เมื่อ อาร์เซน่อล ทวงตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกกลับคืนจาก แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จอย่างรวดเร็ว หลังบุกขย่มสโมสรผึ้งน้อย 3-0 และต่อไปคือสิ่งที่ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอก
1. เท่าที่เห็นมาตลอด ทีมสีหนาทปืนใหญ่จากการทำงานของ มิเกล อาร์เตต้า เล่นฟุตบอลเป็นระบบและมีรูปแบบ แถมมากด้วยทีมเวิร์คนะครับ
พูดง่ายๆ คือรูปแบบการเล่นเป็นรูปเป็นทรงอยู่แล้ว
จุดบกพร่องที่สังเกตเห็นในฤดูกาลที่ผ่านมาคือพวกเขาไม่สามารถรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้
เวลาถูก 'ผีเข้า' ก็จะเอาชนะคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง
แต่บทจะหลุดก็หลุดได้แบบดื้อๆ ชนิดที่ไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น
เกมรุกอยู่ๆ ก็ไร้ประสิทธิภาพขึ้นมาซะอย่างนั้น ขณะที่จุดอ่อนอยู่ตรงเกมรับที่พลาดง่าย เสียประตูแบบไม่น่าเสีย
นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไม อาร์เซน่อล ถึงพลาดท่าทำโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของตัวเองหล่นหายในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วอย่างน่าเสียดาย
2. มาฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล มีความแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จุดหนึ่งเกิดจากการเสริมทัพอย่างยอดเยี่ยมเปรียบเสมือนการเกาถูกที่คัน
วิลเลี่ยม ซาลีบา ถูกดึงกลับมาพร้อมความเจนจัดจนสามารถเป็นตัวหลักในตำแหน่งปราการหลังบนวัยเพียง 21 ขวบเท่านั้น
กาเบรียล เชซุส ถูกกระชากเข้ามา เพื่อแก้ปัญหากองหน้าตัวเป้า แล้วแก้ได้อย่างชะงักนักแล
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ก็ช่วยให้แผงแบ็คโฟร์มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น
ฟาบิโอ วิเอร่า ก็โชว์ฟอร์มได้ไม่เลว
ขณะที่ผู้เล่นพลังหนุ่มที่ฝังหนอกอยู่กับทีมอยู่แล้วอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และบูกาโย่ ซาก้า ก็มีความสุกงอมมากขึ้น
และที่สำคัญ
กุนซือที่เพื่อนสนิทเรียกว่า 'ไอ้อาร์ต' ค้นพบกับทีมที่เหมาะสมและลงตัว ก่อนใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ยกตัวอย่าง 3 ประสานหน่วยล่าสังหารอันประกอบด้วยหน้าเป้าอย่าง กาเบรียล เชซุส ขนาบข้างซ้ายและขวาด้วย กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กับ บูกาโย่ ซาก้า โดยมีผู้เล่นหมายเลข 10 อย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด
แผงหลังและผู้รักษาประตูก็เช่นกันจึงทำให้ไม่พลาดโดนยิงง่ายๆ เหมือนเก่า
3. การศึกครั้งล่าสุดที่บุกไปชำระแค้น เบรนต์ฟอร์ด
พลพรรค 'เดอะ กันเนอร์ส' เล่นกันได้สะเด่ามากนะครับ-ขอบอก
ผู้ชมทางบ้านอย่างผมยลแล้วก็เกิดความน่าประทับใจ
