คู่สุดท้าย....นิวคาสเซิล รับมือ ลิเวอร์พูลเจ้าบ้านยังไม่แพ้ใครในบ้านซีซั่นนี้ แถมเสียแค่6 ประตู คลีน ชีตอีก 7ทีมเยือนได้ 8 แต้มจากชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 6 นอกบ้านโดนยิงไป 19 ลูก
นักวิจารณ์วิเคราะห์และฟันธงว่า "หงส์แดง" น่าจะได้แค่เสมอ ด้วยเพราะยังไม่ชัวร์ว่าการเล่นที่ยอดเยี่ยมกับทอฟฟี จะถ่ายโยงมาถึงนัดนี้หรือไม่ เพราะ นิวคาสเซิลแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเหนียวแน่น รัดกุม เสียยาก แพ้ยาก
ทั้งซีซั่นแพ้นัดเดียวถึงตรงนี้คือที่แอนฟิลด์ ในเกมที่น่าเสมอด้วยซ้ำ
เกิดอะไรขึ้น...ที่บ้านสาลิกาดง
1 สาลิกาขาด บรูโน
แน่นอนแดนกลางขาดมิดฟิลด์ตัวคุมเกม ตัวลุย บ๊อกส์ ทู บ๊อกส์ และเชื่อมเกมได้อย่างดีเยี่ยมไป ทำให้แดนกลางมีช่องว่าง เอ๊ดดี ฮาว เลือก เอลเลียตต์ แอนเดอร์สัน เด็กดาวรุ่งจากอะเคเดมี ตัวทีมชาติสกอตแลนด์ชุดต่ำ 21 ปีลงเล่น
การไม่มี บรูโน ทำให้แดนกลางของสาลิกาดูหลวมๆไปหน่อย ขาดตัวชน นั่นเอง
2 นิวคาสเซิล พลาด20นาทีแรก
การเดินเกมรุกตั้งแต่นาทีแรกและการพยายามเพรสซิงแดนบนและแดนสอง เหมือนมั่นใจในการเล่นที่ ช่องว่างระหว่างแดนห่างกันมากไปหน่อย โดยเฉพาะกลางกับหลัง จังหวะเสียประตูแรกให้ลิเวอร์พูล นั้นมาจากแดนสองด้วยซ้ำ เทรนต์ ได้เล่นบอลสบายๆ เปิดข้ามไลน์กองหลังให้ ดาร์วิน นูนเยส จับบอลลงแล้วซัดเข้าไปอย่างเด็ดขาด 1-0 น.10
ยิ่งพอหงส์แดงนำเร็ว สาลิกา ยิ่งพยายามลุยหนัก เหมือนไม่ตั้งหลัก เลยโดนลูกสอง เพราะแดนกลางกับแดนหลังยืนห่างกัน ส่งผลให้ โม ซาลาห์ ชิพบอลเข้าเขตโทษ กัคโป สอดขึ้นมารับบอลแล้วยิงสวน นิค โพพ เข้าไป 2-0 น.17
จากนั้นอีกสี่นาที จังหวะบุกของนิวคาสเซิล โดน เบคเกอร์ เปิดบอลยาวให้ ซาลาห์ ในแดนสาลิกา จังหวะนั้น โพพ ออกมาตัดบอลพลาด เลยพยายามโหม่งแต่บอลไม่ไปไหน ใช้มือเล่นนอกเขต...โดนไล่ออกจากสนาม
ที่น่าสนใจคือว่า นิค โพพ โดนแบนในนัดชิงลีก คัพ นัดพบแมนฯยูไนเต็ด ขณะที่ ดูบราฟกามือสอง ติดกฏบอลถ้วยเคยเล่นมาแล้วให้ แมนฯยูฯ ตอนสัญญายืมตัว นั่นทำให้เหลือประตูสองคนคือ ลอริส คาริอุส และ มาร์ค จิลเลสพี ประตูมือสี่ วัย 30 ปี เลือกสกอตติช
3 สาลิกาสู้ได้ดี
แม้มีผู้เล่นน้อยกว่าหนึ่งคนแต่กลายเป็น นิวคาสเซิล ใช้จังหวะบอลไดเรกต์ สู้ ไม่เล่นแดนกลาง เปิดบอลยาวทิ้งที่ว่างให้ แมกซิแม็ง กระทั่ง อีซัค ที่สามารถพาบอลหลอกล่อนักเตะหงส์ได้ดี
มีจังหวะเข้าไปยิงและหาโอกาสเตะมุม, ทุ่มไกล สร้างความปั่นป่วนได้เยอะ โดยเฉพาะลูกเตะมุม ที่ มีทั้ง ฟาเบียน แชร์ และ เบิร์น ที่ขึ้นมาโขกได้ง่ายๆเลย ทั้งชนคานและออกหลังเฉียดไปเฉียดมา
4 ชนะเพราะ "จบสกอร์เด็ดขาด"+ เบคเก้อ
แม้ตัวผู้เล่นมากกว่าแต่การครอบครองบอลดูไม่ได้เปรียบเท่าไหร่ เพราะสาลิกา มีจังหวะแย่งบอล และโจมตีได้อยู่เรื่อยๆ แบบว่ามีลุ้นทีแดนสาม กล่าวคือ...ความไม่นิ่งในการควบคุมเกม ส่งผลให้ นิวคาสเซิล มีโอกาสลุ้นทำประตูได้เฉย และสร้างจังหวะยิงประตูมากกว่าลิเวอร์พูลด้วยซ้ำ....
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะเกมนี้ย้อนไปที่ 17 นาทีแรกที่ พอได้โอกาสเข้าทำ...แม่นๆ
ดาร์วิน นูนเยส และ กัคโป ไม่พลาด (ยิงสองนัดติด) เลยทำให้สกอร์ออกมาสวยงาม
เพราะความเด็ดขาดในการจบสกอร์ของพวกเขา
นี่ถ้าไม่ได้ เบคเกอร์ ช่วยไว้3-4 จังหวะยากๆ สกอร์อาจจะออกมาไม่สวยแน่ๆ
ชนะสองนัดรวดไม่เสียประตู...ยังไงต่อ
ความมั่นใจของทีมเริ่มกลับมา โดยเฉพาะเรื่องการยิงประตู ส่วนรูปเกมคงต้องดูต่อเพราะ นัดเล่นทอฟฟี "ดีมาก"ในเรื่องของเกม แต่นัดเตะสาลิกา ดูดรอปลงไปเรื่องของเกม
นัดหน้าเจอ เรอัล มาดริด ต่อด้วย คริสตัล พาเลส....คงพอมองเห็นว่าเป็นอย่างไร