อาจโชว์ฟอร์มได้ไม่น่าประทับใจจ๊อดสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย ลิเวอร์พูล ก็คว้าสามแต้มได้สำเร็จในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดบ้านพิชิต วูล์ฟส์ 2-0 เมื่อวันพุธที่ 1 มี.ค.
แน่นอนว่าหลังจบครึ่งแรก กองเชียร์ หงส์แดง ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่เนื่องจากทีมรักเหมือนจะเร่งไม่ขึ้น ยังเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาไม่ได้ แต่สุดท้ายก็มาได้สองประตูติดๆกันจาก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โม ซาลาห์ สร้างความอุ่นใจก่อนเกมปะทะกับ แมนฯ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์นี้
1. หงส์แดง ไม่พลิกโผ
ลิเวอร์พูล จัดทีมลงบู๊ตามความคาดหมายเนื่องจากได้ อิบราฮิมา โกนาเต้ และ ดาร์วิน นูนเญซ ฟิตสมบูรณ์ลงเล่นเป็นตัวจริงตามที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์
ถึงกระนั้น หงส์แดง ปรับทัพจากเกมบุกไปเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 0-0 มากถึงหกรายโดย โกนาเต้ ได้ลงเล่นเป็นเกมแรกในรอบเกินกว่าหนึ่งเดือนแทนที่ โฌแอล มาติ๊ป ที่หล่นไปนั่งข้างสนาม
นอกจากนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายทีมชาติ สกอตแลนด์ ก็ต้องหลีกทางให้กับ คอสตาส ซิมิคาส ขณะที่ โคดี้ กัคโป ตกเป็นตัวสำรอง
2. หมาป่า ปรับทัพจุดเดียว
วูล์ฟส์ บุกมาเยือน แอนฟิลด์ โดยมีการปรับทัพแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้นเนื่องจาก มาเตอุส คุนญ่า บาดเจ็บข้อเท้าจากเกมบุกไปเสมอกับ ฟูแล่ม และทำให้ ชูเอา มูตินโญ่ ได้ออกสตาร์ต
อย่างไรก็ดี ทีมของ จูเลน โลเปเตกี ได้รับข่าวดีเช่นกันเนื่องจาก เปโดร เนโต้ ปีกคนสำคัญฟิตสมบูรณ์กลับคืนสู่ทีมเป็นตัวสำรองได้หนแรกในรอบห้าเดือนหลังผ่าตัดเอ็นหัวเข่าช่วงต้นเดือนต.ค.
3. ครึ่งแรกเครื่องจักร(สีแดง)ไม่ทำงาน
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล มีเกมที่ไม่น่าประทับใจแม้แต่น้อยแม้จะเล่นได้เหนือกว่า แต่ก็ไม่มีความเด็ดขาดมากพอจากการครองบอลในสัดส่วน 60:40% และได้ยิง 7 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ วูล์ฟส์ ได้ยิง 4 ครั้ง และเข้ากรอบ 1 ครั้ง แต่ไม่ได้ยิงเพิ่มอีกเลยนับตั้งแต่นาทีที่ 13
จึงเท่ากับว่า หงส์แดง เหนือกว่ามากนับจากนั้นเป็นต้นมา แต่อย่างที่บอกฟอร์มในนาทีนี้ของ เครื่องจักรสีแดง ไม่ได้น่าเกรงขามมากมายอะไรจึงไม่อาจสอยตาข่ายทีมเยือนได้ และชวนให้แฟนบอลอึดอัดเป็นที่สุด
4. ครึ่งหลังปิดจ็อบลุล่วง
อย่างไรก็ดี รูปเกมโดยรวม ลิเวอร์พูล ยังเหนือกว่าหลายขุม กระทั่งนาทีที่ 65 นูนเญซ ก็มายิงประตูปลดล็อกคลายความกดดันให้กับเจ้าบ้านได้สำเร็จ ทว่ากลายเป็นความโชคร้ายของเจ้าบ้านเนื่องจากผู้ตัดสินเป่าให้ฟาวล์กับทีมเยือนไปแล้วก่อนที่ดาวยิงอุรุกวัยจะสับไก
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นาทีที่ 73 เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็มาเรียกเสียงเฮจากสาวก เดอะ ค็อป ได้อีกหนจากการโขกเหน่งๆระยะเผาขนหน้าปากประตูจากที่ ดีโอโก้ โชต้า ตวัดกลับมาให้พาทีม เร้ด แมชีน นำ 1-0 ก่อนที่ โม ซาลาห์ จะยิงเพิ่มอีกตุงให้เจ้าบ้านกำชัยไปแบบเบาะๆ 2-0 และถือเป็นสามแต้มที่เจ้าบ้านสมควรได้รับ
5.หมาป่า ทีมโปรด ซาลาห์
จากการสอยตาข่าย วูล์ฟส์ ในเกมนี้สำเร็จจึงเท่ากับว่า ซาลาห์ นิยมยิงประตูคู่ปรับรายนี้ซะเหลือเกินเนื่องจากสองเกมก่อนหน้านี้ที่ปะทะกับ วูล์ฟส์ ใน แอนฟิลด์ เขาก็มีชื่อติดสกอร์บอร์ดทั้งสองนัด
นอกจากนี้ จากการยิงลูกปิดกล่องในเกมล่าสุด ทำให้กองหน้าทีมชาติ อียิปต์ กระทุ้งได้ 20 เม็ดแล้วในซีซั่นนี้ และมีผลงานเป็นรองแค่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (33ประตู) กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด (25 ประตู) เท่านั้น
ขณะเดียวกัน บังโม ยังสร้างชื่อเบิกสกอร์ได้มากกว่า 20 เม็ดในทุกรายการได้เป็นซีซั่นที่หกติดต่อกันแล้วนับตั้งแต่ย้ายมาจาก โรม่า แถมมีสถิติพังประตูใน พรีเมียร์ลีก ตามหลัง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ตำนานดาวยิงของสโมสรแค่เม็ดเดียวเท่านั้น (127 ประตู)