หากนับรวมทุกรายการระหว่าง ลิเวอร์พูล ปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมที่จะมาถึงในดึกวันอาทิตย์นี้จะเป็นนัดที่ 212 ทุกรายการ
จาก 211 ครั้งพบว่า....เด็กหงส์ยังเป็นรองเรื่องตัวเลข
ทุกรายการนะครับ....ลิเวอร์พูล ชนะ 70 เสมอ 58 แมนฯยูฯ ชนะ 83
เฉพาะในลีกสูงสุด ดิวิชั่นหนึ่งเดิมกับพรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล ชนะ 60 เสมอ 50 แมนฯยูฯ ชนะ 70
นั่นคือตัวเลข หากว่ากันถึงฟอร์มการเล่นเฉพาะซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล ยิ่งดูเป็นรองแม้พึ่งปรับเกมดีขึ้นในสี่นัดล่าสุดด้วยการไม่โดนทีมไหนเจาะตาข่ายแล้วเก็บได้ 10 แต้มจาก 4 เกม นับว่าก้าวกระโดดจากกลางตารางขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ไล่หลัง นิวคาสเซิลและสเปอร์สในแบบมีลุ้นพื้นที่ช.ป.ล ระยะเอื้อมถึง
ใช่ครับ...ฟอร์มโดยภาพรวมเป็นรองชัด
ผู้สันทัดกรณี ระดับตำนานนักและสื่อหลักที่เชื่อถือได้มองไปทาง "ปีศาจแดง" มากกว่าเจ้าบ้าน มีเพียงแค่ super computer ของออปต้า สรุปว่าลิเวอร์พูลจะชนะ 55.4%
คอมพิวเตอร์มองเชิงตัวเลขจากผลงานที่ ลิเวอร์พูลจัด แมนฯยูไนเต็ดไป 6 เกมล่าสุดด้วยผลชนะ 3 เสมอ 3 ยังไม่แพ้ทีมคู่ปรับตลอดกาลมาตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งนั่นคือการแพ้แดงเดือดต่อผีแดงเกมล่าสุด
ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ....เอ้ย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ครั้งล่าสุดที่หงส์แดงแพ้คาแอนฟิลด์ต่อผีแดง เกิดขึ้นภายใต้การทำงานของโค้ชชาวดัชท์ ที่เป็นระดับอาจารย์ใหญ่แห่งบอลฮอลแลนด์
หลุยส์ ฟาน กัล นั่นเองงงง
แฟนผีจำแม่น แฟนหงส์ลืมไปแล้วว่า เวย์น รูนีย์ ยิงประตูชัยช่วง12นาทีสุดท้ายในเกมที่ลิเวอร์พูลพึ่งเริ่มต้นการเล่นแบบ "เกเก้นเพรสซิง" ของJK ซึ่งส่อแววว่าจะไปได้สวยก่อนจบด้วยความผิดหวังเนื่องจาก "จบไม่เด็ดขาด" จากโอกาสที่สิ้นเปลือง ดาบิด เดแฮ เอ้ย เดเคอา เซฟลูกยากถึง 4 เที่ยว ก่อนโดนผีแดงสอนการยิงประตูเพื่อชนะในเกมโดย รูนนน
เที่ยวนี้คือเที่ยวที่สองในการพบกันศึกแดงเดือดระหว่าง JK กับ ETH หลังจากโดนเชือดที่โรงละครเมื่อต้นซีซั่น อาจเป็นจุดเริ่มของความแตกต่างในปีนี้ เมื่อ เทน ฮาก ชนะ เกมแรกในลีกแถมดันเป็นเกมแดงเดือด จากนั้นแฟนผีแดงลืมไปแล้วว่าสองเกมแรกเป็นแบบไหน ทีมเริ่มเก็บชัยชนะ กลายเป็นทีมที่เล่นดีขึ้นเรื่อย ตรงกันข้ามกับลิเวอร์พูล เมื่อแพ้แดงเดือดเกมนั้น นอกจากเปิดหัวสามเกมไม่ชนะใครแล้ว ผลงานของพวกเขากลายเป็นออกทะเลไปในทันที
สะเปะสะปะ หาฝั่งไม่ได้ จนกระเตื้องขึ้นมาบ้างในสี่เกมล่าสุดของพรีเมียร์ลีก
เพียงแต่มันจะเพียงพอให้พวกเขาได้หยุดความแรงของปีศาจแดงหรือไม่เท่านั้นเอง
ก่อนแข่งมี 2 เรื่องที่น่าติดตาม
1 เกมนี้อยู่นอกเหนือการวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่
เอาเข้าจริงๆมันก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เกิดขึ้นอยู่นะครับ เพียงแต่ช่วงหลังๆมานี้ มันเป็นเกมที่ถ้าทีมไหนเหนือกว่าในเชิงฟุตบอล ทีมนั้นชนะ อีกทีมพลิกสถานการณ์หรือใช้คำว่า แดงเดือด มาปั่นพลังให้ตัวเองได้ยาห
ปีก่อนทั้ง 2 นัดไปกลับ ลิเวอร์พูลเหนือกว่าด้วยคุณภาพและก็จัดงามๆไป 9 ลูก
เกมล่าสุดเมื่อต้นซีซั่น ในสภาพที่หงส์กำลังเนือยๆ เทน ฮาก สามารถปลุกทีมได้ทันเวลา ชนะด้วยสกอร์เบียดๆ แต่เกมมีคุณภาพกว่า
ครั้งนี้ละเป็นไง.....
ดูเรื่องที่สองต่อเลย
2 สู้กันด้วยแทกติกแบบไหน
ฝั่งลิเวอร์พูล ก่อนแข่งมีเรื่องให้ JK ขบคิดว่า 3 แดนกลางออกหน้าไหนดี
เฮนโด ผู้มากด้วยความเก๋าผ่านเกมแดงเดือด และฟาบินโญ ที่เริ่มจับจังหวะเบอร์หกของตัวเองได้และเจ้าหนู สเตฟาน บายเชติช ที่เล่นแล้วไม่เป็นภาระให้พี่ๆ เริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
ใครกันคือสามกองกลางหงส์แดงคืนนี้
ส่วนสามตัวทำ น่าจะล็อคสเปกไว้ที่ โม ซาลาห์ ที่ชื่นชอบการยิงประตูแมนฯยูฯ แบบที่ เอียน รัช ยังทำไม่ได้ และ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ฟอร์มดีขึ้นต่อเนื่อง และน่าจะเหมาะกับเกมแบบนี้ ส่วนอีก1 คน ดีโอโก โชต้า หรือ โคดี กักโป กันแน่
ฝั่งแมนฯยูฯ คงไม่น่ามีปัญหาในการจัดตัว 11 คนแรกเห็นๆกันอยู่ แค่ว่า เทน ฮาก มองแบ๊กขวาของเขาแบบไหน ต้องการตัวเดินเกมรุกอย่าง ดีโอโก ดาโลต์ หรือว่าเน้นตัวรับจัดๆอย่าง อารอน วาน บิสซากา ที่น่าจะพอสู้กับ ดาร์วิน ได้สนุก นอกนั้นไม่น่าจะมีใครแปลกหน้าหลุดเข้ามา กระทั่งทางขวาคงต้องใช้ อันโตนี หรือเต็มที่ก็ดูสภาพของ เจดอน ซานโช เท่านั้นเอง
ถ้าถามว่าแทกติกเกมนี้ออกแบบไหน...
ผมค่อนข้างมั่นใจว่า เทน ฮาก จะเล่นแบบผสม
หนึ่งคือเพรสแดนบนก่อนเลยสัก 5-10 นาที เอาให้เด็กหงส์ออกบอลไม่ได้ บิลด์เกมขึ้นมาลำบาก อย่าลืมว่าพักหลังเล่นเกมบิลด์ อัพ จากแดนหลังแล้ว อลีสซง เบคเกอร์ ออกทะเลให้เห็นหลายเกมแล้ว จุดนี้ทำเป็นเล่นไม่ได้เด็ดขาด โดนแมนฯยูฯ จัดงามๆแน่นอนครับ เพราะเกมเพรสแดนบนผีแดงลงล้อค ไม่ใช่ต่างคนต่างวิ่งเหมือนยุค ราล์ฟ รังนิก
ส่วนอีกแบบคือขุดบ่อล่อปลาถอนมารับแดนสอง พอบอลผ่านกลางสนามเริ่มไล่บอล และมีแบบ แมน มาร์คกิ้งทันที ดาร์วิน, ซาลาห์ โดนล้อคด้วยแบ๊กสองข้าง แดนกลางรอประกบตัวเข้าโซน เป็นไปได้ที่ เฟรด อาจไล่ตาม "เบอร์สิบ" หงส์แดง ที่ไม่รู้ว่าคือ โชต้า หรือ กักโป
ปล่อยให้คนผ่านบอลเยอะสุดในทีมหงส์แดงคือ ฟานไดจ์ และ โกนาเต้ ที่จะมีบทบาทในการเล่นเกมรุกจากกองหลังขึ้นไป ถ้าเด็กหงส์ส่งบอลไม่ตรงเพื่อน หรือโดนบีบให้เสียบอล
ภาษาโค้ชบอลหล่อๆ transition หรือการเปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุกของแมนฯยูฯจะทำงาน เพราะมีตัววิ่งความเร็วสูงพร้อมทะยานหลังไลน์หงส์แดง โดยเฉพาะฝั่ง เทรนต์ อเลกซานเดอร์-อาร์โนลด์ หรือฝั่ง รอบโบ้ โดยใช้ เวกฮอร์สต์ ชนกับ ฟานไดค์ อย่างไม่เกรงใจเพื่อนทีมชาติด้วยกัน เพื่อให้ตัววิ่งทำงานง่าย
ถ้าเป็นแบบนี้จะยังไง...
ผมมองว่าทีม เจเค น่าจะพยายามบิลด์ อัพจากแดนหลัง แม้ แมนฯยูฯ เดินหน้าเพรสในหลายๆจังหวะของเกม เพียงแต่การแก้เพรส อาจปรับรูปแบบ ให้ ฟานไดจ์ แม้กระทั่ง เทรนต์ ที่เปิดบอลยาวแม่นๆ เป็นตัวออกบอล เป้าหมายคือ...ดาร์วิน กับ ซาลาห์ วิ่งหลังไลน์เช่นกัน
ถ้าแดนหน้าแมนฯยูฯ เพรส แดนกลางก็ต้องขยับขึ้นมาพร้อมกับกองหลัง นั่นก็จะกลายเป็น ไฮไลน์ ดีเฟ้นส์ เปิดพื้นที่ให้ ดาร์วิน และ ซาลาห์ ใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน
จุดนี้ขึ้นกับว่า ฟานไดจ์และ เทรนต์ ที่น่าจะเป็นตัววางบอลหลังไลน์ จะเปิดแม่นมั้ย แล้วแบ๊กสองข้างหรือเซนเตอร์แมนฯยูฯ จะทำให้ตัวรุกด้านข้างหงส์แดงเล่นยากหรือไม่
ส่วนการครองบอลบุกเข้าหาแมนฯยูฯ ถึงแดนสาม...ผมว่ายากเลย เวลานี้ ผีค่อนข้างรัดกุม มีวินัยเกมรับอย่างยิ่ง ต่อให้รับลึก...เกรงว่าก็ยากแก่การเจาะเข้าโจมตี
คราวนี้ถ้าบอลออกลูกอึดอัด ตึงเครียดๆ ให้มองไปเนื้อในพบว่าเวลานี้ นักเตะแมนฯยูฯ เล่นด้วยความเชื่อมั่นและมีความนิ่งในการเล่นเกม ขอเพียงหงส์แดงพลาด หรือเปิดโอกาสให้พวกเขาได้โจมตี มันมีโอกาสโดนทะลวงได้
ดังนั้น......เกมนี้ถ้าเด็กหงส์งานหยาบ...."คาบ้าน" แน่นอน
ต้องเป็นเกมที่เล่นได้เนี้ยบที่สุด ดีที่สุดนัดหนี่งในซีซั่นประหนึ่งว่าชนะแมนฯยูฯแล้ว คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลย
ถ้าถามว่าผมมองเกมนี้แบบไหน
ขอยก วลีอมตะที่ใช้กันมานานตลอด 30 ปีในการเป็นนักข่าวกีฬา
(วันนี้วันนักข่าวแห่งชาติไทย)
ในหัวสมอง...ผมคิดว่าแมนฯยูไนเต็ดจะชนะ
ในหัวใจ.....ไม่มีปอด ไม่มีม้าม ผสม
ผมก็ต้องเชื่อเหมือนเดอะ ค็อป ทั่วโลกว่า "ลิเว่อ จะชนะ"
JACKIE