หนีตายมันสุดติ่ง! 9 ทีมสู้ลุ้นสนุกทำศึกอยู่รอดพรีเมียร์ลีก

หนีตายมันสุดติ่ง! 9 ทีมสู้ลุ้นสนุกทำศึกอยู่รอดพรีเมียร์ลีก
การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดูเหมือนจะเหลือม้าสองตัวนั่นก็คือ อาร์เซน่อล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนการลุ้นท็อปโฟร์ยังคงคงสนุกเร้าใจ แต่ที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันก็คือการต้องลุ้นอยู่รอดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

สำหรับตอนนี้ดูเหมือนว่า 11 ทีมที่อยู่บนตารางลีกต้องบอกว่ามีโอกาสดีมากๆ ที่จะมีโอกาสได้เล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า ส่วนอีก 9 สโมสรคงต้องลุ้นกันรากเลือดจนถึงเกมสุดท้ายว่าจะได้อยู่ต่อ หรือไปเริ่มต้นใหม่ในเกมเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

หนึ่งในสโมสรที่อยู่เหนียวแน่นกับลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอย่าง เอฟเวอร์ตัน ก็ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น ขณะที่ทีมดังอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก มาแล้ว ยังต้องกระเสือกกระสนเพื่อความอยู่รอดในฤดูกาลนี้

ขณะที่สามทีมท้ายตารางได้แค่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (18), บอร์นมัธ (19) และ เซาธ์แฮมป์ตัน (20) ยังมีความหวังในการอยู่รอดเพราะพวกเขามีคะแนนห่างจากโซนปลอดภัยแค่ 1 กับ 2 แต้มตามลำดับ เท่านั้น

ตอนนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในการลุ้นหนีตกชั้นสามารถพลิกผลันได้ทันทีหากทีมใดทีมหนึ่งใน 9 สโมสรพลาดท่าทำแต้มหลุดมือ ซึ่งงานนี้แฟนบอลของพวกเขาต้องลุ้นกันแบบนัดต่อนัดว่าทีมรักจะต้องเจอกกับอะไรบ้างในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น 2022/2023

คริสตัล พาเลซ

"ดิ อีเกิ้ลส์" ยังคงต้องลงเล่นกับ 8 ทีมที่มีอันดับต่ำกว่าพวกเขา โดยสถิติของ พาเลซ เมื่อเจอกับทั้ง 8 สโมสรถือว่าเหนือกว่า และสามารถเก็บแต้มได้ถึง 16 คะแนนจากการพบกันเอง 

สำหรับสถานการณ์ของ พาเลซ ตอนนี้อาจจะระส่ำอยู่บ้างเนื่องจากเพิ่งมีการปรับเปลี่ยนกุนซือ โดยดึง รอย ฮ็อดจ์ส นายใหญ่ขรัวเฒ่า กลับมากอบกู้สถานการณ์แทน ปาทริค วิเอร่า ที่โดนปลดไปเมื่อเร็วๆ นี้

"ปู่รอย" ถือว่ารู้จักนักเตะพาเลซเป็นอย่างดี เพราะเคยทำงานร่วมกันมาแล้ว แถมประสบการณ์ในการพาทีมหนีตกชั้นก็ค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นพวกเขาดูเหมือนจะเป็นทีมที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีก

โปรแกรมที่เหลืออยู่ 

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เยือน)

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)

- เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)

- วูล์ฟส์ (เยือน)

- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เหย้า)

- สเปอร์ส (เยือน)

- บอร์นมัธ (เหย้า)

- ฟูแล่ม (เยือน) 

- น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (เหย้า)

วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส


จูเลน โลเปเตกี ถือเป็นเทรนเนอร์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ และมีประสบการณ์ในการคุมทีมพอสมควร กอปรกับการมีผู้เล่นชั้นดีให้ใช้งานอย่างเช่น เคร็ก ดอว์สัน, ชูเอา มูตินโญ่ และ รูเบน เนเวส รวมทั้ง เปโดร เนโต้ น่าจะทำให้ทัพ "หมาป่า" แข็งแกร่งพอสมควร

สิ่งที่น่าผิดหวังของ วูล์ฟส์ ก็คือการทำประตู เพราะพวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่ยิงประตูคู่แข่งในลีกได้น้อยที่สุด ทั้งๆ ที่มีกองหน้าฝีเท้าดีหลายคน แต่ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาเจาะตาข่ายได้มากนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา 

โปรแกรมที่เหลืออยู่

- น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (เยือน)

- เชลซี (เหย้า)

- เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

- คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

- ไบรท์ตันฯ (เยือน)

- แอสตัน วิลล่า (เหย้า)

- แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน)

- เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)

- อาร์เซน่อล (เยือน)

ลีดส์ ยูไนเต็ด


ด้วยการที่ 6 จาก 11 เกมสุดท้ายในลีก ลีดส์ ได้เล่นในเอลแลนด์ โร้ด นั่นอาจจะเป็นกุญแจสำคัญทำให้พวกเขาเอาตัวรอดจากการตกชั้นได้ เพราะทีมได้เปรียบจากเสียงเชียร์ของแฟนบอลตัวเอง 

อย่างไรก็ตามทัพ "ยูงทอง" ถือว่ายังมีปัญหาเรื่องการเก็บชัยชนะ เพราะพวกเขาคว้าชัยได้แค่ 2 แมตช์จาก 14 เกมลีกหลังสุด ฉะนั้นหากทีมของกุนซือ ฆาบี้ กราเซีย ต้องรีดฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นต่อให้เล่นในบ้านก็ไม่มีประโยชน์ แถมพวกเขายังมีโปรแกรมต้องพบ อาร์เซน่อล, แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ นิวคาสเซิ่ล บอกเลยว่าเหงื่อแตกแน่นอน 

โปรแกรมที่เหลืออยู่ 

- อาร์เซน่อล (เยือน)

- น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (เหย้า)

- คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

- ลิเวอร์พูล (เหย้า)

- ฟูแล่ม (เยือน)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า)

- บอร์นมัธ (เยือน)

- แมนฯ ซิตี้ (เยือน)

- นิวคาสเซิ่ล (เหย้า)

- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน)

- สเปอร์ส (เหย้า) 

เอฟเวอร์ตัน


ฌอน ไดซ์ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่มีประสบการณ์ในการนำทีมหนีตายรอดมาแล้วก่อนหน้านี้ และพอเขาเข้ามาคุมทีม ทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มีผลงานพัฒนาขึ้นในระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะเกมรับที่เหนียวแน่ 

แม้ว่าจะเสียประตูยากขึ้น แต่การยิงประตูคู่แข่งก็ยากตามไปด้วย โดยเฉพาะการทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ที่แทบไม่มีให้เห็นในเกมลีก ยิ่งผู้เล่นสำคัญอย่าง โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ได้รับบาดเจ็บ โอกาสในการเจาะตาข่ายคู่แข่งก็ยิ่งน้อยลงเข้าไปอีก

โปรแกรมที่เหลืออยู่

- สเปอร์ส (เหย้า)

- แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน)

- ฟูแล่ม (เหย้า)

- คริสตัล พาเลซ (เยือน)

- นิวคาสเซิ่ล (เหย้า)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

- ไบรท์ตันฯ (เยือน)

- แมนฯ ซิตี้ (เหย้า)

- วูล์ฟส์ (เยือน)

- บอร์นมัธ (เหย้า)

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์


ทีมของกุนซือสตีฟ คูเปอร์ มีจุดแกร่งตรงที่สถิติการเล่นในบ้าน หลังจากแพ้แค่เกมเดียวนับตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาในถิ่นซิตี้ กราวนด์ นอกจากนี้พวกเขามีคิวรับมือ วูล์ฟส์ กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมหนีตายด้วยก็ยิ่งเป็นโอกาสดีที่จะโกยแต้มจากทั้งสองสโมสร

อย่างไรก็ตามจุดบกพร่องของทัพ "เจ้าป่า" ก็คือเกมเยือน และ 6 จาก 11 เกมสุดท้ายในลีก ฟอเรสต์ ต้องออกไปเยือนคู่แข่งซึ่งพวกเขาเก็บได้แค่ 6 แต้มจาก 39 คะแนน ถ้าหากไม่สามารถแก้ไขหรือพัฒนาในจุดนี้ได้ งานนี้คงได้ลุ้นเยี่ยวเหนียวจนวันสุดท้ายของฤดูกาลแหงๆ 

โปรแกรมที่เหลืออยู่

- วูล์ฟส์ (เหย้า)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เยือน)

- แอสตัน วิลล่า (เยือน)

- แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)

- ลิเวอร์พูล (เยือน)

- ไบรท์ตันฯ (เหย้า)

- เบรนท์ฟอร์ด (เยือน)

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)

- เชลซี (เยือน)

- อาร์เซน่อล (เหย้า)

- คริสตัล พาเลซ (เยือน)

เลสเตอร์ ซิตี้


ถ้าหากเกมรับของ เลสเตอร์ เหนียวแน่นมากกว่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะสามารถอยู่รอดปลอดภัย เพราะเรื่องเกมรุกทีมมีผู้เล่นจอมสร้างสรรค์อย่าง เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ และ เจมี่ วาร์ดี้

สำหรับตอนนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือกำลังเจอกับบททดสอบครั้งสำคัญในการเรียกศรัทธาคืนจากแฟนบอล "เดอะ ฟ็อกซ์" และต้องพยายามกระตุ้นนักเตะให้งัดฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นสถานการณ์ของทีมคงกดดันเป็นทวีคูณ

โปรแกรมที่เหลืออยู่

- คริสตัล พาเลซ (เยือน)

- แอสตัน วิลล่า (เหย้า)

- บอร์นมัธ (เหย้า)

- แมนฯ ซิตี้ (เยือน)

- วูล์ฟส์ (เหย้า)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เยือน)

- เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)

- ฟูแล่ม (เยือน)

- ลิเวอร์พูล (เหย้า)

- นิวคาสเซิ่ล (เยือน)

- เวสต์แฮม (เหย้า)

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 


การเซ็นสัญญาคว้าตัว แดนนี่ อิงส์ มาร่วมทัพเดือนมกราคม ช่วยให้ เวสต์แฮม สามารถผลิตประตูได้เพิ่มขึ้น หลังจากที่พวกเขาไม่สามารถเจาะตาข่ายคู่แข่งได้มากนัก และแน่นอนว่าศักยภาพของเขาทำให้ "ขุนค้อน" มีโอกาสที่จะรอดจากการตกชั้นได้เลยทีเดียว

สิ่งที่อาจจะทำให้สมาธิของนักเตะเวสต์แฮม ไขว้เขวก็คือการที่พวกเขายังมีโปรแกรมในศึกยูโรปา คอนเฟดเรนซ์ ลีก ฉะนั้นกุนซือเดวิด มอยส์ ต้องพยายามเรียกสมาธิของลูกทีมให้แน่วแน่อยู่กับเกมลีกเป็นอันดับแรก ส่วนที่เหลือถือเป็นเพียงแค่โบนัสเท่านั้น ที่สำคัญการเก็บคลีนชีตได้แค่ 2 เกมจาก 14 แมตช์ในลีก เป็นอีกหนึ่งปัญหาของทีมที่ต้องรีบแก้ไขด้วย 

โปรแกรมที่เหลืออยู่

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)

- นิวคาสเซิ่ล (เหย้า)

- ฟูแล่ม (เยือน)

- อาร์เซน่อล (เหย้า)

- บอร์นมัธ (เยือน)

- ลิเวอร์พูล (เหย้า)

- คริสตัล พาเลซ (เยือน)

- แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)

- เบรนท์ฟอร์ด (เยือน)

- ลีดส์ (เหย้า)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

- แมนฯ ซิตี้ (เยือน)

บอร์นมัธ


พวกเขาเป็นเพียงทีมเดียวจาก 9 สโมสรหนีตายที่ลงแข่งกับ แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล ทั้งสองเกมไปแล้ว และยังมีโปรแกรมได้เล่นในบ้าน 6 แมตช์ แน่นอนว่านี่คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่อาจจะนำไปสู่การรอดตกชั้นได้เลย ที่สำคัญ บอร์นมัธ มีสิทธิ์สร้างเซอร์ไพรส์ เหมือนที่พวกเขาปราบ ลิเวอร์พูล มาเมื่อเร็วๆ นี้ 

แม้ว่า บอร์นมัธ จะเอาชนะทีมใหญ่ได้แต่ก็สามารถแพ้ทีมในระดับเดียวกันได้เช่นกัน พูดง่ายๆ ก็คือยังหาความคงเส้นคงวาไม่ได้ โดยเฉพาะเกมรับที่รั่วสุดๆ และเสียประตูมากที่สุดในลีก และนั่นทำให้ทีมมีประตูได้เสียแย่ที่สุดจาก 3 ทีมท้ายตารางด้วย 

โปรแกรมที่เหลืออยู่

- ฟูแล่ม (เหย้า)

- ไบรท์ตันฯ (เหย้า)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

- สเปอร์ส (เยือน)

- เวสต์แฮม (เหย้า)

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เหย้า)

- เชลซี (เหย้า)

- คริสตัล พาเลซ (เยือน)

- แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)

- เอฟเวอร์ตัน (เยือน)

เซาธ์แฮมป์ตัน


ทัพ "นักบุญ" แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาพร้อมสู้สุดใจยกตัวอย่างในเกมที่ตามหลัง สเปอร์ส 1-3 แต่สามารถกลับมาไล่ตีเสมอ 3-3 ได้สำเร็จ นอกจากนี้ เซาธ์แฮมป์ตัน ยังแสดงผลงานสุดยอดในเกมเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ที่สำคัญทีมมีสิทธิ์รอดตกชั้นถ้ารักษาแนวทางการเล่นเกมรุกได้แบบนี้ต่อไป

เซาธ์แฮมป์ตัน ยังคงรั้งบ๊วย เพราะการที่ทีมขาดการเล่นที่คงเส้นคงวา นั่นทำให้โอกาสที่พวกเขาจะชนะ เสมอ หรือแพ้ มีเท่าๆ กัน ฉะนั้นหากต้องการที่จะดิ้นรนเพื่ออยู่รอดในลีกสูงสุด ต้องพยายามควานหาการเล่นที่แน่นอนให้ได้ ไม่งั้นคงต้องทำใจ

โปรแกรมที่เหลืออยู่

- เวสต์แฮม (เยือน)

- แมนฯ ซิตี้ (เหย้า)

- คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

- อาร์เซน่อล (เยือน)

- บอร์นมัธ (เหย้า)

- นิวคาสเซิ่ล (เยือน)

- น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (เยือน)

- ฟูแล่ม (เหย้า)

- ไบรท์ตันฯ (เยือน)

- ลิเวอร์พูล (เหย้า) 

 ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport