ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ! อาชีพนักฟุตบอลก็เช่นกันเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ หรือสภาพร่างกายพวกเขาก็ต้องยอมรับความจริงว่าต้องถึงเวลา "แขวนสตั๊ด" เช่นเดียวกับ เมซุต โอซิล อดีตเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมัน ที่ยอมจำนนต่อกาลเวลาและตัดสินใจโบกมือลาสังเวียนหญ้า 100 หลาช่วงสัปดาห์นี้
โอซิล ในวัย 34 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และเคยล้มเหลวจนแทบต่ำเตี้ยเรียดดิน โดยอาชีพของเขาเคยขึ้นถึงจุดสูงสุดตอนที่ได้เป็นตัวแทนของทัพ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด พร้อมทั้งคว้าแชมป์ที่นักฟุตบอลปรารถนาที่สุดนั่นก็คือโทรฟี่เวิลด์ คัพ
ชีวิตของ ดาวเตะชาวเยอรมันเชื้อสายเตอร์กิช ผกผัน เมื่อต้องย้ายไปเล่นให้กับ อาร์เซน่อล โดยเขาถึงขนาดเป็นขวัญใจสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" และก็กลายเป็นนักเตะที่ไม่มีใครสนใจ จนต้องถูกเฉดหัวไปเล่นให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ และ อิสตันบูล บาซาคเซฮีร์ ก่อนจะยุติวงจรพ่อค้าแข้งอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
ย้อนไปในช่วงที่ โอซิล โด่งดังสุดขีดคงหนีไม่พ้นตอนที่เขาย้ายจาก แวร์เดอร์ เบรเมน ไปอยู่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ซึ่งเขาผงาดคว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน 1 สมัย อย่างไรก็ตามชีวิตของเขาในสเปนมันสั้นมาก แค่ 3 ปีเท่านั้น และแน่นอนว่าเมื่อถามเกี่ยวกับการต้องโบกมือลา "โลส บลังโกส" เจ้าตัวยังคงรู้สึกเสียใจจนทุกวันนี้
"ผมเสียใจมากๆ ตอนที่ผมต้องย้ายออกจาก มาดริด ผมยังจำได้ตอนที่อยู่ที่สนามบิน พอเครื่องบินเทคออฟออกจาก มาดริด ผมเริ่มร้องไห้ทันที" อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี ระบุ
จริงๆ แล้วเส้นทางในดินแดนกระทิงดุของเขาเกือบไม่ได้มาอยู่ในเมืองหลวง ประเทศสเปน เพราะก่อนหน้านั้น โอซิล มีโอกาสที่จะได้ย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ของ บาร์เซโลน่า หลังจากที่เขาได้มาเยือนสนามซ้อมของทัพ "เจ้าบุญทุ่ม"
โอซิล เผยว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งทำหน้าที่กุมบังเหียนบาร์ซ่า ในเวลานั้น ไม่ได้พบตนในช่วงระหว่างที่ตนเยี่ยมชมสโมสร ขณะที่ เรอัล มาดริด และ โชเซ่ มูรินโญ่ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการตัวไปร่วมทัพ "โลส บลังโกส"
"การไปเยี่ยมชม บาร์เซโลน่า บอกเลยว่าพวกเขาไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นมากนัก และสิ่งที่น่าผิดหวังมากๆ ก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่สนใจที่อยากจะพบกับผม" โอซิล กล่าว " ก่อนการเดินทางนั้น ผมชื่นชอบ สไตล์การเล่นฟุตบอลของบาร์เซโลน่า มากๆ และผมเคยนึกภาพได้เล่นกับพวกเขา แต่ มาดริด แสดงความมุ่งมั่นอยากได้ตัวผมมากกว่า"
"ดังนั้นไม่มีอะไรต้องสงสัยเลยว่า โชเซ่ มูรินโญ่ (กุนซือเรอัล มาดริด ในเวลานั้น) เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจของผม หลังจากที่ผมได้แวะไปเยือนที่นั่น ผมตัดสินใจอย่างชัดเจนร้อยเปอร์เซนต์ว่า ผมอยากเป็นสาวกมาดริดิสต้า"
นอกจากนี้ โอซิล ให้เหตุผลเกี่ยวกับการต้องย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ไปเล่นให้ อาร์เซน่อล และยอมรับว่าถ้าหากเปลี่ยนแปลงได้ตนจะรับมือกับสถานการณ์ในเวลานั้นแตกต่างออกไป "ผมมีความสุขมากๆ ที่มาดริด แต่มีหลายอย่างเกิดขึ้น ทันทีที่เริ่มต้นฤดูกาลนั้น ผมไม่ได้เล่นเลย และเกิดความขัดแย้งระหว่าง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ (ประธานสโมสร) กับพ่อของผมและเอเจ้นต์ส่วนตัว"
"เราจำเป็นต้องมองหาสโมสรใหม่ มันเป็นเรื่องทำใจยากสำหรับผม ช่วงเวลาที่เครื่องบินเทคออฟ น้ำใสๆ ก็ไหลออกจากตา นั่นเป็นช่วงเวลาที่ผมยอมรับความจริงว่ามันจบแล้ว ตอนนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องดีสำหรับผม เพราะหลังจากความขัดแย้งระหว่างพ่อของผมกับเปเรซ ผมเริ่มกังวลว่าผมคงไม่ได้เล่นอีกแล้ว ถ้าผมไม่ย้ายทีม ดังนั้นมันยากจะพูด แต่แน่นอนผมอยากรับมือในสถานการณ์ตอนนั้นแตกต่างออกไป"
ช่วงเวลาที่ โอซิล อยู่กับ อาร์เซน่อล ต้องบอกว่าชีวิตของเขาไปได้สวยเมื่อได้ทำงานร่วมกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ก่อนที่หลายๆ อย่างจะเปลี่ยนแปลงเมื่อ นายใหญ่ชาวฝรั่งเศส อำลาถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม "ช่วงปีแรกมันยอดเยี่ยมมากๆ เราได้เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก เราเป็นทีมที่สุดยอดพร้อมกับมีนักเตะชั้นดีมากมาย และมีโค้ชที่เก่งสุดอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์"
"เขาเป็นสุภาพบุรุษตัวจริง เขาเป็นคนน่านับถือมากๆ ตอนที่เขาอำลาสโมสร มันเป็นสิ่งที่ผิดพลาด เรามีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม และผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เขาเป็นผู้จัดการทีมของผมที่ อาร์เซน่อล หลังจากที่เขาออกไป มีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงสำหรับผม แต่ผมไม่สนใจที่จะโยนเชื้อเพลิงเข้ากองไฟอีกครั้ง"
แม้ช่วงท้ายอาชีพกับ อาร์เซน่อล จะไม่ค่อยสวยหรูนัก แต่เขายืนยันว่ายังคงเตรียมเชียร์และให้กำลังใจ "ปืนใหญ่" เสมอ รวมทั้งอยากเห็นพวกเขาผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ "ตอนนี้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และผมขออวยพรให้แฟนบอลอาร์เซน่อลได้พบกับสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งพวกเขาให้การหนุนหลังผมมาตลอด ผมคงมีความสุขกับพวกเขา ถ้าพวกเขาได้ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก พวกเขาสมควรได้สิ่งนี้"
นับจากนี้ไปเบื้องหน้า โอซิล จะเลือกที่จะทำงานในแวดวงลูกหนังต่อไป หรือจะหันไปจับงานโค้ช หรือแหวกแนวไปทำอาชีพอื่นที่ไม่เกี่ยวกับฟุตบอล นั่นเป็นเรื่องที่เขาต้องตัดสินใจ แต่ที่แน่ๆ โอซิล คือหนึ่งในนักฟุตบอลพรสวรรค์สูงที่แฟนบอลไม่มีวันลืมชัวร์
ทอมเม้ง