จิ้งจอกฟอร์มร้อน! เลสเตอร์ รัวสี่เม็ดแซงอัด สเปอร์ส สองนัดกดยับ 8 ประตู

จิ้งจอกฟอร์มร้อน! เลสเตอร์ รัวสี่เม็ดแซงอัด สเปอร์ส สองนัดกดยับ 8 ประตู
จิ้งจอกรุกสะเด่า 2 นัดกดยับ 8 เม็ด! เลสเตอร์ ซิตี้ แม้จะโดน สเปอร์ส บุกมานำก่อนแต่ไม่หวั่นมาตะบันสี่เม็ดพลิกแซงเอาชนะ 4-1 เฮสามนัดติดทุกรายการ รั้งอันดับ 13 ส่วน ไก่เดือยทอง ชวดแซงขึ้นท็อปโฟรรั้งที่ 5 เหมือนเดิม

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 14 เปิด คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ สเปอร์ส ทีมอันดับ 5 ของตาราง 

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พาทีมทำผลงานยอดเยี่ยมในเกมล่าสุดหลังบุกไปแซงคว้าชัยเหนือ แอสตัน วิลล่า 4-2 เกมนี้ยังให้ปีกบราซิเลี่ยนตัวใหม่อย่าง เตเต้ ปั้นเกมรุกร่วมกับ เจมส์ แมดดิสัน และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ โดยมี เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ยืนหน้าเป้า

ส่วนทางฝั่งไก่เดือยทอง เกมที่แล้วฟอร์มสุดยอดเช่นกันบดเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ มาหวุดหวิด 1-0 โดยเกมนี้ได้ อันโตนิโอ คอนเต้ กลับมาคุมทีมข้างสนาม โดยจัดแนวรุกเหมือนเดิม เดยัน คูลูเซฟสกี้, ซน ฮึง-มิน และ แฮร์รี่ เคน  

เปิดฉากมาไม่ถึง 2 นาที สเปอร์ส เกือบได้ชิงขึ้นนำก่อนหลังแนวรับเจ้าบ้าน เลสเตอร์ ทำเสียบอลหน้าปากประตู บอลมาถึง อิวาน เปริซิช ทางซ้ายหักย้อนมาให้ โรดริโก้ เบนตานกูร์ ซัดเหินคานไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 4 เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นบ้างหลัง บาร์นส์ ลากมาก่อนเข้ากรอบเขตโทษโดน โรดริโก้ เบนตานกูร์ เสียบฟาวล์จนโดนแจกใบเหลือง ก่อนจะเขี่ยเปลี่ยนจุดให้ เจมส์ แมดดิสัน วิ่งมาซัดหลุดกรอบออกไป

ทีมเยือนเปลี่ยนบอลสวนกลับมาเร็วอีกครั้ง นาทีที่ 11 คูลูเซฟสกี้ แทงออกซ้ายให้ เปริซิช หลุดเข้าไปก่อนซัดเลียดหลุดเสาออกไป

อีกสองนาทีถัดมา ไก่เดือยทอง ได้ฟรีคิกนอกกรอบก่อนที่ เปริซิซว จะปั่นโดน วอร์ด ปั่นข้ามคาน 

นาที 14 สเปอร์ส ได้ประตูขึ้นนำจนได้ บอลเตะมุมทางด้านขวา อิวาน เปริซิช เปิดโค้งมาหน้าประตูก่อนที่ วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น จะสกัดไม่ดีไปเข้าทาง โรดริโก้ เบนตานกูร์ ซัดเข้าไปไม่พลาด ทว่ามีสัญญาณ วีเออาร์ เช็กจังหวะล้ำหน้า ก่อนจะยืนยันให้เป็นประตูไก่เดือยทองบุกมาขึ้นนำ 1-0

นาที 23 แฟนจิ้งจอกสยามได้เฮกันลั่นบ้าง หลังเจ้าบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ ทวงประตูไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากจังหวะเตะมุมทางด้านซ้าย แมดดิสัน เปิดมาเสาแรกบอลเช็ดไปเสาไกลก่อนโดน เบนตานกูร์ เคลียร์มาเข้าทาง นอมปาลิส เมนดี้ วิ่งมาซัดไม่จับบอลพุ่งเป็นจรวดเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างงดงาม

อีกสองนาทีถัดมา นาที 25 เลสเตอร์ พลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ เว้าท์ ฟาส สกัดบอลได้กลางสนามบอลถึง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ หลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนเลือกจ่ายให้ เจมส์ แมดดิสัน วิ่งมาซัดโล่งๆผ่านตัว เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ เข้าไป เป็นเม็ดที่ 9 ในลีกของห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษฤดูกาลนี้

เกมรับของสเปอร์สเสียสมาธิไปเลย และเกือบโดนเม็ดที่สาม หลัง นาที 26 ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ไหลให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ซัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่ผ่านมือ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ พุ่งปัดออกไปหวุดหวิด

เกมรุกของ ไก่เดือยทอง เริ่มตันๆ บุกไม่ขึ้นกลายเป็น เลสเตอร์ ที่คุมสถานการณ์ได้ดีกว่า 

และช่วงทดเจ็บ นาที 45+4 แฮร์รี่ ซุตทาร์ วางบอลยาวมาให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ เลี้ยงจี้เข้าไปหน้ากรอบประตูก่อนดึงจังหวะแล้วปั่นด้วยซ้ายหนีมือ ฟอร์สเตอร์ เสียบโคนเสาเข้าไปให้ เลสเตอร์ ซิตี้ นำห่าง 3-1 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังยังไม่มีการเปลี่ยนตัว นาที 52 โรดริโก้ เบนตานกูร์ พลิกบอลหลบก่อนลากมาซัดนอกกรอบแต่บอลยังเบาไปและไปตรงตัว แดนนี่ วอร์ด รับไว้ไม่พลาด

นาที 58 เลสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สี่ หลังบอลขึ้นทางซ้าย วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น ไหลต่อให้  ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เลี้ยงแหวกเข้าไปซัดมุมแคบแต่ไปตรงตัว เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์

นาที 61 เกมหยุดไปชั่วขณะหลัง โรดริโก้ เบนตานกูร์ มีอาการบาดเจ็บก่อนจะได้รับการปฐมพยาบาลแล้วโดนเปลี่ยนตัวออกไป โดยส่ง ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ ห้องเครื่องดาวรุ่งลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 65

นาที 70 อิเฮียนาโช่ ได้บอลแล้วแทงให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ หลุดเข้าไปซัดบอลผ่าน เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ เสียบมุมตาข่าย ทว่าผู้ตัดสินหลังเช็กกับ วีเออาร์ แล้วไม่ให้ประตูเนื่องจาก บาร์นส์ ล้้ำหน้าไปก่อนทำให้สกอร์ยังนำอยู่ 3-1

นาที 75 คอนเต้ เปลี่ยนสามคนรวดส่งทั้ง ริชาร์ลิซอน, เอเมอร์สัน โรยัล และดาวินซอน ซานเชซ ลงเล่นแทน อิวาน เปริซิช, เปโดร ปอร์โร่ และจาเฟ็ด ทันกันก้า ส่วนฝั่ง เลสเตอร์ ถอดเอา เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ และ เตเต้ ออกมาพักแล้วส่ง เจมี่ วาร์ดี้ และเดนนิส ปราต ลงเล่นแทน

นาที 82 ท้พจิ้งจอกมาได้เม็ดที่สี่นำห่างจนนได้ แมดดิสัน แทงบอลให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส หลุดเข้าไปซัดเสาแรกส่งบอลตุงตาข่ายให้ เลสเตอร์ นำโด่ง 4-1

ช่วงเวลาที่ไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ถลุงเอาชนะ สเปอร์ส 4-1 เฮสองนัดติดในลีกมีเพิ่มเป็น 24 คะแนนเท่ากับ ฟอเรสต์ แต่ลูกได้เสียดีกว่ารั้งอันดับ 13 ส่วน ไก่เดือยทอง แพ้ในรอบสามเกมชวดแซงขึ้นท็อปโฟร์ รั้งอันดับ 5 เหมือนเดิมโดยมี 39 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แดนนี่ วอร์ด - ติโมธี คาสตาญ, แฮร์รี่ ซุตทาร์, เว้าท์ ฟาส, วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น - นอมปาลิส เมนดี้ (วิลเฟรด เอ็นดิดี้ น.69) , เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ - เตเต้, เจมส์ แมดดิสัน (ริคาร์โด้ เปเรยร่า น.88), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ 

ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

สเปอร์ส (3-4-2-1) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ - จาเฟ็ด ทันกันก้า (ดาวินซอน ซานเชซ น.76), เอริค ดายเออร์, เบน เดวิส - เปโดร ปอร์โร่ (เอเมอรสัน โรยัล น.75) , ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, โรดริโก้ เบนตานกูร์ (ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ น.65), อิวาน เปริซิช (ริชาร์ลิซอน น.75) - เดยัน คูลูเซฟสกี้ (อาร์เนาต์ ดันยูม่า น.79), ซน ฮึง-มิน - แฮร์รี่ เคน  

ผู้จัดการทีม : อันโตนิโอ คอนเต้


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport