แมนฯ ยูไนเต็ด กลับออกมาจาก เซนต์ เจมส์ พาร์ค แบบหมดสภาพเลยนะครับ แถมยิงไม่ได้สักประตูจาก 3 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีก โดยเก็บได้แค่แต้มเดียวเท่านั้น
และนี่คืสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอก
1. ก่อนอื่นอยากให้ดูการจัดตัวผู้เล่นของ เอริค เทน ฮาก เมื่อ กาเซมิโร่ ยังไม่พ้นโทษแบน คริสเตียน เอริคเซ่น ก็ยังไม่พร้อมลงสนาม
แต่กุนซือปีศาจแดงจัดทีมแบบเดิมๆ ไม่มีพลิกแพลงอะไร คู่แข่งเดาการจัดตัวได้ไม่ยาก
แผงหลังได้ ราฟาแอล วาราน กลับมายืนคู่กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ขณะที่ อารอน วาน-บิสซาก้า ป่วยจนต้องให้ ดิโอโก้ ดาโลต์ เป็นแบ็คขวาแทน
ตรงกลาง สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ฟอร์มร้อนแรงมาจากทีมชาติสก๊อตแลนด์ กับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้ลงสนามก่อน เฟร็ด บวกด้วย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตามสูตร
แดนหน้าก็ยังคงให้ เวาท์ เวกฮอร์สต์ เป็นหัวหอก แม้สถิติการทำลายตาข่ายจะย่ำแย่ขนาดไหนก็ตาม ขนาบข้างด้วย อันโตนี่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด
บนม้านั่งสำรองได้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กลับมาจากอาการบาดเจ็บแล้ว
ไอ้ที่ผมบอกว่าไม่รู้จักพลิกแพลง คือเกมนี้มันเดาได้ไม่ยากว่ากลางจะเป็นรอง ด้วย นิวคาสเซิ่ล กำลังบ้าคลั่ง พวกเขาจะใส่ "แพสชั่น" แบบ "เอาตาย" แน่ๆ เพราะต้องการชำระแค้นปีศาจแดงจากนัดชิงฯ คาราบาว คัพ แถมชัยชนะจะช่วยให้ทีมสาลิกาดงแซงขึ้นไปอยู่บนอันดับ 3 ของตาราง
ดังฉะนั้น กองหน้าที่ยึดถือเสาไฟฟ้าเป็นแม่แบบจะไม่มีประโยชน์อะไรในเกมที่ต้องตั้งรับ ว่าแล้วอยากให้ขยับเอา มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปเล่นเป็นหน้าเป้ามากกว่า แล้วใส่ เจดอน ซานโช่ ลงมาทางซ้าย
หรือไม่ก็ถอยกองหน้าตัวรับที่ ลิโอเนล เมสซี่ ตั้งชื่อใหม่ให้ว่า 'โบโบ้' ลงมาเป็นหน้าต่ำ ช่วยไล่บอลไปเลย แล้วขยับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ออกไปทางด้านข้าง
แต่บ่นเรื่องการจัดตัวไปก็เท่านั้นแหละ
2.นิวคาสเซิ่ล วางแผนมาเล่นแบบ "เอาตาย" จริงๆ พร้อมเสียงเชียร์กระหึ่มของ ทูน อาร์มี่ ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค หวังถอนแค้นจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ให้จงได้ ด้วยการบีบสูงใส่พลางบดบี้เข้าหาบอลเร็วทุกจังหวะ
ผู้เล่นพันธุ์อสูรไม่ชอบคู่แข่งที่เล่นแบบนี้นะครับ เฉพาะอย่างยิ่งยามที่แดนกลางของตัวเองไม่มีนักเตะที่รอบจัดคอยคุมจังหวะพลางขับเคลื่อนเกมไปข้างหน้า
บรูโน่ แฟร์นันด์ส ถูกจับถอยลงมาเล่นต่ำกับ มาร์เซล
ซาบิตเซอร์ แล้วดัน สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ขึ้นไปเล่นสูงซะอย่างนั้น
แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อบอลกันได้ไม่กี่จังหวะก็จะเสียบอลให้คู่แข่งที่แสดงความหื่นกระหายออกมามากกว่า แถมไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับคอยทำลายเกมในแดนกลางของเจ้าบ้านอีกต่างหาก
