ผีไร้คมสอยท๊อฟฟี่,ระทึก แรชชี่ เดี้ยงโค้งสุดท้าย!5ประเด็น แมนยู สยบ เอฟเวอร์ตัน

ผีไร้คมสอยท๊อฟฟี่,ระทึก แรชชี่ เดี้ยงโค้งสุดท้าย!5ประเด็น แมนยู สยบ เอฟเวอร์ตัน
แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บสามแต้มได้ตามเป้าในเกมเปิด โรงละครแห่งความฝัน คว่ำ เอฟเวอร์ตัน 2-0 จากการทำศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 8 เม.ย. แต่บอกได้เลยว่าดาวเตะ เร้ด เดวิลส์ สมควรต้องคลำเป้าให้ได้มากกว่านี้เมื่อเทียบกับโอกาสที่มีตลอดทั้งเกม

ขณะเดียวกัน เรื่องที่น่าห่วงก็คือ มาร์คัส  แรชฟอร์ด กองหน้าคนสำคัญมีอาการบาดเจ็บซะแล้ว และต้องรอลุ้นกันว่ามันจะส่งผลร้ายต่อทีมในการทำศึกช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นหรือเปล่า

1. แม็กไกวร์ ตัวจริง, เอริคเซ่น คืนทัพผี

เอริค เทน ฮาก กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด จัดทีมแบบเซอร์ไพรส์เล็กๆด้วยการส่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมลีกนัดแรกนับตั้งแต่พวกเขาบุกไปชนะ ลีดส์ และเป็นเกมที่หกในซีซั่นนี้ที่ปราการหลังทีมชาติ อังกฤษ ได้เดินนำทีมลงสนาม  แต่เป็นไปตามคาดที่ คริสเตียน เอริคเซ่น มีชื่อนั่งอยู่ในซุ้มหลังจากเจ็บข้อเท้าไปตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.

เทียบจากเกมล่าสุดที่เฝ้าบ้านเฉือนชนะ เบรนท์ฟอร์ด 1-0 ผีแดง ปรับโผสามรายโดยมี แม็กไกวร์ , อาร่อน วาน บิสซาก้า และ ไทเรลล์ มาลาเซีย ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกนัดแรกนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. อีกรายรวมแล้วเป็นการเปลี่ยนสามกองหลังแทน ราฟาแอล วาราน , ดีโอโก้ ดาโลต์ และ ลุค ชอว์ ที่บาดเจ็บจากเกมบู๊กับ เดอะ บีส์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ กองหน้าดัตช์ตกเป็นตัวสำรองนัดที่สองติดต่อกัน

สำหรับ กาเซมีโร่ มิดฟิลด์คนสำคัญชดใช้โทษแบนเป็นนัดสุดท้ายจากทั้งหมดสี่นัด และจะคืนสนามในเกมหน้าได้

2. ท๊อฟฟี่ ฟอร์มดีเปลี่ยนหนึ่งตำแหน่ง

ฌอน ไดช์ นายใหญ่ เอฟเวอร์ตัน โรเตชั่นทีมแค่รายเดียวจากเกมเสมอกับ สเปอร์ส อย่างสนุก 1-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นเกมลีกนัดที่สี่ติดต่อกันแล้วที่ทีมตราลูกอมไม่แพ้ใคร

แม้ อับดูลาย ดูกูเร่ มิดฟิลด์ผิวสีจะติดโทษแบนเป็นนัดแรกจากสามนัดหลังโดนไล่ออกนัดฟัดกับ ไก่เดือยทอง  แต่ทีมเยือนเลือกส่ง เอลลิส ซิมม์ส กองหน้าซึ่งเคยมาทดสอบฝีเท้ากับ ผีแดง เมื่อปี 2017 หลังถูก แมนฯ ซิตี้ ปล่อยตัว แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน นอกนั้นอีกสิบรายได้ลงบู๊ต่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

อย่างไรก็ดี ในรายของ โดมินิค คัลเวิร์ต ลูวิน กองหน้ายังไม่อาจเรียกความฟิตเดินทางมารับใช้ทีมได้

3. ปีศาจร้ายต้องการกองหน้าคนใหม่

จากสกอร์ใน 45 นาทีแรกที่นำทีมเยือนแค่ 1-0 สะท้อนให้เห็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องเซ็นสัญญากับหัวหอกคนใหม่ซึ่งไม่สมควรเป็น เว็กฮอร์สต์ เนื่องจากพวกเขามีโอกาสยิงประตูนับครั้งไม่ถ้วน แต่สอยตาข่ายทีมลูกอมได้แค่เม็ดเดียวเท่านั้น

แม้ เอฟเวอร์ตัน จะช่วยกันเล่นได้อย่างขยันขันแข็ง แต่พวกเขาไม่อาจหยุดเกมรุกที่ต่อเนื่องของ ผีแดง ได้ และป็นเกมที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด โชว์ฟอร์มได้อย่างเหนียวหนึบช่วยเซฟลูกอันตรายให้กับทีมของตัวเองได้หลายครั้ง

จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่าในสัดส่วน 60:40% และได้ยิงมากถึง 21 ครั้ง พร้อมทั้งเข้ากรอบ 6 ครั้ง แต่ได้แค่ประตูเดียวตอบแทน ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ได้ง้าง 5 ครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบเลย

จากโอกาสยิง 22 หนของ เร้ด เดวิลส์ ในครึ่งแรกของเกม พรีเมียร์ลีก ถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดของพวกเขาในรายการนี้นับตั้งแต่มีการจดบันทึกสถิติกันมานับตั้งแต่ซีซั่น 2008/09 โดยก่อนหน้านี้ ตัวเลขในข่ายนี้ที่ดีที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเกมบู๊กับ สเปอร์ส วันที่ 19 ต.ค.2022 ซึ่งพวกเขามีจังหวะเช็กบิลในครึ่งแรก 19 ครั้ง ก่อนเฝ้าบ้านกำชัยได้ 2-0 เช่นกัน 

ด้าน สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ซึ่งกระทุ้งให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำในครึ่งแรกสอบตาข่ายได้ในเกมลีกนัดเหย้าเกมแรกของเขากับ ผีแดง นับตั้งแต่เขากดลูกเบิกร่องได้ในเกมขยี้ เบิร์นลีย์ ของ ฌอน ไดช์ เช่นกัน 3-1 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2021 หรือ 464 วันที่แล้ว

4. มาร์กซิยาล รักท๊อฟฟี่มาก

บอกได้เลยว่า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โปรดปรานการอมท๊อฟฟี่เม็ดนี้เป็นชีวิตจิตใจหลังลงเล่นเป็นตัวสำรอง และสามารถซัดลูกตอกฝาโลงได้สำเร็จ

รวมจนถึงเกมนี้ ดาวยิงเลือดน้ำหอมพังประตู เอฟเวอร์ตัน ได้เป็นลูกที่ 8 แล้ว และมันเป็นประตูแรกในลีกที่เขาทำได้นับตั้งแต่เดือนธ.ค.

ขณะเดียวกัน มาร์กซิยาล มีส่วนร่วมกับประตูในเกมบู๊กับทีมลูกอมรวมทั้งสิ้น 12 ลูกแล้วในทุกรายการจากการต่อกรกับทีมคู่แข่งรายนี้รวม 16 นัด (ยิง 8 แอสซิสต์ 4) ซึ่งทำให้ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์เป็นเหยื่อที่โอชะที่สุดของเขานับตั้งแต่ย้ายมาจาก โมนาโก

หลังจบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลเหนือกว่า 64:36% และได้กระทุ้งทั้งหมด 29 ครั้ง เข้ากรอบ 11 ครั้ง ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ได้ส่อง 15 ครั้ง และเข้ากรอบหนเดียว

5. ลุ้น แรชฟอร์ด เดี้ยงหนักหรือเบา

เป็นปัญหาที่น่าสนใจสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นมาซะแล้วเมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด มีอาการบาดเจ็บจากเกมชนะ เอฟเวอร์ตัน และเดินเขยกเข้าอุโมงค์ทันทีหลังถูกเปลี่ยนออกในช่วงสิบนาทีสุดท้าย

แน่นอนว่าการเดินเข้าห้องพยาบาลของนักเตะหลังบาดเจ็บโดยไม่ได้นั่งอยู่ข้างสนามไม่ใช่สัญญาณที่ดี แต่ในเบื้องต้นเรายังไม่สามารถบอกอะไรได้จนกว่าจะมีการสแกนให้เป็นที่แน่ชัดในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า

อย่างไรก็ดี หาก แมนฯ ยูไนเต็ด มีอันต้องขาด แรชฟอร์ด ไปในช่วงนี้ เทน ฮาก ก็จะต้องปวดกระโหลกอย่างแน่นอนเนื่องจากซีซั่นนี้เขาเล่นได้ดีที่สุดในอาชีพนักเตะ(28 ประตู 10 แอสซิสต์)  และยิงประตูให้ทีมได้อย่างต่อเนื่องโดยจะเห็นว่า ผีแดง เป็นทีมที่ใช้โอกาสเปลือง และหาคนที่มีความเด็ดขาดในการคลำเป้าได้ลำบาก

อีกทั้งอย่าลืมว่า ผีแดง ยังต้องลุ้นคว้าอันดับท็อปโฟร์ รวมถึงการลงเล่นฟุตบอลถ้วยในอีกสองรายการทั้ง เอฟเอคัพ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยูโรปาลีก กลางสัปดาห์นี้กับ เซบีย่า ซึ่งดูท่าว่าสตาร์วัย 25 ปีไม่น่าจะลงเล่นได้ และทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ มาร์กซิยาล แทน แต่ก็ไม่รู้ว่าพ่อค้าแข้งเฟรนช์แมนจะสร้างผลงานได้อย่างคงเส้นคงวาหรือเปล่า และจะกลับไปล้มเจ็บแบบออดๆแอดๆอีกหนหรือไม่


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport