คริสเตียน สเตลลินี่ ได้รับการแต่งตั้งให้กุมบังเหียน สเปอร์ส เป็นการชั่วคราวไปจนจบซีซั่นแล้วหลังจากลูกพี่คู่บุญร่วมชาติ อันโตนิโอ คอนเต้ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ถึงขณะนี้ ไก่เดือยทอง เหลือการคว้าอันดับท็อปโฟร์ในตาราง พรีเมียร์ลีก เป็นเป้าหมายเดียวของพวกเขาเท่านั้นหลังมีอันต้องกระเด็นตกรอบฟุตบอลถ้วยในทุกรายการ
ต่อความพยายามพาทีมดังแห่งกรุงลอนดอนบรรลุความสำเร็จดังกล่าวให้ได้ นายใหญ่อิตาเลี่ยนวัย 48 ปีจะมี ไรอัน เมสัน สตาฟฟ์โค้ชทำหน้าที่เป็นมือขวา
กระนั้นก็ดี สเตลลินี่ จะปฏิบัติภารกิจสำคัญลุล่วงได้อย่างที่ แดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรตั้งความหวังเอาไว้หรือไม่เป็นเรื่องที่น่าลุ้นไม่น้อยเนื่องจาก ไก่เดือยทอง ซึ่งรั้งอันดับสี่อยู่ในเวลานี้กำลังถูก นิวคาสเซิ่ล , ลิเวอร์พูล และ ไบรท์ตัน จ้องฉุดลงจากอันดับดังกล่าว
เพื่อเป็นการพาทีมตีตั๋วลงเล่นฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้าให้ได้ สเตลลินี่ มีโจทย์ห้าข้อที่เขาจำเป็นต้องจัดการให้ได้ดังนี้
1. โยริส หรือ ฟอร์สเตอร์?
มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่า อูโก้ โยริส นายทวารเฟรนช์แมนจะกลับมาเฝ้าเสาได้เป็นเกมแรกนับตั้งแต่ คอนเต้ โดนปลดแมตช์ที่ ไก่เดือยทอง มีคิวบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน
อดีตมือกาวทีมชาติ ฝรั่งเศส บาดเจ็บไปนานเกือบสองเดือนแล้วนับตั้งแต่มีปัญหาที่เข่าในเกมบู๊กับ แมนฯ ซิตี้
อย่างไรก็ดี เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ผู้รักษาประตูมือสองของ สเปอร์ส ทำหน้าที่แทนได้อย่างน่าพอใจถึงขนาดกลับไปมีชื่อติดทีมชาติ อังกฤษ โผล่าสุดในเกม ยูโร 2024 รอบคัดเลือกด้วยหลังจาก นิค โป๊ป นายด่านตาข่ายทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด บาดเจ็บ และต้องถอนตัวจากการรับใช้ชาติ
กระนั้นก็ดี หาก โยริส เรียกความฟิตได้ทันเวลาก็เป็นที่คาดกันว่า สเตลลินี่ จะใช้งานนายทวารเลือดน้ำหอมแทน ฟอร์สเตอร์ อย่างแน่นอนด้วยหวังว่าประสบการณ์ของเขาจะช่วยทำให้ ไก่เดือยทอง คว้าอันดับท็อปโฟร์ได้
2. รั้งตัว เคน ให้สำเร็จ
ปฏิเสธไม่ได้เด็ดขาดว่า แฮร์รี่ เคน คือขุนพลหมายเลขหนึ่งของถิ่น ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม ซึ่งแม้จะมีอายุ 29 ปีแล้ว แต่เขายังสอยตาข่ายได้อย่างน่าเกรงขามไม่เลิกโดยซีซั่นนี้ เคน กระทุ้งประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 21 เม็ด
เท่านั้นไม่พอ หัวหอก ไก่เดือยทอง สร้างชื่อผงาดเป็นดาวซัลโวสูงสุดคนใหม่ของทีมชาติ อังกฤษ ได้หมาดๆเช่นกันซึ่งส่งผลให้เขาตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด หนักขึ้นไปอีก
อาจเป็นรอง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ในแง่ของจำนวนประตูก็จริง แต่ที่เห็นๆคือ เคน มีส่วนร่วมกับเกมของทีมมากกว่าสตาร์ดังค่าย เรือใบสีฟ้า ซึ่งรอรับลูกจ่ายจากเพื่อนร่วมทีมเพื่อกระหน่ำประตูเป็นสำคัญอันส่งผลให้สไตล์การเล่นของกองหน้าทีม สิงโตคำราม เป็นที่ชื่นชอบของ เอริค เทน ฮาก
ประกอบกับการไม่มีแชมป์ประดับบารมีก็ยิ่งทำให้ยอดดาวซัลโวตกเป็นข่าวหวังย้ายสโมสรในซัมเมอร์นี้เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายในอาชีพนักเตะ
อย่างไรก็ดี หาก สเตลลินี่ พาทีมคว้าตั๋วลงเล่นถ้วยหูใหญ่ในซีซั่นหน้าได้ก็ไม่แน่เหมือนกันว่ามันอาจทำให้ เคน ใจอ่อนยอมรับใช้สโมสรต่อไปตามที่มีสัญญาผูกมัดกันอยู่
3. อย่าเลียนแบบลูกพี่เด็ดขาด
คอนเต้ ตกเก้าอี้ไปแล้วเข้าทำนองปลาหมอตายเพราะปากหลังให้สัมภาษณ์โจมตีนักเตะอย่างรุนแรงในเกมที่ สเปอร์ส ทำเสียสองแต้มบุกไปโดน เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมบ๊วยไล่ตีเสมอ 3-3
แน่นอนเหลือเกินว่าเหตุที่กุนซือสัญชาติมะกะโรนีโดนปลดเป็นเพราะเขาพูดจาไม่ถูกที่ถูกเวลา และนอกจากจวกนักเตะว่าเล่นกันอย่างเห็นแก่ตัวแล้ว คอนเต้ ยังจี้ใจดำผู้บริหารสโมสรด้วยว่าเหตุที่ ไก่เดือยทอง ไม่มีโทรฟี่มานานเกินทนก็เป็นเพราะมีนักเตะที่เล่นกันไม่ได้ภายใต้สถานการณ์ที่กดดัน
ในแง่ของจิตวิทยา การกระทำของ คอนเต้ ถูกชี้ว่าไม่เหมาะสมเนื่องจากกุนซือสมควรเฉ่งนักเตะในห้องแต่งตัวมากกว่า และหวังกันว่า สเตลลินี่ จะไม่ใช้วิธีการนี้เหมือนลูกพี่คนสนิทที่ตบะแตกหลังเข้ารับการผ่าตัดถุงน้ำดี
ดังคำกล่าวที่ว่ามนุษย์ทุกผู้ทุกนามนิยมคำเยินยอมากกว่าคำตำหนิด้วยกันทั้งนั้น และมันสามารถส่งเสริมนักเตะ สเปอร์ส ในแง่ของกำลังใจได้ ต่างไปจากการถูกโขกสับผ่านสื่อซึ่งนอกจากนักเตะจะไม่คิดสบตากับเจ้านายแล้ว มันอาจเป็นผลร้ายต่อผลงานในสนามของทีมตามไปด้วย
กระนั้นก็ดี เชื่อว่า สเตลลินี่ จะได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากนักเตะเนื่องจากเขาเคยคุมทีมมาก่อนแล้วช่วงที่ คอนเต้ ป่วย และสามารถพาทีมกำชัยได้สามจากสี่นัด
4. ให้ความเชื่อมั่นในตัว ปอร์โร่
จากสถานการณ์ล่าสุด สเปอร์ส ต้องเสียนักเตะเพิ่มไปอีกรายเนื่องจาก เอเมอร์สัน รอยัล บาดเจ็บจากการลงเล่นให้ บราซิล และต้องร้างสนามไปราวหกสัปดาห์เนื่องจากต้องผ่าตัดหัวเข่า
ยิ่งไปกว่านั้น หากอดีตแบ็คขวาทีม บาร์เซโลน่า ฟื้นตัวได้อย่างล่าช้าก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ที่เขาจะปิดเทอมซีซั่นนี้
ฉะนั้นแล้ว สเตลลินี่ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องส่ง เปโดร ปอร์โร่ กองหลังสแปนิชที่ยืมมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในเดือนม.ค.ลงสนามแม้ในช่วงแรกกับ ไก่เดือยทอง เขาจะเล่นได้ไม่น่าประทับใจเอาซะเลย
อย่างไรก็ดี ปอร์โร่ โชว์ฟอร์มได้ไม่เลวในเกมเสมอกับ นักบุญ 3-3 เนื่องจากเขาซัดประตูพาทีมออกนำในท้ายครึ่งแรกก่อนโดนเปลี่ยนออกช่วงสี่นาทีสุดท้ายให้ เอเมอร์สัน รอยัล ลงเล่นแทนโดยในระหว่างนั้น ทีมจากลอนดอนยังนำหน้าเจ้าบ้าน 3-2
ถึงตอนนี้ ปอร์โร่ จ่อได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในช่วงที่เหลือของซีซั่น จึงถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ สเตลลินี่ จะต้องแสดงให้นักเตะเห็นว่าได้รับความเชื่อใจจากเขาซึ่งน่าจะส่งเสริมให้ฟูลแบ็ควัย 23 ปีงัดฟอร์มสุดยอดของตัวเองออกมาช่วยทีมได้
5. เอาไงดีกับ ริชาร์ลิซอน?
ถ้าจะให้ว่ากันตรงๆ ริชาร์ลิซอน ไม่อาจตอบแทน สเปอร์ส ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็นเลยนับตั้งแต่เขาย้ายมาจาก เอฟเวอร์ตัน ในช่วงซัมเมอร์
เจ้าของค่าตัว 50 ล้านปอนด์ซึ่งสามารถเพิ่มขึ้นได้เป็น 60 ล้านปอนด์ถูกมองว่าเป็นการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมของ ไก่เดือยทอง ซึ่งน่าจะทำให้ทีมเมืองกรุงประสบความสำเร็จในซีซั่นนี้ได้ไกลกว่าการคว้าอันดับสี่เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
แต่แล้วสิ่งต่างๆก็ไม่เป็นไปอย่างที่ สเปอร์ส วาดหวัง แถมหลังถูกจับนั่งเป็นตัวสำรองบ่อยครั้งเนื่องจากสร้างประโยชน์ และยิงประตูให้ทีมได้ไม่มากพอ ริชาร์ลิซอน ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ คอนเต้ ผ่านสื่อหลังเกม แชมเปี้ยนส์ลีก นัดแพ้ เอซี มิลาน
"มีหลายเรื่องที่ผมไม่เข้าใจ ผมเล่นได้ดีในเกมกับ เชลซี และ เวสต์แฮม แต่แล้วผมต้องนั่งข้างสนาม ผมได้เล่นแค่ห้านาทีกับ วูล์ฟส์ ผมถามถึงเหตุผล แต่ไม่มีใครบอกผมว่าทำไม" กองหน้าเลือดกาแฟเอ่ยกับสื่อในบ้านเกิด
"ไม่มีคำอธิบายเหมือนเดิม ต้องรอดูว่าเขา (คอนเต้) จะบอกอะไรกับเราในวันพฤหัสบดี แต่ผมไม่โง่ ผมเป็นมืออาชีพที่ทำงานหนักทุกวัน และผมอยากเล่น"
ถึงกระนั้น ริชาร์ลิซอน ยอมรับเช่นกันว่าเขามีซีซั่นที่เลวร้ายเมื่อเทียบกับมาตรฐานของตัวเองสอดคล้องกับที่ คอนเต้ มอง แต่ในเมื่อซีซั่นนี้ ซน ฮึง มิน ผลิตสกอร์ไม่ได้เหมือนก่อน สเปอร์ส ก็น่าจะลองเสี่ยงกับสตาร์เซเลเซาดูสักตั้งในช่วงที่เหลือของซีซั่น
แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใด สเตลลินี่ ต้องพยายามบริหารทีมให้นักเตะมีความสุขที่สุดเนื่องจาก ซน เป็นตัวเลือกทางซ้าย ขณะที่ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ถนัดสวมบทปีกขวา จึงเป็นงานยากไม่น้อยที่กุนซือขัดตาทัพจะหาที่ให้อดีตหัวหอก ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ได้ลงเล่นเป็น 11 คนแรก