แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราว เชลซี โดยมีสัญญาจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ แน่นนอนว่าการกลับมาของ "แลมพ์ส" ย่อมเป็นข่าวดีของนักเตะบางคน ขณะเดียวกันก็เป็นข่าวร้ายของแข้งหลายคนด้วย
แน่นอนว่าการดึง แลมพาร์ค เข้ามานั่งเก้าอี้ร้อนด้วยสัญญาระยะสั้นทำให้บอร์ดบริหาร "สิงโตน้ำเงินคราม" มีเวลาที่จะควานหาเทรนเนอร์คนใหม่ และวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อที่จะได้แต่งตั้งกุนซือคนนั้นเป็นนายใหญ่ถาวรในช่วงซัมเมอร์นี้
แต่สำหรับตอนนี้ แลมพาร์ด กลับมาทำหน้าที่คุมทัพเชลซีแล้ว ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือเขาจำเป็นต้องดึงศักยภาพของสโมสรออกมาให้เต็มที่ และการที่จะทำแบบนั้นได้ก็ต้องมีนักเตะที่เหมาะกับแนวทางการสร้างทีมของเจ้าตัว
นั่นหมายความว่าขุมกำลังของ "สิงห์บลูส์" หลายคนอาจจะยิ้มเพราะเคยร่วมงานกับ "แลมพ์ส" มาแล้ว และน่าจะมีโอกาสได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง เมื่อพวกเขาเหล่านั้นหวนกลับมาทำงานร่วมกับเจ้านายเก่าอีกครั้ง
เพื่อเป็นการต้อนรับ ตำนานสโมสรเชลซี กลับคืนถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ งานนี้ก็เลยมีการวิเคราะห์กันว่านักเตะคนไหนจะได้ดิบได้ดี และคนไหนจะล่องจุ๊น ภายใต้การกุมบังเหียนคำรบสองของ แลมพาร์ด
เมสัน เมาท์ - ผู้ชนะ
เมาท์ เคยมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับ แลมพาร์ด มาแล้วตั้งแต่ที่พวกเขาอยู่กับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ และ เชลซี แน่นอนว่านี่คือหนึ่งในนักเตะที่เล่นได้เข้าระบบตามที่ อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษต้องการ
โดยรวมแล้วเขามีโอกาสได้ลงสนามมากกว่านักเตะคนอื่นๆ ที่เคยทำงานร่วมกับ "แลมพ์ส" กระนั้นในปีนี้ แนวรุกวัย 24 ปี ต้องเจอกับวิบากกรม เพราะผลงานของเขาไม่ค่อยดีนักยิงไปแล้ว 3 ประตูจาก 32 เกมที่ลงสนาม
แม้ว่าฟอร์มจะไม่ได้สวยหรูเหมือนกับหลายๆ ซีซั่นก่อนหน้านี้ แต่ เมาท์ คงจะได้รับความไว้วางใจจาก แลมพาร์ด ในการลงสนามตัวจริงของทีม เพราะกุนซือเลือดผู้ดี เคยออกปากชมว่าเขาเป็นนักเตะที่เก่งจริงๆ
เกปา อาร์ริซาบาลาก้า - ผู้แพ้
นี่คือหนึ่งในนักเตะที่มีแววจะหมดอนาคตกับสโมสร เนื่องจาก เกปา เคยสร้างความผิดหวังให้กับ แลมพาร์ด มาแล้ว จากการทำผิดพลาดบ่อยครั้งสมัยที่อยู่ร่วมงานกันเมื่อฤดูกาล 2019/2020
นายทวารชาวสแปนิช โดนดร็อปไปนั่งตบยุงในซุ้มม้านั่งสำรองแทบจะถาวรตอนที่สโมสรเซ็นสัญญากับ เอดูอาร์ เมนดี้ และดูเหมือนว่า เกปา ยอมยกธงขาวเตรีรยมที่จะย้ายไปหาโอกาสใหม่กับทีมื่น
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวกลับมาฟื้นคืนชีพในยุคของแกรม พ็อตเตอร์ เพราะเขากลายเป็นตัวเลือกเบอร์ 1 กระนั้นตอนนี้ แลมพาร์ด กลับมาคุมทีมรักอีกครั้ง และคงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจะเห็น โกลทีมชาติเซเนกัล หวนกลับมายืนเฝ้าเสาตัวจริงในช่วงที่เหลืออยู่ของซีซั่นนี้
คอเนอร์ กัลลาเกอร์ - ผู้ชนะ
ในช่วงแรกที่ แลมพาร์ค กุมบังเหียนเชลซี นักเตะโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก, สวอนซี และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แน่นอนว่าการไปเล่นให้กับหลายสโมสรทำให้เจ้าตัวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้เพียบ
ปัจจุบัน กัลลาเกอร์ เป็นส่วนหนึ่งในทีมชุดใหญ่ "สิงห์บลูส์" โดยเขาเป็นนักเตะประเภทขยันเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการเล่น และแน่นอนว่าสไตล์การเล่นแบบนี้เหมาะกับแท็คติกของ แลมพาร์ด แน่นอน
ไอดอลของกัลลาเกอร์สมัยเป็นเด็กๆ ก็คือ "แลมพ์ส" และเขาก็พร้อมที่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ศักยภาพของตัวเองว่าคู่ควรกับการได้เป็น 11 ตัวจริงกับนักเตะในดวงใจของเขา
มาร์ค กูกูเรย่า - ผู้แพ้
ฟูลแบ็กหัวฟู ย้ายจาก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน มาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยสนนราคาถึง 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,520 ล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สมัยที่สโมสรยังอยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ โธมัส ทูเคิ่ล
เมื่อ กุนซือชาวเยอรมัน โดนปลดและ พ็อตเตอร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาคุมทีม กูกูเรย่า สุดแฮปปี้ เพราะเขาจะได้ร่วมงานกับนายใหญ่สมัยที่เล่นกับ ไบรท์ตัน และไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่นักเตะได้ลงตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ
ทั้ง พ็อตเตอร์ และ ทูเคิ่ล นิยมใช้แท็กติกกองหลัง 3 ตัว แต่สำหรับ แลมพาร์ด เขาชื่นชอบแนวทางการใช้แนวรับ 4 ตัวมากกว่า ฉะนั้นนี่น่าจะเป็นข่าวร้ายสำหรับ กูกูเรย่า ขณะที่ เบน ชิลเวลล์ เตรียมได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริง
ฮาคิม ซิเย็ค - ผู้ชนะ
เป็นที่ทราบกันดีว่า ฮาคิม ซิเย็ค คือผู้เล่นคนแรกที่ แลมพาร์ด เซ็นสัญญามาร่วมทีม จาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยราคร 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,260 ล้านบาท) หลังจากที่ เชลซี โดนลงโทษห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตลาดซื้อขายนักเตะ
มีนักเตะหลายคนที่ต้องสู้เพื่อแย่งตำแหน่งปีก เพราะปัจจุบันสโมสรจัดการคคว้าตัว มิไคโล มูดริค กับ โนนี่ มาดูเอเก้ มาเสริมแกร่ง ยิ่งทำให้การแข่งขันเพื่อลงตัวจริงยิ่งเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามดูเหมือน แลมพาร์ด อาจจะเลือกใช้งาน ซิเย็ค ทำหน้าที่ทางกราบขวา กระนั้นสิ่งเดียวที่นายใหญ่เลือดผู้ดีต้องรีบทำก็คือการดึงศักยภาพของนักเตะออกมา เพราะช่วงนี้เขาฟอร์มตกสุดๆ ซัดไปแค่ประตูเดียวจาก 20 เกมในซีซั่นนี้
คาลิดู คูลิบาลี่ - ผู้แพ้
กรณีของ คาลิดู คูลิบาลี ก็ไม่ต่างจาก กูกูเรย่า เพราะนักเตะอาจจะต้องตกเป็นเหยื่อของการปรับเปลี่ยนแท็คติกการเล่น เนื่องจาก แลมพาร์ด มีตัวเลือกในแนวรับมากมายที่จะสามารถตอบโจทย์ระบบการเล่นของเขาได้
ลองนึกภาพการแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงในเกมรับของ เชลซี ดูซิว่ามันจะเข้มข้นมากแค่ไหน เพราะทีมมีทั้ง คูลิบาลี่, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, เบอร์นัวต์ บาเดียชิล และเทรวอห์ ชาโลบาห์
เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า และ ติอาโก้ ซิลวา คือสองแนวรับหลักในยุค แลมพาร์ด ที่คุมทีมสมัยแรก และมีความเป็นไปได้สูงมากๆ ที่ทั้งคู่จะได้เล่นร่วมกันกับนายใหญ่คนใหม่หน้าเก่า เมื่อพวกเขาหายเจ็บกลับมาช่วยทีม
ทอมเม้ง