ด้วยการเซ็ตบอลอย่างเป็นระบบตั้งแต่ในแดน พอถึงจังหวะจู่โจมก็จะเร่งสปีดอย่างรวดเร็ว โดยพยายามหาจังหวะจบให้ได้ด้วยการทำประตูเสมอ ไม่เคาะบอลไปเคาะบอลมาให้มากจังหวะอย่างพร่ำเพรื่อ
รูปแบบการเข้าทำเป็นระบบ ไม่ต่อบอลทำชิ่งกันอย่างย้วยยาดพลางสอดประสานกันอย่างเข้าขาและรู้ใจ แถมด้วยลูกพลิกแพลงไปตามสถานการณ์เฉพาะหน้า
เกมรับก็เล่นกันตั้งแต่ในแดนของคู่แข่งด้วยบีบสูงแล้วพุ่งเข้าหาแบบเป็นหมู่คณะสลับกับการดึงจังหวะโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ขนาดนำห่าง 3-0 แล้วยังเอาตีนกดคันเร่งเป็นระยะ
4. ฟอร์มการเล่นโดยรวมตั้งแต่เปิดฤดูกาลจนถึงเกมล่าสุด 7 นัด ถือว่าไฉไลมิใช่น้อย แม้ชัยชนะทั้ง 6 นัดในซีซั่นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเจอคู่แข่งที่ศักดินาต่ำกว่าตัวเอง
อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่พลาดในการตบเด็ก แล้วทำคะแนนกระเด็นหล่นหายเลยสักแต้มเดียว
ผิดกับฤดูกาลที่แล้วถูกเด็กตบเป็นประจำจนทำให้หลุดท็อปโฟร์อย่างน่าเขกกะโหลกตัวเอง
เทียบง่ายๆ กับเกมล่าสุด
ย้อนไปเมื่อซีซั่นที่แล้ว อาร์เซน่อล ถูกทีมน้องใหม่อย่าง
เบรนต์ฟอร์ด ตบหัวทิ่มเลย
ส่วนเกมที่แพ้ทีมในวรรณะเดียวกันอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด
ในมุมมองของเด็กผีอย่างผม ขอเรียนตามตรงว่า 'แพ้จังหวะ'
คือรูปเกมไม่ได้เป็นรองอะไร ครองบอลมากกว่า เล่นดีกว่า มีโอกาสทำประตูมากกว่าด้วยซ้ำ
แต่จังหวะของปีศาจแดงมีความเด็ดขาดกว่า แถม เอริค เทน ฮาก วางแผนการเล่นมาเพื่อจัดการกับทีมปืนโตแบบนี้
5. ผ่านไป 7 นัด ยังคงนำเป็นจ่าฝูงพลางยักคิ้ว
ถามว่าแบบนี้ อาร์เซน่อล จะมีลุ้นแชมป์พลางขับเคี่ยวกับ แมนฯ ซิตี้ ไปจนถึงบั้นปลายได้หรือเปล่า ???
อืมมมมม...นะ
ก่อนอื่นขอเรียนให้ทราบ คือผมมองว่าทีมสีหนาทปืนใหญ่ชุดนี้มีความคล้ายคลึงกับ แมนฯ ซิตี้ นะครับ
บางทีอาจเพราะกุนซือของพวกเขาอย่าง มิเกล อาร์เตต้า เคยเป็น 'มือขวา' ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เรียนรู้งานกันมานานหลายปี แล้วจึงนำเอาปรัชญาลูกหนังของเจ้านายเก่ามาปรับใช้ให้เหมาะสมกับทีมที่ศักยภาพต่ำกว่าอย่าง อาร์เซน่อล
รูปแบบการเล่นคล้ายๆ กันคือเน้นการครองบอล เล่นเป็นระบบแล้วเข้าทำด้วยทีมเวิร์ค
ความแตกต่างคือศักยภาพผู้เล่นของ อาร์เซน่อล ต่ำกว่า แมนฯ ซิตี้
คิดง่ายๆ เรือใบสีฟ้าปล่อย กาเบรียล เชซุส เพราะได้หัวหอกที่มีพลังทำลายล้างรุนแรงกว่าอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์
เช่นเดียวกับขนาดของทีมที่ แมนฯ ซิตี้ มีความใหญ่และยาวมากกว่า
ประหนึ่ง 'เก่งเล็ก' กับ 'เก่งใหญ่' นั่นแหละครับ
ที่สำคัญอีกประการคือเกมที่เจอกับทีมระดับพญายักษ์ด้วยกัน
มักจะเป็น อาร์เซน่อล ที่เพลี้ยงพล้ำเป็นประจำทั้งที่รูปเกมก็มิได้เป็นรอง
"บอ.บู๋"