อเล็กซานเดอร์ อิซัค ซัดจุดโทษจากการชี้ของวีเออาร์ ไม่พลาด ช่วยพา นิวคาสเซิ่ล ตามตีเสมอ บอร์นมัธ หวุดหวิด 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ส่งผลให้ "สาลิกาดง" ไร้ชัยในลีก 6 นัดติด มี 8 แต้ม รั้งอันดับ 10 ของตาราง ขณะที่ "เดอะ เชอร์รี่ส์" อยู่ที่ 12 มี 8 คะแนน
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2565
นิวคาสเซิ่ล 1-1 บอร์นมัธ
สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2022-23 ประจำวันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2565 ที่สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค ระหว่าง "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ทีมอันดับ 11 ของตาราง ที่พึ่งเสมอคริสตัล พาเลซแบบไร้สกอร์ในเกมล่าสุด ทำให้ไม่ชนะในลีกมา 5 เกมติด เปิดรังรับมือ "เดอะ เชอร์รี่ส์" บอร์นมัธ ทีมอันดับ 13 ที่แซงชนะฟอเรสต์ ทีมน้องใหม่ด้วยกันอย่างสุดมันส์ 3-2 ในเกมล่าสุด
เริ่มเกมมาทั้งสองทีมต่างพยายามครองบอลเพื่อหวังหาจังหวะจบสกอร์ แต่ยังไม่มีทีมใดที่มีจังหวะลุ้นทำประตูแบบจะแจ้ง เกมผ่านไปแล้ว 10 นาที ยังไม่มีทีทใดที่สามารถทำประตูออกนำได้
ต่อมาในนาทีที่ 15 โดมินิค โซลันกี้ มีจังหวะครองบอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายออกไปด้านข้างให้ ไรอัน คริสตี้ มีจังหวะเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ แล้วเป็น มาร์คัส เทเวอร์เนียร์ ที่ได้โหม่งโล่งๆ แต่บอลหลุดเสาออกหลังไป
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 17 เจ้าถิ่นได้จังหวะครองบอลเพื่อสร้างโอกาสเกมรุก ก่อนเป็น มิเกล อัลมิรอน ที่ได้ครองบอลหน้ากรอบเขตโทษ แล้วได้ช่องยิงบอลพุ่งตรงกรอบแต่ยังไปตรงตัว นอร์แบร์โต้ มูราร่า "เนโต้" ที่ก้มลงรับบอลเอาไว้ได้
นาทีที่ 27 บรูโน่ กิมาไรช์ มีจังหวะพาบอลขึ้นหน้า ก่อนโดนทำฟาวล์หน้ากรอบเขตโทษ แล้วเป็น คีแรน ทริพเพียร์ ที่รับหน้าที่ยิงฟรีคิก ระยะ 27 หลา บอลโค้งข้ามกำแพง ก่อนไปชนเสาแล้วออกหลังไป
ต่อมาในนาทีที่ 42 เจ้าถิ่นได้จังหวะเตะมุม ก่อนเป็น มิเกล อัลมิรอน เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ กองหลังทีมเยือนสกัดบอลได้ แต่บอลยังไปเข้าทาง โชลินตอน ได้ยิงโล่งๆ แต่บอลพุ่งไปชนคาน ก่อนมาเข้าทางกองหลังบอร์นมัธสกัดบอลมาเข้าทาง โชลินตอน ได้ยิงอีกครั้ง แต่ยังเป็น นอร์แบร์โต้ มูราร่า "เนโต้" ที่ปัดบอลได้ แล้วบอลมาเข้าทาง ไรอัน เฟรเซอร์ ได้โอกาสยิงบอลโค้งจะเข้าเสาสอง แต่ นอร์แบร์โต้ มูราร่า "เนโต้" ยังปัดบอลออกหลังไปได้
ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล เสมอ บอร์นมัธ 0-0
เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 48 โจ วิลล็อค มีจังหวะพาบอลมาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนได้โอกาสจ่ายบอลมาให้ ไรอัน เฟรเซอร์ ได้จังหวะยิงแต่บอลโ๕งหลุดเสาออกหลังไป
ต่อมาในนาทีที่ 62 ทีมเยือนได้จังหวะสวนกลับ ก่อนเป็น จอร์แดน เซมูร่า ที่ได้บอลทางฝั่งซ้าย แล้วเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วเป็น ฟิลิป บิลลิ่ง ที่วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนได้โอกาสยิงส่งบอลผ่านตัว นิค โพ๊พ เข้าประตูไป ช่วยพา บอร์นมัธ บุกนำ นิวคาสเซิ่ล 1-0
หลังจากนั้นในนนาทีที่ 66 คีแรน ทริพเพียร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนพยายามเปิดบอลมาหน้าปากประตูให้เพื่อน แต่บอลโนมือ เจฟเฟร์ซอน เลร์มา ก่อนออกหลังไป ผู้ตัดสินให้เป็นจังหวะเตะมุม ก่อนที่ วีเออาร์จะเช็กจังหวะดังกล่าว แล้วเป็น เคร็ก พอว์สัน วิ่งไปดูจอข้างสนาม ก่อนชี้เป็นจุดโทษ แล้วเป็น อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ช่วยพา นิวคาสเซิ่ล ตามตีเสมอ บอร์นมัธ 1-1
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 78 เจ้าถิ่นได้จังหวะเตะมุมก่อนเป็น คีแรน ทริพเพียร์ เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ กองหลังทีมเยือนโหม่งสกีดไม่ดีบอลเลยมาเข้าทาง จาค็อป เมอร์ฟี่ ได้จังหวะยิงเต็มข้อส่งบอลพุงไปแฉลบบล็อค เจฟเฟร์ซอน เลร์มา ก่อนหลุดออกหลังไป
ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน นิวคาสเซิ่ล เสมอ บอร์นมัธ หวุดหวิด 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ส่งผลให้ "สาลิกาดง" ไร้ชัยในลีก 6 นัดติด มี 8 แต้ม รั้งอันดับ 10 ของตาราง ขณะที่ "เดอะ เชอร์รี่ส์" อยู่ที่ 12 มี 8 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมที่ลงสนาม
นิวคาสเซิ่ล (4-3-3) : นิค โพ๊พ - คีแรน ทริพเพียร์, ฟาเบียน ชาร์, แดน เบิร์น, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ - โจ วิลล็อค,บรูโน่ กิมาไรช์ (ฌอน ลองสตาฟฟ์ น.72), โชลินตอน - มิเกล อัลมิรอน, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, ไรอัน เฟรเซอร์ (จาค็อป เมอร์ฟี่ น.72)
ผู้จัดการทีม : เอ็ดดี้ ฮาว
บอร์นมัธ (4-2-3-1) : นอร์แบร์โต้ มูราร่า "เนโต้" - อดัม สมิธ, คริส เมแฟม, มาร์กอส เซเนซี่, จอร์แดน เซมูร่า - ลูอิส คุ๊ก, เจฟเฟร์ซอน เลร์มา - ไรอัน คริสตี้, ฟิลิป บิลลิ่ง, มาร์คัส เทเวอร์เนียร์ (แจดอน แอนโทนี่ น.80) - โดมินิค โซลันกี้
ผู้จัดการทีม : แกรี่ โอนีล (รักษาการ)
ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน