..ว่าด้วยเรื่องของ แมนฯ ซิตี้ กับการถูกพรีเมียร์ลีกตั้งข้อหาผิดกฎไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์
1 ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจกับแฟนบอลของ แมนฯ ซิตี้ ในเมืองไทยว่านี่ไม่เกี่ยวกับการอิจฉาทีมเรือใบสีฟ้า ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และเป็นคนละประเด็นกับการที่แฟนบอลของพวกเขาตัดพ้อว่า...มีเงินเยอะก็ผิดนะครับ
มีเงินเยอะไม่ผิดครับ
ประเด็นคือ แมนฯ ซิตี้ ใช้เงินจากความมั่งคั่งและร่ำรวยของท่านชีค ผู้เป็นเจ้าของสโมสร ซึ่งมันดันไม่สมดุลย์กับรายรับของสโมสร แล้วถูกตรวจพบว่ามีความผิดปกติ
อธิบายง่ายๆ ว่าผลประกอบการไม่ดี แต่กลับใช้เงินซื้อตัวผู้เล่นและจ่ายค่าเหนื่อยอย่างมหาศาล หรือใช้เงินเกินตัวนั่นแหละ
กฎไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์ ตั้งขึ้นมา เพื่อป้องกันการเอาเปรียบของทีมที่เจ้าของรวยล้นฟ้าแล้วใช้เงินอย่างบ้าคลั่ง เพราะรายรับของคุณต้องสมดุลย์กับรายจ่ายด้วย
2 สมมุติบทสรุปคือถูกตัดสินว่าผิดจริง (ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกนาน)
ย้ำอีกครั้งว่าถ้าผิดจริงๆ หากลงโทษด้วยการตัด 15-20 แต้ม แล้วปรับเงิน
ถ้าผมเป็นเจ้าของทีม ผมรีบเอาเลยนะครับ เนื่องเพราะมันจิ๊บจ๊อยมาก ไม่สมเหตุสมผลกับความผิดที่คุณเอาเปรียบทีมอื่นมาเป็น 10 ปี
แต่ถึงขนาดขับออกจากฟุตบอลลีกไปเลย มันก็ดูจะโหดร้าย และโรคจิตเกินไปหน่อย อันนี้ไม่เห็นด้วย
3 การปรับตกชั้นเหมือนที่ ยูเวนตุส เคยเจอ ข้อหาติดสินบนผู้ตัดสินก็อาจจะแรงไป แต่ก็พอเข้าใจได้ในกรณีที่ถูกตัดสินว่าผิดจริง
อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องมาดูอีกนั่นแหละว่าผิดมากขนาดไหน บทลงโทษที่ออกมาก็ควรจะสมน้ำสมเนื้อกับความผิด
ตัวอย่างเช่นตัดมากกว่า 20 แต้ม และห้ามซื้อขายตัวผู้เล่นประมาณ 2 ฤดูกาล (4 ตลาด)
4 ส่วนเรื่องยึดแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์ แล้วเอามายกให้ 'รองแชมป์' ในฤดูกาลนั้นๆ เรียนตามตรงว่ามันก็ไม่น่าภาคภูมิใจสักเท่าไหร่หรอก ในเมื่อมันผ่านไปแล้ว ต่อให้ แมนฯ ซิตี้ ทำผิดกฎการเงินในฤดูกาลนั้นๆ ก็ตาม
ทางความรู้สึก มันไม่ใช่แล้ว
5 แน่นอนว่า แมนฯ ซิตี้ ย่อมทุ่มสุดตัวแบบสู้ตายค่ะ เพราะหากถูกลงโทษสถานหนัก มันหมายถึงความชิบหายวายป่วงของสโมสรเลยทีเดียว
ทีมกฎหมายของ แมนฯ ซิตี้ จะต้องหาทางผ่อนหนักเป็นเบาให้ได้นะครับงานนี้
ปัญหาคืองานนี้เป็นเรื่องระหว่าง 'พรีเมียร์ลีก' กับ 'แมนฯ ซิตี้' โดยตรง ศาลกีฬาโลกไม่เกี่ยวแล้วด้วย
บอ.บู๋