ม้าสามตัวเต็มรูปแบบแล้ว

ม้าสามตัวเต็มรูปแบบแล้ว
มันไม่ใช่แค่สองทีม แต่การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้กลายเป็นม้าสามตัวเต็มรูปแบบแล้ว

จะดีจะแย่หรือใครจะบอกว่ายังไม่ถึงเวลาก็ตามเถิด ห้าคะแนนที่ตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงโดยที่ลงเตะเท่ากัน และห้าคะแนนที่ตามหลังอาร์เซน่อลรองจ่าฝูงโดยที่ลงเตะมากกว่าหนึ่งนัดนั้นคงปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาร่วมวงไพบูลย์กับทีมปืนใหญ่และเรือใบสีฟ้าอย่างเต็มตัวในอีก 15 เกมที่เหลือ

อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อดูจากสิ่งที่กำลังเป็นไปในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในมือของ เอริก เทน ฮาก

ชัยชนะของทีมปีศาจแดงในเกมล่าสุดที่ เอลแลนด์ โร้ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งแสดงให้เห็นถึงแคแร็กเตอร์บางอย่าง ประกอบกับการสะดุดติดๆ กันของอาร์เซน่อลทำให้การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเปิดกว้างขึ้นอีก แน่นอน ซิตี้ ที่กลับไปเป็นเต็งหนึ่งอีกครั้งยังอยู่ตรงนั้นท้าทายทุกทีมเสมอ

จริงๆ แล้วหลังจากที่กลับมาฟาดแข้งกันต่อเมื่อจบฟุตบอลโลกก็ยังไม่มีทีมไหนทำผลงานโดดเด่นชัดเจนกว่าทีมอื่นๆ เลยนะครับ ทีมที่มาแรงในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกอย่างอาร์เซน่อลและนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็ทำคะแนนหลุดมือเป็นว่าเล่นจนชักจะเริ่มน่าเป็นห่วงในภาพเดิมๆ ของทั้งคู่

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชลซี สเปอร์ส หรือ ลิเวอร์พูล ในกลุ่มบิ๊กซิกซ์ก็ล้วนมีสะดุดหัวคะมำกันทั้งนั้น ซิตี้เสมอเอฟเวอร์ตัน แพ้แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้สเปอร์ส สเปอร์สแพ้แอสตัน วิลล่า แพ้อาร์เซน่อล แพ้เลสเตอร์ เชลซีเสมอมาสามเกมติดต่อกันแล้ว ส่วนลิเวอร์พูลเพิ่งฟื้นจากชัยชนะในเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้หลังอ่วมหนักแพ้ 3 จาก 4 เกมก่อนหน้ามีแค่แต้มเดียว

คล้ายกับแต่ละทีมยังเมาหมัดมาจากช่วงฟุตบอลโลก ไม่มีใครทำผลงานร้อนแรงชนิดชนะต่อเนื่องได้เลย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เองก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน กลับมาเตะกันอีกครั้งทีมปีศาจแดงสะดุดไป 3 เกมแล้วจาก 9 นัดที่ลงเตะ

เสมอคริสตัล พาเลซ กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และแพ้อาร์เซน่อล

กระนั้นผมคิดว่าผลงานของยูไนเต็ดกลับจับต้องได้ชัดเจนกว่าทีมอื่นๆ ในช่วงหลังฟุตบอลโลก.. 6 จาก 9 เกมที่ไม่สะดุดคือการเก็บสามแต้มได้ทั้งหมด ส่วนเกมที่เสียคะแนนนั้นหากมองลงไปในรายละเอียดทีมของ เทน ฮาก ทำได้น่าสนใจไม่น้อย

เกมกับอาร์เซน่อลนั้นคือเกมที่ต้องยกมือสารภาพยอมรับตามตรงว่าแพ้จริงๆ ด้วยทีมปืนใหญ่โชว์ฟอร์มไล่บดขยี้ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมอย่างไม่หายใจหายคอ

แต่อีกสองเกมที่พลาดไปนั้น เป็นการพลาดแบบมีแง่มุมด้านบวกให้มองทั้งสิ้น

เสมอคริสตัล พาเลซ ปีศาจแดงเกือบชนะอยู่แล้วแต่ถูกยิงฟรีคิกตีเสมอช่วงทดเวลา ขณะที่เกมเสมอลีดส์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็เป็นการไล่กวดจากที่ถูกนำห่าง 0-2 ในช่วงต้นครึ่งหลัง เกือบจะแซงชนะได้ด้วยซ้ำ มันบ่งบอกถึงบุคลิกอันแข็งแกร่งซึ่งเคยเป็นตราประทับติดตัวพวกเขามาตลอด

เป็นการเสียคะแนนที่สามารถเสียดายถึงชัยชนะได้อย่างเต็มที่ และถึงแม้จะน่าเสียดายแต่มันก็ไม่ได้น่าผิดหวังอะไรมากมายเลยเมื่อดูจากปฏิกิริยาตอบสนองของนักเตะที่อยู่ในสนาม

ไม่เพียงเท่านั้น ในเกมแก้มือกับทีมยูงทองที่เอลแลนด์ โร้ด จากความอึดอัดในครึ่งแรก การแก้เกมของ เทน ฮาก ทำให้สาวกเร้ดเดวิลส์ได้ฉลองกับสามคะแนนอันล้ำค่าและมีสไตล์อย่างยิ่ง น่าประทับใจขึ้นไปอีก

เปลี่ยน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงมาพร้อมดัน ลุค ชอว์ ไปเล่นแบ๊กซ้ายและช่วยเติมเกมรุกทางฟากนั้น ผลลัพธ์คือชอว์ดันขึ้นไปเปิดบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด โหม่งประตู 1-0

เปลี่ยน อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงแทน เจดอน ซานโช่ ขยับแรชฟอร์ดเล่นหน้าเป้า ถอย เวาต์ เวกฮอร์สท์ ลงมาเป็นหน้าต่ำ ผลลัพธ์ไม่เพียงแรชฟอร์ดโหม่งประตูเบิกร่องเท่านั้น เวกฮอร์สท์ยังผ่านบอลให้การ์นาโช่ทำประตูฝังยูงทอง 2-0 ก่อนหมดเวลาห้านาทีอีกด้วย

ผมคิดว่าด้วยผลงานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานี้ พวกเขามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะได้รับการจับตามองจากนักวิจารณ์และแฟนบอลว่ามีโอกาสเป็นม้ามืดตัวจริง หลายคนเริ่มพูดถึงการลุ้นแชมป์ของพวกเขาแล้ว

แน่นอนแฟนบอลยูไนเต็ดบางคนอาจจะยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ อยากจะปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปเรื่อยๆ ไม่กดดันมากกว่า แต่ในทางกลับกันถ้าทุกอย่างยังดำเนินไปอย่างนี้ และพิจารณาจากความเป็นจริงที่ว่าฤดูกาลเพิ่งจะผ่านมาแค่ 22-23 นัด

มันจับต้องได้เลย เพราะอยู่ตรงหน้าเรานี้เอง..

แค่ 5 คะแนนที่ตามหลังกับแต้มที่ยังมีให้เก็บอีกมากมาย และความมั่นใจที่เกิดขึ้นจากสปิริตที่แกร่งกร้าว ตัวเจ็บทยอยหายเจ็บ ตัวหลักเริ่มกลับมาคืนฟอร์ม ตัวสำรองเริ่มทดแทนตัวจริงได้ และแท็กติกที่ชาญฉลาดของผู้จัดการทีมซึ่งได้รับความเชื่อมั่นและศรัทธาจากนักเตะและแฟนบอลเต็มเปี่ยม

ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกำลังพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทะยานไปข้างหน้า พร้อมหรือไม่พร้อมไม่รู้หรอก ผลลัพธ์สุดท้ายจะออกมาหน้าไหนก็เกินจะคาดเดา แต่สิ่งที่เราเห็นในตอนนี้คือการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกไม่ได้มีม้าแค่สองตัวอีกแล้วจริงๆ

ตังกุย


ที่มาของภาพ : getty images
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport