชนะ 11 นัดรวด จาก 14 เกมหลังสุด แซงอาร์เซนอลเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ในที่สุด 

ตลอดซีซั่นนี้พวกเขามีความยอดเยี่ยมเชิงสถิติหลายเรื่องด้วยกัน

1 เกมรุก....แมนฯซิตี้ ยิง 34 ใน 36 นัด มากกว่าทุกทีม มีสองแมตช์ที่ยิงไม่ได้คือ แพ้ลิเวอร์พูล 0-1 และ แพ้สเปอร์ส 0-1 เท่านั้น

2 เรือใบยิงประตูติดต่อกัน 15 เกมล่าสุดรวม 40 ลูก

3 เอรลิง ฮาลันด์ ยิงกระจาย รวมทุกรายการ 52 ลูก ตามด้วย ฮูเลียน อัลบาเรส แชมป์โลก ที่ลงสนามไม่ต่อเนื่อง ทำได้ 17 ลูก  ล่าสุด อัลบาเรส ยิงลูกที่ 100 ในเอติฮัด( ทุกรายการ) เทียบเท่าสถิติซีซั่น 2018-19   ขณะที่อัลบาเรส มีส่วนในการยิงและแอสซิสต์ ให้ทีมได้ 15 ลูกใน 12 นัดที่เล่นตัวจริง ที่ เอติอัด นี่แหละ

4  เกมรับ...ก็ใช่ย่อย ไม่เสียประตู หรือ คลีน ชีต 13 จาก36 เกม เป็นรอง แมนฯยูไนเต็ด 17 คลีน ชีต และลิเวอร์พูล 14 คลีน ชีต (มาไงเนี่ย555)

สถาปนิกแห่งแชมป์

ในความเป็นชาวบาร์เซโลนาและเชื้อชาติกาตาลุนย่าของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เขาคือคนฟุตบอลที่มีสายเลือดแห่งการสร้างสรรค์ ตามรอยบิดาแห่งสถาปนิกเอกชาวกาาตาลุนย่าอย่าง อันโตนี เกาดี กอร์เนต หรือที่รู้จักกันในวงการว่า "เกาดี"  

นี่คือสถาปนิกยุคใหม่ ตำนานแห่งกาตาลุนย่า....ผู้รับงานสร้าง ซากราดา ฟามิเลีย อันเลื่องชื่อกลางนครบาร์เซโลนา ที่เขาไม่ได้ปิดงานให้มันเสร็จสิ้นจนกระทั่งเสียชีวิต 

Sagrada familia คือสถานที่ๆนักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเช็คอินที่บาร์เซโลนา 

แน่นอน....ฟุตบอลก็คืองานศิลป์ ที่ต้องอาศัย "ความสร้างสรรค์" ด้วยเหมือนกัน

ในเชิงกีฬาลูกหลาน "เกาดี" อย่าง เป๊ป อดีตตำนานกองกลางผู้ยิ่งใหญ่ของบาร์เซโลนา คือผู้สร้างสรรค์เกมแดนกลาง จนมาเป็นโค้ชก็ออกแบบแทกติกที่มันสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน แบบให้โค้ชคนอื่นตามไม่ทัน

ชนะแบบธรรมดาไม่ได้มันต้องมี สไตล์ ในแบบฉบับของ โยฮัน ครัฟฟ์ ปรมาจารย์ของเป๊ป ที่ล่วงลับไปเป็นเทวดาลูกหนังบนฟ้า... 

แม้ครั้งหนึ่ง คาร์โล อันเชลอตติ เคยคุยๆว่า "ฟุตบอลไม่ต้องคิดเยอะ มันคือเกมที่เล่นง่ายๆ"  นั่นคือซีซั่นที่แล้ว หลังจากเรือใบตกรอบเพราะราชัน

ปีนี้ เป๊ป คิดทบต้นทบดอกจากเกมที่ซับซ้อนของเขา และเหนือกว่าแต่แพ้ มาไล่ขยี้จนราชันหมดสภาพกลับมาดริดแบบสู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ยิงแบบไม่ไว้หน้าแชมป์14 สมัย กันเลยทีเดียว

แน่นอนครับ พื้นฐานการเล่นของ เป๊ป คือ "ครอบครองเกม" ด้วยการ  pass, movement,pressing จากนั้นเข้าแดนสามโจมตีอย่างหลากหลาย.... ตามแบบฉบับฟุตบอลทั่วไป ในการเล่นเกมรุกแดนสุดท้าย

จี้..ชิ่ง..วิ่งอ้อมหลัง

ครอสด้านข้าง

เจาะตามช่อง

ยิงนอกเขต

wall pass

through ball

etc.........


สังเกตให้ดีว่า...เมื่อใดก็ตามที่ทีม เป๊ป ยึดพื้นที่รอบกรอบโทษ 18 หลาเอาไว้ได้ จะมีพลพรรคเรือใบโผเข้าเขตโทษมากพอๆกับกองหลัง หรือในหลายจังหวะ มีนักเตะแมนฯซิตี้ ในเขตโทษมากกว่าตัวรับคู่แข่งซะอีก

 5-4, 5-3 ยังมี...แล้วจะเหลืออะไรละนั่น

เท่านั้นไม่พอ บอลสองกระฉอกออกมา มีตัวรอเก็บอีกเพียบ แล้วก็กดดันต่อ

ใครจะไปต้านไหวละแบบนั้น นี่ไม่นับว่าทีมรับคู่แข่งพยายามรักษา  shape การยืนให้แน่นๆแล้วนะ

นอกจากนี้รายละเอียดเรื่องการออกแบบแทกติก งานสร้างสรรค์ของเขา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหลัง 3 บ้าง หลัง 4 บ้าง การใช้ แบ๊กไปเล่นกองกลางอย่าง inverted fullback , ฟอลส์ไนน์ แล้วไม่ใช่ว่าจะเล่นระบบเดิมไปทั้งซีซั่น เจอคู่แข่งแต่ละทีมก็อาจะเล่นแทกติกแตกต่างกันออกไป

เหนือชั้น...ว่ากันแบบนั้นได้เลย 

บางทีก็แพ้ อย่างนัดแชมเปี้ยนส์ ลีกแพ้เชลซี ของ โทมัส ทูเคิล อยู่ๆก็พักงาน โรดริโก ยอดมิดฟิลด์ตัวรับซะงั้น พอแพ้ก็โดนล้อเลียน 

กระนั้น....ผลงานการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 11 ใน14 ซีซั่นจากบาร์ซ่า, บาเยิร์น และแมนฯซิตี้ คงไปล้อเขาไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะเขาประสบความสำเร็จมากกว่า "ล้มเหลว" อยู่แล้ว  

สำหรับแชมป์ลีกสามสมัยล่าสุดนับว่าเป็นครั้งที่สามต่อจาก บาร์ซ่า 2009-11, บาเยิร์น 2014-16 และ แมนฯซิตี้ 2021-23  ถ้าในพรีเมียร์ลีกมีเพียง เซอร์ อเลกส์ เฟอร์กูสัน เท่านั้นที่ทำได้ 3 ปีติดต่อกัน และทำได้ 2 รอบด้วยกัน

ท่านเซอร์ ทำได้ครั้งแรกปี 1998-2001 อีกครั้งปี 2006-2009 

ถึงจุดนี้เหลืออีก 2 แมตช์ ที่เป๊ป จะต่อเติมภาพความยิ่งใหญ่ให้ทั้งตัวของเขาและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนาม "สามแชมป์" หรือ ทริปเปิล แชมเปี้ยนส์ ทีมที่สองต่อจาก แมนฯยูไนเต็ด ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 

ลิเวอร์พูล เคยได้ 3 แชมป์ แต่เป็นถ้วย "มิคกี้ เมาส์" เอ้ย ลีก คัพ ที่เอริก เทน ฮาก ได้ไปนั่นแหละ

ในความสุดยอดของ เป๊ป ที่พาแมนฯซิตี้ ครอบครองอาณาจักรนี้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หากจะให้มันสมบูรณ์แบบก็เหลืออีกสองถ้วยที่ต้องกวาดให้หมด ไม่ใช่แค่คว้า "สามแชมป์" หากแต่การได้เจ้ายุโรปที่รอคอยมานับจากปี 2008 เมื่อครั้งที่ อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป เทก โอเวอร์ กิจการนี้ต่อจาก อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร 

มันคือการประกาศความยิ่งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคียงบ่าเคียงไหล่ 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ ลีกสูงสุด 20 สมัย เจ้ายุโรป 3 สมัย + "สามแชมป์"

ลิเวอร์พูล แชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย เจ้ายุโรป 6 สมัย

2แบรนด์ฟุตบอลที่ครองใจตลาดลูกหนังโลกมานาน

มาถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับการสร้างและเสริม "แบรนด์" เรือใบสีฟ้า

ต้องทำให้ได้

เอาใจช่วยอย่างลับๆ อยู่นะครับ

เผื่อหมดความท้าทายจะได้ย้ายไปที่อื่นบ้าง 

ถ้าหากเขายังคุมทีมเรือใบที่มีศักยภาพการเงิน 

แล้วบวกกับ "มันสมองฟุตบอล" ของเป๊ป 

ใครก็โค่นเขาลงยากครับ

JACKIE


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport