โชต้า คืนฟอร์มชัด,ซาลาห์ เพิ่มสถิติอีก! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เสียววาบเฉือนชนะ ฟอเรสต์

โชต้า คืนฟอร์มชัด,ซาลาห์ เพิ่มสถิติอีก! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล เสียววาบเฉือนชนะ ฟอเรสต์
เล่นเอาสาวก เดอะ ค็อป หายใจไม่ทั่วท้องเนื่องจากเป็นที่มองกันว่า ฟอเรสต์ จะบุกมาแจกแต้ม และแจกประตูให้กับ ลิเวอร์พูล แต่เอาเข้าจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย

ไม่ว่าจะเป็นครึ่งแรกที่สกอร์จบลงแบบไข่ไม่แตกด้วยกันทั้งคู่ และครึ่งหลังซึ่ง เจ้าป่า ไล่ตีเสมอเจ้าบ้านได้ถึงสองครั้งสองครา แต่สุดท้าย เครื่องจักรสีแดง เก็บสามแต้มได้สำเร็จจากชัยชนะ 3-2 ในการฟาดแข้งฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันเสาร์ที่ 22 เม.ย.

1. หงส์ส่งชุดยำใหญ่ยูงทองลุยต่อ


ลิเวอร์พูล ไม่มีการเปลี่ยนโผ 11 คนแรกจากเกมล่าสุดที่พวกเขาบุกไปถล่ม ลีดส์ กระเจิง 6-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

และที่น่าจับตามองคือบทบาทใหม่ของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อารโนลด์ แบ็คขวาซึ่งขยับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์มากขี้นในจังหวะบุกเพื่อหาโอกาสแอสซิสต์

อย่างไรก็ดี เกมนี้เจ้าบ้านจะไม่มี โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ในซุ้มม้านั่งสำรองเนื่องจากหัวหอกแซมบ้ามีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อเล็กน้อยโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ คาดว่าเขาจะร้างสนามไปสามนัด

ต่อการใช้งานทีมชุดเดิมของ เร้ด แมชีน นับเป็นหนที่สามในรอบ 92 นัดของกุนซือด๊อยทช์นับตั้งแต่ออกสตาร์ตซีซั่นก่อน และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2020 ที่ ลิเวอร์พูล ส่งทีมชุดเดิมลงบู๊สามนัดรวดในทุกรายการ

2. เจ้าป่าปรับโผหนึ่งรายจากเกมพ่ายผี

ฟอเรสต์ ขยับเปลี่ยนทีมตัวจริงหนึ่งตำแหน่งจากเกมล่าสุดที่พวกเขาโดน แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาอัดคารัง 2-0 แต่มีเซอร์ไพรส์ไม่น้อย

กล่าวคือตำแหน่งที่ว่าคือการเลือกส่ง โอเรล ม็องกาล่า กองกลางผิวสีออกสตาร์ตก่อนหน้า เบรนแนน จอห์นสัน ดาวยิงตัวกลั่นซึ่ง สตีฟ คูเปอร์ ให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องของฟุตบอลที่ต้องหาวิธีแก้ไขหลังจาก เจ้าป่า มีผลงานที่เลวร้ายอย่างไม่เลิกรา

ขณะเดียวกัน เป็นเกมแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. ที่พวกเขาโดน อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงถล่มเละ 5-0 ด้วยที่ จอห์นสัน มีชื่อนั่งอยู่ข้างสนาม

3. ครึ่งแรกที่ผิดความคาดหมาย


ถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อไม่น้อยที่ ฟอเรสต์ ทีมที่เสี่ยงต่อการตกชั้นแบกรับความกดดันที่ แอนฟิลด์ ได้อย่างยอดเยี่ยมใน 45 นาทีแรกโดยไม่เสียประตูให้กับเจ้าบ้าน

วัดกันที่การครองบอล ทีมเยือนเทียบเจ้าถิ่นไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเนื่องจาก หงส์แดง เหนือกว่าบานตะไทในสัดส่วน 86:14% และได้ยิง 10 ครั้ง แต่เข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่อาคันตุกะได้ส่องครั้งเดียว และเข้ากรอบ

4. โชต้า ติดเครื่องแล้ว


หลังออกสตาร์ตครึ่งหลังได้แค่สองนาที ลิเวอร์พูล ก็ชิงนำจนได้จากลูกเตะมุมที่ ดีโอโก้ โชต้า ได้ขวิดต่อในระยะเผาขนไม่พลาด และเป็นการทำประตูได้อย่างต่อเนื่องหลังสตาร์โปรตุเกสสลัดอาการเท้าบอดสอยตาข่าย ลีดส์ นัดก่อนได้ถึงสองประตู

อย่างไรก็ดี ขยับมาอีกแผล็บเดียวในนาทีที่ 52 จังหวะที่แผงหลัง หงส์แดง ออกอาการหละหลวม ทีมเยือนก็ได้โต้กลับ และเป็น เนโก้ วิลเลี่ยมส์ เด็กเก่าของ ลิเวอร์พูล ที่ได้กระทุ้งแฉลบ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ผ่านจังหวะปัดของ อลิสซง ตุงตาข่ายเรียกเสียงเฮจากสาวกทีมเยือนได้

ถึงอย่างนั้น ให้หลังอีกอึดใจเดียว โชต้า ก็ระเบิดฟอร์มยิงให้ ลิเวอร์พูล หนีไปอีกหน รวมสองเกมหลังดาวเตะฝอยทองคลำเป้าไปแล้วสี่เม็ดอันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขากลับมาเป็น โชต้า คนเดิมแล้วหลังเกือกทื่อไปนานนับปี

แม้จากรูปเกม ลิเวอร์พูล จะเหนือกว่าชนิดเทียบกันไม่ได้ แต่ที่ไม่ง่ายเหมือนนัดยำใหญ่ ลีดส์ ก็คือ ฟอเรสต์ สามารถทวงสกอร์คืนได้อีกหนในนาทีที่ 68 จากจังหวะยิงแฉลบอีกตามเคยโดยคราวนี้ มอร์แกน กิ๊บบ์ส ไวท์ ทำให้สาวก เดอะ ค็อป ต้องตะลึงงัน

5. ซาลาห์ เดอะ ฮีโร่


และแล้ว โม ซาลาห์ ยังคงเป็นฮีโร่ตัวจริงของ ลิเวอร์พูล อีกตามเคยเมื่อสบโอกาสซัดประตูสำคัญให้เจ้าบ้านกำชัย 3-2 เก็บสามแต้มได้สำเร็จโดยไม่ต้องขายหน้า พร้อมทั้งล้างตา ฟอเรสต์ ไปในตัวจากเกมแรกที่บุกไปแพ้น้องใหม่อย่างน่าช็อก 1-0 

ขณะเดียวกัน สตาร์ทีมชาติ อียิปต์ กระทุ้งประตูในซีซั่นนี้เพิ่มเป็น 27 เม็ดแล้ว รวมทั้งสิ้นเขาสอยตาข่ายให้ หงส์แดง ได้ 183 ลูกสร้างสถิติได้สำเร็จอีกชิ้นด้วยการขยับขึ้นมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในอันดับหกของถิ่น แอนฟิลด์ เทียบเท่ากับ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

ส่วนสถิติหลังจบ 90 นาที เร้ด แมชีน ครองบอลได้มากกว่า 81:19% และได้ยิงมากกว่า 18: 11 ครั้งโดยเป็นการส่งบอลเข้ากรอบมากกว่าเช่นกัน 6:5 ครั้งซึ่งชี้ให้เห็นว่าทีมเยือนสู้ได้ดีแม้ว่าสุดท้ายพวกเขาจะไม่มีแต้มติดมือกลับบ้าน


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport