ลิเวอร์พูล ฟอร์มร้อนแรงบุกไปอัด เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 ซาลาห์ จ่ายสามให้ โจนส์ กดเบิ้ล ก่อน เทรนต์ ซัดฟรีคิกสุดงามปิดกล่อง มีเพิ่มเป็น 65 แต้ม ยึดที่ 5 จี้ท็อปโฟร์แต้มเดียว แต่แข่งมากกว่าหนึ่งเกม ส่วน "เดอะ ฟ็อกซ์" จมรองบ๊วยหนีตกชั้นอีกสองเกมที่เหลือ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
เลสเตอร์ ของกุนซือ ดีน สมิธ พาทีมออกไปแพ้ให้กับ ฟูแล่ม มาในเกมล่าสุด 3-5 ทำให้ 3 เกมหลังสุดไม่ชนะใครเลย ทางฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล นำทีมคว้าชัยมา 5 นัดรวด ล่าสุดเปิดบ้านเบียด เบรนท์ฟอร์ด มา 1-0 ในเกมล่าสุด
เปิดฉากครึ่งแรก 5 นาที "สุนัขจิ้งจอก" ทักทายก่อนจากจังหวะฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจมส์ แมดดิสัน หยอดโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาเกือบถึง จอนนี่ อีแวนส์ แรงหลุดออกหลังนิดเดียว
นาทีที่ 13 จากบอลสวนกลับทางฝั่งซ้าย ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ พาบอลหนีขึ้นมาจี้เข้าเขตโทษแทงมาหน้ากรอบ 6 หลาให้ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดกับดักล้ำหน้าสอดมาตวัดยัดมุมแคบติดเซฟ อลิสซง เบ็คเกอร์
30 นาทีผ่าน "หงส์แดง" พยายามเร่งเครื่อง เคอร์ติส โจนส์ พาบอลแหวกเข้าเขตโทษฝั่งขวาดึงแนวรับ เลสเตอร์ ดีดย้อนตั้งให้ ฟาบินโญ่ ขยับหาช่องอัดด้วยขวาเหินข้ามคานออกไปไกล
แต่แล้ว 3 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะประสานงานสุดสวย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลหน้ากรอบ 18 หลาฝั่งขวายกเข้าเขตโทษข้ามมาให้ เคอร์ติส โจนส์ สอดมาซัดหน้ากรอบ 6 หลาตุงตาข่าย ผู้ตัดสิน รอเช็ค วีเออาร์ อยู่นานเนื่องจากจังหวะแรกของ หลุยส์ ดิอาซ ที่มีส่วนร่วมกับประตูเหมือนยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าสุดท้ายไม่มีปัญหายืนยันให้เป็นสกอร์
นาทีที่ 36 ลิเวอร์พูล ขยับหนีเป็น 2-0 อย่างรวดเร็วจากบอลขึ้นเกมทางฝั่งขวา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แปะเร็วถวายพานให้ เคอร์ติส โจนส์ พลิกเข้าเขตโทษซัดผ่าน ดาเนียล ไอเวอร์เซ่น ตุงตาข่าย
จากจังหวะนี้ ผู้ตัดสิน ก็ยังต้องรอเช็ค วีเออาร์ ต้องมาตีเส้นดูเท้าของ เคอร์ติส โจนส์ และย้อนไปดูลูกจ่ายของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สุดท้ายวิ่งมาชี้ให้เป็นประตู
ต่อมานาทีที่ 39 ทีมเยือน ไม่รอช้าเร่งเจาะทางฝั่งขวา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลแหวกเข้าเขตโทษตบเข้าในให้ โคดี้ กัคโป ซัดไปติดเซฟ ดาเนียล ไอเวอร์เซ่น ออกมาขวางได้ทัน
หมดครึ่งเวลาแรก เลสเตอร์ 0 ลิเวอร์พูล 2
ครึ่งหลัง นาทีที่ 50 เลสเตอร์ หวิดงานเข้า ดาเนียล ไอเวอร์เซ่น ออกมาไกลจากประตูกะจังหวะบอลพลาดไปตกใส่หัว โคดี้ กัคโป โชคดีเพื่อนร่วมทีมไม่เหม่อตามมาช่วยหวดทิ้งหวุดหวิด
ต่อมานาทีที่ 52 "สุนัขจิ้งจอก" พลาดโอกาสทองเป็นบอลทำชิ่งสุดสวยทางซ้าย ยูริ ตีเลอมันส์ เชื่อมในเขตโทษแปะเร็วตั้งให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ได้ช่องปั่นด้วยขวาโค้งติดปลายมือ อลิสซง เบ็คเกอร์ นิดเดียว
นาทีที่ 68 "หงส์แดง" หาสกอร์ปิดกล่อง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สอดมาเก็บบอลทางฝั่งขวาจี้เข้าเขตโทษโยกเข้าซ้ายข้างถนัดเสียดายปั่นไม่ดีโค้งไปตรงตัว ดาเนียล ไอเวอร์เซ่น รับเอาไว้ได้
2 นาทีต่อมา ทีมเยือน มาได้ประตูยำเพิ่ม 3-0 จากจังหวะฟรีคิกระยะอันตรายหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดึงกลับหลังเปลี่ยนจุดให้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ปั่นโค้งเสียบเสาไกลงามหยด
10 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล เกือบปิดกล่องอีกเม็ด โคดี้ กัคโป แทงถวายพานให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษไปล่อเป้า ดาเนียล ไอเวอร์เซ่น แต่จังหวะยิงปั่นด้วยซ้ายหลุดเสาแรกเหลือเชื่อ
ท้ายเกม นาทีที่ 87 "สุนัขจิ้งจอก" ทำเต็มที่เพื่อแฟนบอล เจมี่ วาร์ดี้ สอดเข้าเขตโทษฝั่งขวาพยายามตวัดเร็วยัดเสาแรกก็ยังไม่ผ่าน อลิสซง เบ็คเกอร์ ป้องกันเอาไว้ได้หมด
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เลสเตอร์ 0 ลิเวอร์พูล 3
รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม
เลสเตอร์ (4-2-3-1) : ดาเนียล ไอเวอร์เซ่น - ริคาร์โด้ เปเรยร่า (ลุค โทมัส น.61), เวาต์ ฟาส, จอนนี่ อีแวนส์ (แฮร์รี ซูตทาร์ น.89, ทิโมธี กาสตาญ - ยูริ ตีเลอมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ (แพ็ตสัน ดาก้า น.61), บูบาการี่ ซูมาเร่ - เจมส์ แมดดิสัน, เจมี่ วาร์ดี้, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เตเต้ น.61)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เจมส์ มิลเนอร์ น.74), ฟาบินโญ่, เคอร์ติส โจนส์ (ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ น.84) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น.88), โคดี้ กัคโป, หลุยส์ ดิอาซ (ดิโอโก้ โชต้า น.74)
ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน