ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในวันเสาร์ที่ 22 เมษายนนี้ โดยพวกเขาคาดหวังว่าจะทำผลงานให้ยอดเยี่ยมเหมือนที่ไล่ต้อน "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด 6-1 ในแมตช์ล่าสุดที่สนามเอลแลนด์ โรด พร้อมกับความหวังที่จะรักษาโอกาสที่จะลุ้นติดท็อปโฟร์ให้ได้
"หงส์แดง" เริ่มกลับมาเล่นได้ดุดันมากยิ่งขึ้นตั้งแต่การเสมอแบบไร้สกอร์เกมเยือน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ตามด้วยไล่ตีเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 หลังจากที่ตกเป็นรอง "ไอ้ปืนใหญ่" 0-2 ก่อนจะสร้างผลงานดีมีคุณภาพด้วยการไล่ทุบ ลีดส์ แบบย่อยยับอับปางต่อหน้าแฟนบอล "ยูงทอง"
หนึ่งในเรื่องที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมากในเกมที่เอลแลนด์ โรด ก็คือการที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถูกจับให้มายืนตรงกลางซึ่งจริงๆ แล้วเจ้าตัวแสดงให้เห็นมาแล้วในเกมพบ อาร์เซน่อล แต่สำหรับแมตช์ที่เอาชนะ ลีดส์ นั้น "หนุ่มเทรนต์" ระเบิดศักยภาพในตำแหน่งแบ็กขวากองกลางไฮบริด หรือ "อินเวิร์ส ฟูลแบ็ก"
แน่นอนว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คงจะจับ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เล่นในตำแหน่งนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะดูแล้วว่าจะเวิร์กกับระบบของทีมและนักเตะ ที่สำคัญช่วยให้เกมรับ "หงส์แดง" ทางฝั่งขวาไม่ใช่บ่อน้ำมันอีกต่อไป ในขณะเดียวกันเกมรุกยังคงอันตรายจากการเปิดบอลที่แม่นยำของเจ้าตัวด้วย
สำหรับในเกมกับ ฟอเรสต์ แน่นอนว่าเหล่าขุนพล "หงส์แดง" ต้องการจะแก้เผ็ดทีมเยือน หลังเคยสร้างความเจ็บช้ำระกำอุราให้กับพวกเขาเมื่อโดนทีเด็ด "เจ้าป่า" เฉือนชนะมาแล้วเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้ต้องบอกว่าเจ้าบ้านมีขุนกำลังที่แทบจะเต็มสูบ
ผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์
นายด่านชาวบราซิเลียน ยังคงเป็นมือ 1 ของทีมเหมือนเดิม โดยผลงานในช่วงที่ผ่านมาเจ้าตัวยังรักษามาตรฐานชั้นยอดได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามเกมลีกหลังสุดเสียไปแค่ประตูเดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ อลีสซง ยังคงเป็นไว้วางใจของ คล็อปป์ ในการเฝ้าเสาต่อไป ที่สำคัญจุดเด่นของเขาไม่ใช่แค่เรื่องความเหนียวหนึบเท่านั้น แต่ยังมีจังหวะในการเล่นสวนกลับ และการเตะบอลที่แม่นยำ ซึ่งถือว่าเป็นไม้เด็ดที่ช่วยทำให้ทัพ "หงส์แดง" ได้ประตูมาแล้วหลายครั้งหลายหน
แบ็กโฟร์ : เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
แม้ว่าในเกมล่าสุด "อิบู" จะทำพลาดส่งผลให้ทีมโดน ลีดส์ ยิงประตูตีไข่แตกได้ก็ตาม แต่โดยรวมแล้วผลงานของเขายังถือว่ายอดเยี่ยม ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ คล็อปป์ ยังคงให้เขาทำหน้าที่เป็นเซนเตอร์แบ็กคู่กับ ฟาน ไดค์ หากพูดแบบไม่อวยปัจจุบันฟอร์มของ โกนาเต้ แทบจะแบก แนวรับชาวดัตช์ อยู่แล้ว ขณะที่ทางฝั่งซ้าย โรเบิร์ตสัน ตีตราจองเอาไว้แน่นอน เพราะตอนนี้ คอสตาส ซิมิคาส ต้องยอมรับสภาพในการเป็นยางอะไหล่ สำหรับ "หนุ่มเทรนต์" แม้ว่าตามแผนการเล่นเขาจะยืนทางขวา แต่เมื่อถึงเวลาลงสนามเขาจะขยับเข้ามาตรงกลาง และคอยทำหน้าที่เป็นตัวปั้นเกม ซึ่งต้องบอกเลยว่านี่คือทีเด็ดที่อาจจะสร้างความแตกต่างให้กับการเล่นของ "เดอะ เร้ดส์
กองกลาง : ติอาโก้ อัลกันทาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
สภาพร่างกายของ ติอาโก้ กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว และเพิ่งจะได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมพบ อาร์เซน่อล กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และสำหรับเกมพบ ฟอเรสต์ มีความเป็นได้สูงมากๆ ที่ดาวเตะชาวสแปนิช จะได้หวนกลับมาเล่นตัวจริงในเกมลีกนัดแรกนับัตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ฉะนั้น เคอร์ติส โจนส์ ที่ได้ลงตัวจริงแทนและทำผลงานได้ดี จำเป็นต้องหลีกทางให้กับ ติอาโก้ ในการคืนสู่ทัพใหญ่ ส่วนคู่หู ฟาบินโญ่ กับ เฮนเดอร์สัน ยังได้รับความไว้วางใจให้ลงตัวจริง แต่กระนั้น คล็อปป์ อาจจะเพิ่มเติมความดุดัน และความสดใหม่ด้วยการให้โอกาส ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ลงแทน "เฮนโด้" ก็ได้
กองหน้า : ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กัคโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ข่าวร้ายสำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" ก็คือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ มีปัญหาบาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงสนามให้กับทีมในเกมรับมือ "เจ้าป่า" อย่างไรก็ตาม นายใหญ่ชาวเยอรมัน ยังมีตัวเลือกในแนวรุกให้ใช้งานแบบเต็มอัตราศึก ไม่ว่าจะเป็น ดีโอโก้ โชต้า ก็เพิ่งจะจบสถิติยิงไม่ได้ 372 วันในเกมถล่ม ลีดส์ ตามด้วย กัคโป, นูนเญซ และ ซาลาห์ กระนั้นในเกมที่ทีมต้องเจอกับคู่แข่งที่ต้องเน้นการเล่นเกมรับ และหวังสวนกลับ งานนี้ คล็อปป์ ต้องใช้แนวรุกแบบจัดหนักจัดเต็ม และเฉียบคม ด้วยเหตุนี้สามประสานในแมตช์วันเสาร์นี้ สาวก "หงส์แดง" จะได้เห็น นูนเญซ, กัคโป และ "บังโม" ขณะเดียวกัน หัวหอกทีมชาติโปรตุเกส ก็ยังสามารถเป็นตัวเลือกที่พร้อมสอดแทรกได้เช่นกัน ขณะที่ หลุยส์ ดิอาซ แม้ว่าจะกลับมาฟิตแล้ว แต่เชื่อว่า นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช คงไม่รีบร้อนจับลงตัวจริงในท้ายซีซั่นแบบนี้
ทอมเม้ง