เป็นอีกครั้งที่คล็อปป์ทำให้เห็น

เป็นอีกครั้งที่คล็อปป์ทำให้เห็น
ท่ามกลางปัญหารุมเร้า หนึ่งในคำพูดน่าหดหู่ที่ผมได้ยินคือ คนทั้งโลกรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน มีแต่คล็อปป์นั่นแหละที่ไม่รู้

คนทั้งโลกเห็นกันหมดว่ากองกลางมีปัญหา คล็อปป์ทำอะไรอยู่ทำไมถึงมองไม่เห็น

คนทั้งโลกเห็น..

มันน่าหดหู่ตรงที่ในวันที่อะไรก็ดูแย่ เต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายและความโกลาหล เขาก็กลายสภาพเป็นแค่โค้ชอ่อนหัดในสายตาของบางคนไปเสียแล้ว

ปัญหาเดียวกัน เรากับเขาคงมองไม่เหมือนกัน หรือแม้จะมองเหมือนกัน วิธีแก้ก็อาจจะไม่เหมือนกัน เพราะเรากับเขายืนอยู่บนเงื่อนไขและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน

แต่คนที่อยู่กับทีมตลอดเวลาอย่างเขา ผ่านประสบการณ์ร้อนหนาวมาโชกโชนอย่างเขาน่ะหรือครับจะมองไม่เห็นปัญหาของทีม มันฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย

ผมคิดว่าบางทีมันอาจเป็นเรื่องตรงกันข้ามเลยด้วยซ้ำ คือไม่เพียงมองเห็น แต่เขายังเห็นมากกว่านั้นอีกต่างหาก เพราะเขาย่อมเข้าถึงเงื่อนไขลึกๆ ที่ซ่อนอยู่ซึ่งเราไม่เคยรู้

ในขณะที่เรารุมชี้ว่ากองกลางนี่แหละคือต้นตอของปัญหาที่คนทั้งโลกเห็น กลางไม่เพรส หลังก็แย่ กลางเร่งไม่ขึ้น หน้าก็เหนื่อย นี่ไงปัญหาชัดๆ ทำไมมองไม่เห็น ซื้อแค่คนเดียวก็ยังไปเอา โกดี้ คักโป มาอีก ทีมมีปัญหากองกลางดันซื้อกองหน้า แก้ปัญหาไม่ตรงจุด.. เขาอาจมองเห็นภาพอื่นซึ่งกว้างกว่า

ไม่ใช่ว่าแดนกลางของลิเวอร์พูลไม่มีปัญหา มันมีปัญหาแต่แดนอื่นก็มีปัญหาเช่นกัน การเล่นของลิเวอร์พูลในทุกแดนสัมพันธ์กันหมด มองในทางกลับกันถ้าแดนหน้าไล่บีบกดดันคู่แข่งไม่จน กองกลางก็รับภาระหนักใช่ไหม ถ้าข้างหน้าไม่อาจเป็นแนวรับด่านแรกที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพแบบเดิมที่ทำให้การเก็บตกจังหวะสองง่ายดายขึ้น กองกลางก็ต้องเหนื่อยยิ่งกว่าเก่าถูกหรือเปล่า

นี่คือฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลไม่ได้ขาดแคลนผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง นักเตะแดนกลางทุกคนยกเว้น อาร์ตูร์ ฟิตสมบูรณ์พร้อมทั้งยังเข้าใจระบบของเขา

แน่นอนเราย่อมสามารถตั้งคำถามถึงคุณภาพของกองกลางที่มีได้ว่ามีแต่ปริมาณไม่ใช่คุณภาพ แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของปัญหา ไม่ใช่ทั้งหมดของปัญหาอยู่ดี และเขาก็มีสิทธิ์มองได้ว่าก็กองกลางชุดนี้นี่แหละที่บุกตะลุยพาทีมลุ้น 4 แชมป์มาหมาดๆ เมื่อฤดูกาลก่อน เรื่องความเหนื่อยล้าที่พูดๆ กันก็ชุดนี้อีกนั่นแหละกรำศึก 4 เดือนสุดท้ายแบบมีประสิทธิภาพเตะ 19 นัดในลีกชนะ 16 เสมอ 3 ไม่แพ้ใครเลย เตะ 37 นัดในทุกรายการตะลุยเข้าชิงอีกสามถ้วย และยังได้พักมาแล้วช่วงปรีซีซั่น อยู่ๆ จะมาแก่เอากะทันหันแค่ข้ามฤดูกาลนี่น่ะหรือ

ลิเวอร์พูลมีปัญหาที่แดนหน้าไม่แพ้แดนกลาง ทั้งยังเป็นปัญหาเร่งด่วนยิ่งกว่า กองกลางอาจจะฟอร์มตกแต่ไม่ได้ขาดคน กองหน้าต่างหากที่ทั้งฟอร์มตกและขาดคน

