ลิเวอร์พูล กระสุนหมดบุกไปแพ้ บอร์นมัธ ทีมท้ายตารางแบบสุดช็อก โดยที่เกมนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สังหารจุดโทษพลาดชวดพาทีมไล่ตีเสมอ ส่งผลให้ "หงส์แดง" แพ้นัดแรกในรอบ 6 เกม พร้อมชวดโอกาสทำแต้มขึ้นไปทาบพื้นที่ท็อปโฟร์ ก่อนมีคิวบุกไปเยือน เรอัล มาดริด ศึกชปล.กลางสัปดาห์นี้
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566 ที่สนาม ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม ระหว่าง บอร์นมัธ พบ ลิเวอร์พูล
หงส์แดง" ปรับหนึ่งตำแหน่งจากเกมถล่ม "ผีแดง" โดยส่งเจ้าหนู สเตฟาน บายเซติช ตัวจริงแทนกัปตันเฮนโด้ ส่วนสามประสานแดนหน้ายังใช้งาน ซาลาห์-กัคโป-นูนเญซ ล่าตาข่าย หากคว้าสามแต้มได้ จะขยับแซง สเปอร์ส ขึ้นอันดับ 4 แทนทันที
บอร์นมัธ ของกุนซือ แกรี่ โอนีล บุกไปแพ้ให้กับ อาร์เซน่อล มา 2-3 ในเกมล่าสุดทั้งๆที่ออกนำไปก่อน 2 ลูก ทำให้พ่ายมา 2 เกมติด
ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล พาทีมคว้าชัยมา 2 นัดติดในลีก เกมล่าสุดโชว์ฟอร์มดุไล่ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแบบขาดลอย 7-0
ครึ่งแรกเปิดฉากมาได้ 6 นาที ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาบอลมาเข้าหัว เฟอร์จิล ฟานไดค์ ขึ้นโขกคนเดียวเน้นๆ บอลกำลังจะข้ามเส้นอยู่แล้ว แต่ เจฟเฟอร์สัน เลอมาร์ เคลียร์ทิ้งไปได้แบบหวุดหวิด
จากนั้นนาทีที่ 9 บอร์นมัธ ได้โอกาสทองเกือบพลิกขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ เทรนท์ จ่ายบอลเสียในแดนตัวเอง ก่อนจะโดน โดมินิค โซลันกี้ ฉกบอลแล้วจ่ายให้ ด็องโก้ วาตตาร่า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษพยายามหักหลบ อลีสซง ไปยิงมุมแคบบอลเข้าข้างตาข่าย
ลิเวอร์พูล ยังเป็นฝ่ายขึงเกมบุกใส่มากกว่า นาที 13 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หลุดมากดด้วยซ้ายในเขตโทษยังติดเซฟของ เนโต้
นาที 15 ดาร์วิน นูนเญซ จ่ายบอลทะลุช่องให้ โคดี้ กัคโป ได้ชาร์จจ่อๆหน้าปากประตูส่งบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้วส
นาที 28 บอร์นมัธ ทำช็อกทีมเยือนเมื่อ อดัม สมิธ วางบอลยาวให้ ด็องโก้ วาตตาร่า หลุดกับดักล้ำหน้ากระชากหลุดไปเปิดบอลจากสุดเส้นให้ ฟิลิป บิลลิ่ง สอดมาแปโล่งๆส่งบอลตุงตาข่าย
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไมได้ จบครึ่งแรก บอร์นมัธ นำ ลิเวอร์พูล 1-0
ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล แก้เกมส่ง ดีโอโก้ โชต้า ลงมาเล่นแทน ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ก่อนที่นาที 49 โชต้า ไปฉกบอลจากแนวรับ บอร์นมัธ มาได้แล้วลากมาปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษแต่ นาโต้ โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดทิ้งออกไปได้
จนกระทั่งนาทีที่ 68 ผู้ตัดสินย้อนไปเช็ก VAR ด้วยตัวเองหลังได้รับสัญญาณว่าเป็นแฮนด์บอลของ อดัม สมิธ ก่อนจะกลับมาเป่าให้จุดโทษกับ ลิเวอร์พูล แต่ทว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับยิงออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
หลังจากนั้น บอร์นมัธ มีโอกาสสวนกลับเป็นระยะ นาที 83 ไรอัน คริสตี้ ตัวสำรองพลิกบอลเข้าเขตโทษก่อนซัดมุมแคบไปตรงตัว อลีสซง ยืนปิดมุมไว้อยู่แล้ว
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บอร์นมัธ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บอร์นมัธ (5-4-1) : เนโต้ เฝ้าเสา - อดัม สมิธ, คริส เมแฟม, แจ็ค สตีเฟ่นส์, มาร์กอส เซเนซี่, ไจดอน แอนโธนี่ - ด็องโก้ วาตตาร่า, ฟิลิป บิลลิ่ง, เจฟเฟอร์สัน เลอมาร์, โจ ร็อธเวลล์- โดมินิก โซลันกี้
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (เจมส์ มิลเนอร์ น.65), อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (ดีโอโก้ โชต้า น.46), ฟาบินโญ่ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.65), สเตฟาน บายเซติช (ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ น.88) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.65)