ก่อนลงสนามเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี แมตช์ ครั้งที่ 242 สื่ออังกฤษเขียนแซวกันว่านีคือดาร์บีแมตช์แห่งวิกฤตชาวเมอร์ซีย์ไซด์
ว่าไม่ได้เพราะเรื่องจริงมันก็ใช่ละครับ
"หงส์แดง" ย่ำแย่ในฟอร์มการเล่นตั้งแต่หลังจนถึงหน้า เสียประตูง่ายได้ประตูยาก อยู่กลางตาราง ส่วน "ทอฟฟี" เพื่อนบ้านอยู่ในกลุ่ม "ตกชั้น" อันดับ 18 ดีหน่อยที่ ชอน ไดส์ มาคุมเกมแรกชนะ "จ่าฝูง" อาร์เซนอล เหมือนใช้กฏบอลเปลี่ยนโค้ชได้ทันที
เอาจริงๆ ถ้าว่ากันตามสถิติ เล่นที่แอนฟิลด์นั้น ลิเวอร์พูลไม่ค่อยพลาดให้เอฟเวอร์ตันง่ายๆ 20 ปีแพ้ไปสองครั้งๆ ล่าสุดเมื่อสองปีก่อนบุกมาจัด 2-0 ย้อนไปอีกครั้งก็ปี 1999 โน่นเลย จากเควิน แคมป์เบลล์
ก่อนแข่งมีการประเมินว่า "ผู้ชนะ" อาจได้จุดเปลี่ยนจากเกมนี้
เกิดอะไรขึ้นที่แอนฟิลด์...
เจเค เลือก บายเชติช พร้อม ฟาบินโญ
เจเค ส่ง บายเชติช พร้อม ฟาบินโญ เลย ส่วนตำแหน่งอื่นๆไม่มีปัญหา โดยรายชื่อสำรองมี เวอร์จิล ฟานไดจ์, บ๊อบบี ฟีร์มีโน และ ดีโอโก โชต้า ส่วนรูปแบบยังคงยึด 4-3-3
เบคเกอร์ กับ แบ๊กโฟร์ เทรนต์, มาติป, โกเมส และ รอบโบ ส่วนแดนกลางนั้น ฟาบินโญ คุมเกม บายเชติช ขยับไปทางซ้าย เฮนโด กัปตันอยู่ทางขวา หน้าสามคน ดาร์วิน นูนเยส ทางซ้าย, กัคโป "ฟอล์สไนน์" และ ซาลาห์ ขวา
ไดส์ ปรับ1 คน
ส่วนทางด้าน ชอน ไดส์ ปรับหนึ่งตำแหน่งจากชุดชนะอาร์เซนอล เมื่อ โดมินิค คาลเวิร์ต เลวิน เจ็บ แต่เขาไม่เลือกส่ง นีล โมเปย์ เล่นแทน แต่เป็นกองหน้าดาวรุ่งวัย 22 ปี เอลลิส ซิมม์ ที่สูง 191 ซ.ม. มายืนค่ำ (ดึงตัวกลับมาจากปล่อยให้ซันเดอร์แลนด์ยืม) นอกนั้นชุดเดิม...
พิคฟอร์ด .. มิไคเลนโก, โคดี, ทาร์คอฟสกี, โคลแมน แดนกลางห้าคน อีโวบี ทางขวา, แมคนีล ทางซ้าย โอนานา,กานา เกย์ และ ดูกูเร โดยมี ซิมม์ ยืนค้ำข้างหน้า
ครึ่งแรกทอฟฟี รับแดนสอง, เข้าบอลช้า
ลูกทีม ชอน ไดส์ พยายามรักษาพื้นที่แดนสองและปิดด้าน ซาลาห์ มากเป็นพิเศษ ไล่บอลข้างบนบ้าง แต่เป็นบางจังหวะ ทำให้เด็กหงส์ครองบอลได้เยอะ โดยเฉพาะ มาติป มีบทบาท ในการขึ้นบอลทางด้าน ซาลาห์
ขณะเดียวกันเกมนี้ ดูนักเตะทอฟฟี เข้าบอลช้าไปหนึ่งจังหวั นั่นทำให้พวกเขาฟาวล์ต่อเนื่องในครึ่งแรก ฟาวล์ มากกว่า เด็กหงส์ เกมของพวกเขาเลยรับอย่างเดียว ไม่ได้เล่นเกมมากนัก ต้องถอยมารับ ในจังหวะตัดฟาล์ว ถึง 13 ครั้งในครึ่งแรก เป็น กัคโป โดนตัดฟาวล์ มากสุด
จังหวะสวนกลับนานๆครั้ง แต่ก็ยังสามารถขึ้นไปเตะมุมได้สองครั้ง
เกือบเสียก่อนสวนกลับได้ประตู
เกมเป็นของลิเวอร์พูลในแบบ 60-40 ครองบอล ไม่ให้ทอฟฟี ได้โต้กลับหรือเล่นบอลไดเรกต์ง่ายๆ กระนั้นทีม ชอน ไดส์ ยังได้เตะมุมก่อนหงส์แดง และจากจังหวะเตะมุมครั้งที่สองของเอฟเวอร์ตัน แมคนีล เปิดเสาสองตามสูตร ทาร์คอฟสกี้ โหม่งย้อนมาเสาแรก เข้าประตูเห็นๆ แต่บอลดันชนเสา เข้าทาง ซิมม์ ที่แปะคืนให้ แมคนีล ยิงบอลแป้ก ก่อน ดูกูเร จะได้ยิง โกเมส จิ้มบอลออกไปเข้าทาง ดาร์วิน ที่ได้บอลแล้วฝากเล่นกับซาลาห์ง่ายๆ แล้วพาควบเข้าไปแดน ทอฟฟี จังหวะนั้นเด็กหงส์ทะลุขึ้นไปสามสี่คน
ดาร์วิน มองเห็นพื้นที่หน้าเขตโทษ ตวัดเข้าไป เป็น ซาลาห์ กระโดดแปด้วยขวาง่ายๆเลย เพราะ พิคฟอร์ด อ่านว่าบอลจะถึง กัคโป เลยกลายเป็นโล่ง ยิงง่ายดาย หงส์นำ 1-0 น.36
ซาลาห์ ทำสถิติมีส่วนในการได้ประตูพรีเมียร์ลีก 100 ลูกในแอนฟิลด์ จากการลงสนาม 104 นัดในบ้าน ยิง 71 แอสซิสต์ 29
ครึ่งหลังได้เร็ว จังหวะสวนกลับอีกแล้ว
ประตู 2-0 น.48 เอง จังหวะสวนกลับ เปลี่ยนทรานสิชั่น ที่ทอฟฟี เสียบอล รอบโบ แทงให้ ซาลาห์ กระชากเข้าหน้าเขตโทษ ก่อนไหลให้ เทรนต์ที่วิ่งอ้อมหลังมา...จังหวะผ่านบอลแฉลบมาถึงเสาสอง โกดี ดันไม่เตะทิ้ง บอลเลยมาถึง กัคโป แปง่ายๆ ประตูแรกในสีเสื้อหงส์ เหมือนลูกพี่ ฟานไดจ์ ที่ยิงประตูแรกก็ยิงใส่ ทอฟฟี แต่ลูกพี่เหนือกว่าที่ลงเกมแรกยิงประตูแรกเลย
บายเชติช โดดเด่น
ทั้งทีมวันนี้ถือว่าเล่นดี ถ้าให้แต้มก็คง 7-9 แต้ม ซะเป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่หลังจนถึงข้างหน้า ทุกคนมีส่วนร่วมกับเกมหมด ทั้งความมุ่งมั่น ไล่บอล การเล่นเกมรุก โม ซาลาห ก็เสียบอลยาก , ดาร์วิน, กัคโป ดูเข้าขากันมากขึ้น
ถ้าให้เลือก ผมยังชอบ สเตฟาน บายเชติช เด็ก 18 ปีที่ได้โอกาสลงเล่นกับพวกตัวเก๋าแดนกลาง ยืนรับผิดชอบพื้นที่ด้าน ติอาโก คือทางซ้าย เขาเล่นตัวจริงนัดที่ห้าต่อเนื่อง นัดคอยเชื่อมเกม ไล่บอล ถ้า ทอฟฟี บุก การเล่นง่ายๆ ไม่เสียบอล มีชั้นเชิง ทำให้บอลเดินต่อเนื่อง
มีจังหวะผ่านบอลสั้นและยาวหลายครั้งด้วยความแม่นยำ
พอได้เล่นบ่อย...เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น
ถ้าให้สรุปว่าทำไม "หงส์แดง" ชนะอย่างสวยสดงดงาม (เล่นดีก็ต้องชม)
ความมุ่งมั่น ไฟท์ติ้ง สปิริต ช่วยกันเล่นทุกคน
ทอฟฟี เสียบอลง่ายๆทั้งเกม จึงโดนลงโทษจากการสวนกลับ
บอลไดเรกต์และลูกตั้งเตะของ ชอน ไดส์ ไม่ได้ผล
เกมรับเด็กหงส์ไม่มีพลาดทั้งส่วนตัวและส่วนทีม
เป็นแมตช์ที่เล่นได้ดีนอกเหนือจากเกมถล่มบอร์นมัธ 9-0 เมื่อต้นซีซั่น
จะเป็นจุดเปลี่ยนหรือไม่....รอดูเกมต่อไป