แท็คติกใหม่ไม่เวิร์ค, เด เคอา เซฟผีเห็นๆ! 5 ประเด็น แมนยู รอดตายเจ๊า เซาธ์แฮมป์ตัน

อย่างไรก็ดี แม้จะต้องเล่นกันแค่สิบชีวิต แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังได้ความเหนียวของ ดาบิด เด เคอา เซฟลูกยากสองสามหนพาทีมแชร์แต้มกับ นักบุญ ได้แบบไม่มีสกอร์ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มี.ค.

1. ผีแดง ปรับโผตัวจริงสองราย

แมนฯ ยูไนเต็ด ส่ง อาร่อน วาน บิสซาก้า กับ เจดอน ซานโช่ กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงต้อนรับการมาเยือนของ เซาธ์แฮมป์ตัน

ด้วยเหตุนี้ ดีโอโก้ ดาโลต์ กับ เฟร็ด จึงหล่นไปนั่งข้างสนามซึ่งเป็นการเปลี่ยนทีมสองจุดจากนัดเฝ้าบ้านพิชิต เรอัล เบติส 4-1 ในศึก ยูโรปาลีก เมื่อวันพฤหัสบดี

อย่างไรก็ดี วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ไม่มีชื่อในเกมนี้เนื่องจากมีอาการป่วย ขณะที่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ยังคงไม่มีส่วนร่วมเช่นเดิม แม้ว่ากองหน้าเลือดน้ำหอมจะลงซ้อมได้แล้วก็ตาม

2. ซานโช่ เบอร์ 10

จากการจัดทัพของ เอริค เทน ฮาก  ซานโช่ ซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นัดแรกนับตั้งแต่เดือน ต.ค. ถูกส่งลงเล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 ซึ่งเป็นการวางแท็คติกที่น่าสนใจไม่น้อยของนายใหญ่ชาวดัตช์

ฉะนั้นแล้ว บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันจอมโวยวายจึงถูกส่งให้ลงเล่นต่ำลงไปในตำแหน่งของ เฟร็ด เพื่อเป็นคู่ขาของ กาเซมีโร่ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าแปลกตาไม่ใช่เล่น

กระทั่งในที่สุด มันชี้ให้เห็นว่าแทคติกใหม่ของ เทน ฮาก ไม่ได้ผลเอาซะเลยที่วาง ซานโช่ ให้เล่นแทนตำแหน่งของ แฟร์นันด์ส ซึ่งดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ ทำเกมไม่ออกตั้งแต่ก่อนที่ทีมจะเหลือสิบคนแล้ว

จนในที่สุด เขาก็โดนถอดออกให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ อาศัยความจี๊ดจ๊าดลงไปช่วยทีมแทนในช่วงกลางครึ่งหลัง และน่าจะบอกได้ว่า เทน ฮาก ไม่สมควรปรับแนวทางการเล่นของทีมที่ลงตัวดีอยู่แล้วเนื่องจากการถอย แฟร์นันด์ส ให้ลงต่ำไปยืนคู่กับ กาเซมีโร่ เป็นการลดความสามารถในการสร้างสรรค์เกมของสตาร์เลือดฝอยทองไปในตัวด้วย

3. นักบุญ ปรับหนึ่งจุด

เซาธ์แฮมป์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน เซเยส ซึ่งนัดก่อนเฝ้าบ้านคว่ำ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ปรับทีมแค่รายเดียวเท่านั้นเนื่องจากมีปัญหานักเตะบาดเจ็บ

เอนสลีย์ เมดแลนด์ ไนล์ส ลงเล่นเกมนี้ไม่ไหว และไม่มีชื่อนั่งสำรองเช่นกันหลังเดี้ยงในช่วงซ้อมจึงทำให้ โรแม็ง แปร์โรด์ ได้ลงบู๊แทน

กระนั้นก็ดี  การ์ลอส อัลการาซ ซึ่งมีปัญหาเจ็บเข่าจากการฉลองประตูของตัวเองนัดก่อนหลังสอยตาข่ายพาทีมชนะ เดอะ ฟ็อกซ์ และโดนเปลี่ยนออกต้นครึ่งหลังลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ได้

4. เจ้าถิ่นสิบตัวเอาอยู่

กลายเป็นนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด คนแรกนับตั้งแต่ เนมานย่า วิดิช เคยก่อวีรกรรมเอาไว้ในซีซั่น 2013/14 ซะแล้วสำหรับ กาเซมีโร่ ดาวเตะทีมชาติ บราซิล ซึ่งได้ใบแดงสองหนในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นเดียวกันจากจังหวะทำฟาวล์ อัลการาซ

พร้อมกันนี้ สตาร์แซมบ้าจะโดนแบนเพิ่มเป็นสี่นัดด้วยจากการได้ใบแดงเป็นครั้งที่สองซึ่งจะทำให้เขาพลาดเกมฟัดกับ ฟูแล่ม , นิวคาสเซิ่ล , เบรนท์ฟอร์ด และ เอฟเวอร์ตัน

อย่างไรก็ดี แม้จะเหลือนักเตะสิบรายตั้งแต่นาทีที่ 33 แต่ ผีแดง สามารถยันเกมรุกของ นักบุญ ได้สำเร็จโดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ดาบิด เด เคอา ยังสำแดงความเหนียวชนิดตังเมเรียกพี่เซฟลูกอันตรายให้ทีมแบ่งแต้มจากทีมบ๊วยได้หลังจาก เร้ด เดวิลส์ มีอันต้องเปลี่ยนแผนมองถึงผลเสมอเป็นหลักแทนที่การพยายามคว้าชัยชนะ

แต่นอกจากจะขาด กาเซมีโร่ ไปสี่เกมแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะปราศจาก อเลฮานโดร การ์นาโช่ เพิ่มไปอีกรายด้วยเนื่องจากปีกอาร์เจนไตน์ซึ่งลงเล่นเป็นตัวสำรองแทน ซานโช่ เจ็บข้อเท้าถึงขนาดต้องสวมเครื่องป้องกัน และใช้ไม่ค้ำยันหลังจบเกมซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าการไร้สองดาวดังจะส่งผลต่อการไล่ล่าโทรฟี่อีกสองใบในช่วงท้ายซีซั่นของ ผีแดง อย่างแน่นอน

5. เทียบฟอร์มครึ่งแรก และ ครึ่งหลัง

จากการเสีย กาเซมีโร่ ไปตั้งแต่ครึ่งแรก ปฏิเวธไม่ได้ว่าส่งผลเสียต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่หวังกำชัยเหนือ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้หนึ่งแต้มสำคัญในรังของตัวเอง

แต่ทั้งนี้หากจะว่ากันตามตรง เกมนี้ เดอะ เซนต์ส บุกมาต่อกรกับ ผีแดง ได้อย่างน่ายกย่องตั้งแต่เริ่มเขี่ยบอลโดยที่ทั้งสองทีมยังมีนักเตะ 11 คนเท่ากันแล้วเนื่องจาก เด เคอา ต้องออกแรงเซฟตั้งแต่ช่วงที่ กาเซมีโร่ ยังไม่โดนไล่ออกด้วยซ้ำ

กระทั่งหลังเสีย กาเซมีโร่ เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ลดประสิทธิภาพลงไปตามระเบียบ จวบจนครบ 45 นาทีแรก นักบุญ จึงได้ส่องยิงมากกว่า 6 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่เจ้าบ้านได้ยิง 5 ครั้ง แต่เข้ากรอบมากกว่า 3 ครั้ง และยังครองบอลได้เหนือกว่าทีมเยือน 55:45%

จากนั้นตลอด 45 นาทีหลังที่ต้องลงเล่นกันแค่สิบชีวิต แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเปลี่ยน เวาท์ เว็กฮอร์ตส์ ออกตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ลงไปอัดแดนกลางเนื่องจากดาวยิงทีมชาติ ฮอลแลนด์ เชื่องช้าไม่เหมาะกับการเล่นเกมโต้เร็วหลังเสียเปรียบจำนวนผู้เล่นก็ตกเป็นรอง เซาธ์แฮมป์ตัน ครบทุกรูปแบบ แต่สามารถยันเสมอ 0-0 เก็บหนึ่งแต้มสำคัญได้อย่างที่พวกเขาสมควรต้องพอใจ

ไม่เพียงการครองบอลที่ทีมเยือนพลิกกลับมาเหนือกว่า 53:47% แต่ เดอะ เซนต์ส ยังได้ยิงมากถึง 18 ครั้งซึ่งเข้ากรอบ 4 ครั้ง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้น 10 ครั้ง และเข้ากรอบ 4 ครั้งเท่ากันก่อนที่เกมจะยุติลงไปแบบตาข่ายไม่ขาดด้วยกันทั้งคู่