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นิวคาสเซิ่ล ครองบอลบุกมากกว่า ก่อนจะทะลุมาถึงพื้นที่สุดท้ายได้อย่างรวดเร็วแล้ว...ล่อเป้า
แถวบ้านเรียกเล่นแบบรอโดน
ครึ่งแรก "สาลิกาดง" มีโอกาสทำประตูถึง 11 ครั้ง และสมควรยิงได้อย่างน้อยๆ 1 ประตู เพียงแต่ยังไม่เด็ดขาดสักเท่าไหร่
แมนฯ ยูไนเต็ด เลยรอดตัวไปอย่างหวุดหวิด
3.เกมครึ่งแรกของปีศาจแดงย่ำแย่มากนะครับ เพราะตั้งรับอย่างเดียว โดยแทบไม่มีจังหวะสวนกลับ และหาโอกาสทำประตูได้แค่ 2 ครั้ง แบบไม่ตรงกรอบซะด้วย
ทว่า เอริค เทน ฮาก กลับไม่ยอมแก้ไขอะไรเลย ทั้งที่เห็นอยู่ทนโท่ว่ามีปัญหาตรงจุดไหน นอกจากการถอย "แม็คทอม" ลงต่ำ เพื่อช่วยเกมรับมากขึ้น
เมื่ออาการยังไม่กระเตื้องขึ้น ตัวสำรองอย่าง เจดอน ซานโช่ กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จึงถูกส่งลงมาแทน
อันโตนี่ กับ เวาท์ เวกฮอร์สต์ แต่ยังไม่ทันไร ทำนบของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็แตกจนได้ !!!
4. และเมื่อสถานการณ์บังคับให้ปีศาจแดงต้องเร่งเกมรุกมากขึ้น เพื่อทวงประตูคืน อาการของพวกเขาก็ดีขึ้นมาหน่อย ด้วยครองบอลแล้วหาจังหวะจบได้มากขึ้น
ก่อน เอริค เทน ฮาก จะทำการเปลี่ยนตัวและแก้เกมแบบ...แบบ...แบบ..เอ่อออ...แบบ.อะไรกันครับเนี่ย ???
นั่นคือถอดคู่เซ็นเตอร์แบ็คอย่าง ราฟาแอล วาราน กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ออกจากสนามพลางส่ง วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ลงมาปักหลักเป็นปราการหลังตัวกลาง ขนาบข้างด้วย ดิโอโก้ ดาโลต์ กับ ลุค ชอว์ ในระบบ 3-5-2
ตรงกลางส่ง เฟร็ด ลงมาแทน สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์
วิงแบ็ค 2 ข้างเป็น ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ กับ เจดอน ซานโช่ โดยให้ "แรช" กับ "หมาก" เป็นกองหน้าคู่กัน
ผลคือโดนอีกประตู จบข่าวเลย !!!
คือถ้าจะปรับเป็น "หลังสาม" ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนนักเตะฉายา "เดอะ บุตเชอร์" ออกเลย หรือขยับเขาขึ้นไปเล่นตรงกลางก็ได้ เพราะเป็นคนที่ออกบอลได้แม่นยำ
บางที เอริค เทน ฮาก ก็เป็นผู้จัดการทีมที่เข้าใจยาก ก่อนเกมไม่รู้จักพลิกแพลง แต่มาพลิกแพลงตอนคับขันในรูปแบบที่พิสดารคาดไม่ถึงซะอย่างนั้น
5.สถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด และนาทีนี้ค่อนข้างล่อแหลมแล้วนะครับ
การปราศจาก กาเซมิโร่ ส่งผลกระทบหนักหน่วง เช่นเดียวกับการกรำศึกหนักมากเกินไป ฟอร์มการเล่นหลังจากคว้าแชมป์ถ้วยเล็กๆ จึงตกลงอย่างฮวบฮาบ
หาก สเปอร์ส มีแต้มในเกมเยือน เอฟเวอร์ตัน คืนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะโดนถีบกระเด็นหลุดออกจาก "ท็อปโฟร์" ทันที
มิเท่านั้นเกมตกค้างกับ เบรนต์ฟอร์ด ในคืนวันพุธนี้ก็ถือเป็นงานหนัก และเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะ
ไปๆ มาๆ การติด 1 ใน 4 ชักจะสั่นคลอนซะแล้ว
บอ.บู๋