ตัวเลือกที่เหลือให้ใช้มีแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ตำแหน่งถนัดทับกัน ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยังต้องต่อสู้กับความกดดัน และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ที่ยังดิบอยู่มาก ส่วน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ดีโอโก้ โชต้า หลุยส์ ดิอาซ ที่เป็นตัวหลักใช้ได้เลยกลับเจ็บยาวทั้งหมด

เสีย ซาดิโอ มาเน่ ไป ตัวที่เตรียมไว้แล้วว่าเล่นแทนได้ทั้ง ดิอาซ และ โชต้า ก็ดันเข้าโรงหมอทั้งคู่หลังผ่านไปไม่กี่เกม ประสิทธิภาพฝั่งซ้ายหายไปกับตา ซึ่งแน่นอนมันกระทบไปถึงศักยภาพแดนบนในภาพรวมด้วย

กองกลางฟอร์มแย่ แต่ยังมีให้ใช้งาน 8 คน

กองหน้าฟอร์มแย่ และแทบไม่เหลือใครให้หมุนใช้งาน

นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลือกคักโป ส่วนคำถามที่ตามมาว่าแล้วทำไมถึงเสริมแค่คนเดียวไม่เอากองกลางมาอีกคนด้วยเล่านั่นต้องคาดเดากันเอาเองต่อไป FSG ไม่ให้งบ คล็อปป์ไม่เอาเอง หรือเหตุผลอื่น

อย่าเพิ่งฟันธงว่าคล็อปป์จะไม่อยากได้นักเตะใหม่ได้ยังไง โค้ชทุกคนย่อมอยากซื้อนักเตะใหม่อยู่แล้ว มันก็ต้องเป็นเขาอยากได้แต่ FSG งกไม่ให้นั่นแหละ..

คือเราคิดได้ สงสัยได้ แต่ไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่าเป็นอย่างนั้นแน่ ผมเองถ้าให้เดาก็คิดว่าเป็นเขาที่ไม่ได้ต้องการเอง การผ่าตัดกองกลางสำหรับเขามันจะเกิดขึ้นแน่แต่เป็นช่วงซัมเมอร์ไม่ใช่มกราคม โอเคแดนกลางก็มีปัญหาแต่การซื้อกองกลางในตอนนี้อาจไม่ใช่การแก้ที่ถูกจุดเสียทีเดียว ปัญหาที่เร่งด่วนยิ่งกว่าคือกองหน้าที่กำลังขาดแคลน ถ้าแก้ความขัดสนในแดนหน้าได้ กองกลางชุดนี้จะกลับมาได้เอง

ถ้าให้เดาเหตุผลที่เขาไม่ซื้อกองกลางก็คงประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งแบบสุดตัวอยู่ดีนะครับ

จะว่าไปแล้วคล็อปป์ก็คือคล็อปป์ บุคลิกและความชัดเจนในเรื่องลูกทีมของเขาเราก็รู้และเห็นกันอยู่ ทุกคนล้วนได้เวลาพิสูจน์ตัวเอง บางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้ แต่แนวทางของเขาเป็นอย่างนั้น ให้โอกาสกันจนถึงที่สุด

คนที่ไม่เห็นด้วยกับเขามีไม่น้อย แต่มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เขาเป็นแบบนี้ มันอาจจะเป็นข้อเสียของเขาก็ได้ ทว่าก็พูดได้เหมือนกันว่าไม่ใช่ทุกคนที่เห็นว่ามันคือข้อเสียและยังพร้อมจะสนับสนุนทุกการตัดสินใจของเขา

เวลาที่เหมาะสมของเรากับเขาคงไม่เท่ากัน เรามองว่ากองกลางต้องเปลี่ยนตอนนี้ เปลี่ยนทันที เพราะเราเหนื่อยแล้วกับการลุ้นนาบี ลุ้นเคอร์ติส ลุ้นอ๊อกซ์ ลุ้นสภาพของมิลเนอร์ อยากให้คล็อปป์เข้าใจความเหนื่อยหน่ายของเราบ้าง แต่เขาไม่มองอย่างนั้น ปัญหากองหน้าต่างหากที่กระทบลงมาถึงกองกลางและเวลานี้ต้องแก้ตรงนั้นก่อน ถ้าข้างหน้าดีขึ้น ภาระของกองกลางชุดนี้ก็จะน้อยลง

เขาอาจจะมองว่ากองกลางไม่ใช่ปัญหา เพราะนักเตะยังเป็นแกนเดิมจากชุดลุ้นแชมป์ 4 รายการทั้งหมด กองหน้าต่างหากที่เป็นปัญหาเพราะแกนหลักในชุดลุ้นสี่แชมป์หายไปครึ่งหนึ่งโดยเฉพาะฝั่งซ้ายที่ โชต้า กับ ดิอาซ พักยาวทั้งคู่ตั้งแต่เดือนตุลาคม

ได้คักโปเข้ามา และอีกสองสัปดาห์ ฟีร์มิโน่ กับ โชต้า ก็จะหายเจ็บกลับมาช่วยทีม ยังไม่รวมถึงแดนหลังที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ จะฟิตสมบูรณ์อีกคน ถึงตรงนั้นกองกลางชุดนี้จะทำงานได้ดีขึ้นเองเพราะภาระหนักถูกแบ่งเบาไปแล้ว

ถ้าคล็อปป์จะมองปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างนี้ เขาผิดไหม หรือยังมองไม่เห็นปัญหาที่คนทั้งโลกเห็นอีกหรือเปล่า

ที่สำคัญคือมันไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยให้กองกลางชุดนี้เป็นไปตามยถากรรม จะอย่างไรแดนกลางก็ต้องถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแน่ เขาคงไม่ใช้ ฟาบินโญ่ เฮนโด้ ติอาโก้ ตลอดไปหรอก และผมคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นในช่วงปิดฤดูกาลนี้ด้วย

เวลาที่เหมาะสมของเขาสำหรับการผ่าตัดแดนกลางของทีมคงจะเป็นตอนนั้น เพราะทุกอย่างจะสามารถเกิดขึ้นบนความรอบคอบที่สุด มีนักเตะเก่าที่หมดสัญญาย้ายออก มีนักเตะใหม่ที่เป็นเป้าหมายหลักย้ายเข้ามา ความสดชื่นจะถูกเติมในตอนนั้น ด้วยดีลที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการรีบเร่งซื้อในตลาดหน้าหนาว

ผมคิดว่าแผนงานเป็นอย่างนั้น ถ้าสามารถเอาเป้าหมายหลักมาได้ตั้งแต่เดือนมกราคมเลยมันก็ดี หรือกรณียกเว้นมีตัวเร่งปฏิกิริยาอย่างตอนซื้อ หลุยส์ ดิอาซ แต่แนวทางของคล็อปป์และลิเวอร์พูลไม่ชอบการรีบร้อนซื้อเดือนมกราคมมาแต่ไหนแต่ไร ประวัติที่ผ่านๆ มาก็บอกชัดว่าเราซื้อมกราคมนั้นปลงมากกว่าปัง แฟนบอลตื่นเต้นพอใจกันแค่ช่วงแรกๆ แต่ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ถ้าเล่นไม่ได้ก็เบื่อกันแล้ว

เราเหนื่อยหน่ายเพราะเราเจ็บปวดกับปัจจุบัน แต่เขายิ่งเหนื่อยกว่าหลายเท่านักเพราะไม่เพียงต้องพยายามแก้ไขปัจจุบันให้ดี แต่ยังต้องแก้อย่างรอบคอบที่สุดเพื่ออนาคตที่ถูกต้องอีกด้วย

เรามองปัจจุบัน ต้องแก้ตรงนี้เดี๋ยวนี้ อนาคตไม่พูดถึง แต่ด้วยหน้าที่ของเขาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ทุกอย่างที่ตัดสินใจในวันนี้ล้วนส่งผลถึงวันหน้าทั้งสิ้น

เราเรียกร้องเอาจากเขาถึงสิ่งที่เราต้องการในวันนี้ โดยอาจลืมไปว่านี่มัน 5 ปีแล้วที่เขาทำให้ทีมมีมาตรฐานไม่ตกเลย เราบอกว่าเขาไม่ต่อยอด ได้แชมป์ลีกแค่สมัยเดียวแล้วก็ตก มันไม่จริงเลย.. ห้าปีที่ผ่านมาเราเข้าชิงเจ้ายุโรป 3 ครั้ง ได้เกิน 90 แต้มในลีกอีกสามหน ความยอดเยี่ยมตรงนี้ทำไมถึงถูกมองข้ามไปเพียงปัญหาที่เกิดขึ้นแค่ครึ่งฤดูกาล

เขาก็ทำอยู่ กำลังต่อยอดให้ทีมอยู่เหมือนที่ผ่านๆ มานั่นแหละ เพียงแต่คราวนี้ผิดแผนก็พยายามแก้ไขให้ดีบนพื้นฐานที่ต้องรอบคอบเพื่ออนาคตและแผนงานที่วางเอาไว้ เรารีบร้อนและเร่งรัดเขาเกินไปไหม

ทุกการตัดสินใจมีผิดมีถูก ใครจะว่าเขามองปัญหาไม่ขาดก็ได้ สำหรับผมก็แค่พยายามหาเหตุผลว่าเพราะอะไรเขาถึงตัดสินใจอย่างนั้น แล้วก็รอดูและตั้งความหวังว่ามันจะเป็นอีกครั้งที่คล็อปป์ทำให้เห็นว่าการยึดมั่นในจุดยืน ความไม่เคยยอมแพ้หรือก้มหัวให้อุปสรรคใดๆ นั้นสามารถสร้างสิ่งเหลือเชื่อให้เกิดขึ้นได้เสมอ..

ตังกุย


ที่มาของภาพ : getty images
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport