เล่นเพื่อทีม!เผยเว็กฮอร์สต์ไล่บีบคู่แข่งมากเป็นที่3ของลีก

เล่นเพื่อทีม!เผยเว็กฮอร์สต์ไล่บีบคู่แข่งมากเป็นที่3ของลีก
สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาของอังกฤษ เปิดเผยข้อมูลว่า เวาท์ เว็กฮอร์สต์ หัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด ถือเป็นคนที่วิ่งไล่กดดันคู่แข่งมากเป็นที่ 3 ของ พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม เป็นต้นมา หลังจากเขาโดนตำหนิพอตัวที่ยิงได้ไม่เยอะเท่าไหร่

เวาท์ เว็กฮอร์สต์ กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นนักเตะที่วิ่งไล่กดดันคู่แข่งมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หากนับตั้เงแต่วันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา หรือก็คือ 1 วันก่อนหน้าที่เขาจะประเดิมสนามให้กับทีม ตามสถิติที่รวบรวมโดย สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชื่อดังของเมืองผู้ดี

เว็กฮอร์สต์ กลายเป็นการเสริมทัพสุดเซอร์ไพรส์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตลาดช่วงหน้าหนาว ซึ่งนับตั้งแต่ที่ย้ายมาจาก เบิร์นลี่ย์ ด้วยสัญญายืมตัวนั้น ดาวเตะชาวดัตช์ก็ได้ลงเล่นไปแล้ว 9 นัดในทุกรายการ อย่างไรก็ตาม แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนไม่พอใจเท่าไหร่ที่เขาจบสกอร์ได้ไม่เฉียบคมเท่าที่ควร เพราะจนถึงตอนนี้เพิ่งทำได้เพียง 1 ลูกเท่านั้น นั่นคือเกม อีเอฟแอล คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรกที่ "ปีศาจแดง" ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0

อย่างไรก็ตาม สกายสปอร์ตส์ บอกว่าหากนับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา เว็กฮอร์สต์ ช่วยวิ่งไล่บีบคู่แข่งตั้งแต่ในแดนหน้าเยอะมากๆ จนถึงขั้นทำอย่างนั้นใน พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาลนี้ไปแล้ว 252 ครั้ง โดยเคนที่ทำได้เยอะกว่าเขามีเพียง เดยัน คูลูเซฟสกี้ กองกลาง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กับ เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำไป 292 ครั้งกับ 263 หน ตามลำดับ

ทั้งนี้ การวิ่งไล่กดดันคู่แข่งถือเป็นจุดเด่นของ เว็กฮอร์สท์ ตั้งแต่สมัยที่เขาอยู่กับ เบิร์นลี่ย์ แล้ว โดยแม้ว่าเขาจะทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้เพียง 2 ลูกจากการลงเล่น 20 นัด เมื่อฤดูกาล 2021-22 แต่เขาก็ไล่กดดันคู่แข่งถึง 48.7 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งในฤดูกาลนั้นมันก็ไม่มีนักเตะคนไหนอีกแล้วที่วิ่งไล่บีบคู่แข่งมากกว่าเขา

5 นักเตะที่ไล่กดดันคู่แข่งมากที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 นับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม เป็นต้นมา

1. เดยัน คูลูเซฟสกี้ (สเปอร์ส) 292 ครั้ง

2. เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนฯ ซิตี้) 263 ครั้ง

3. เวาท์ เว็กฮอร์สต์ (แมนฯ ยูไนเต็ด) 252 ครั้ง

4. บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนฯ ยูไนเต็ด) 250 ครั้ง

5. ไมเคิ่ล โอลิเซ่ (คริสตัล พาเลซ) 247 ครั้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport