กระหึ่มโอลด์แทร็ฟฟอร์ด! แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกนรกรัวสองประตูใน 5 นาที แซงชนะ แมนฯ ซิตี้ ไปแบบสุดเดือด โดยได้ประตูชัยจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่ง "ปีศาจแดง" คว้าชัย 5 นัดรวดในลีกมี 38 แต้มขึ้นมารั้งที่ 3 ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ยังมี 39 แต้มตามจ่าฝูง อาร์เซน่อล เป็น 5 คะแนนชั่วคราวแล้ว
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ประจำวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2565 ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 พบ แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูง
แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังเอาชนะมา 6 นัดติดรวมทุกรายการ และยิงในบ้านมา 8 นัดติดทุกถ้วยแล้ว โดยเกมล่าสุดเปิดบ้านอัด ชาร์ลตัน ไป 3-0 ในศึกลีก คัพรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ทางฝั่ง แมนฯ ซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งร่วงตกรอบลีก คัพ มาหมาดๆ ด้วยการออกไปพ่ายให้ เซาธ์แฮมป์ตัน มา 0-2
ครึ่งแรกเปิดฮากมาเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ครองเกมบุกใส่ก่อน แต่นาที 11 กลายเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ตัดเกมได้ในแดนของ "เรือใบสีฟ้า" แล้วเป็น คริสเตียน เอริคเซ่น ที่จ่ายบอลไปให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส หลุดเข้าไปกดเรียดในเขตโทษทางฝั่งขวาบอลหลุดเสาแรกออกไป
หลังจากนั้น แม้ว่า แมนซิตี้ จะครองบอลเหนือกว่าชักเจนแต่ไม่สามารถพาบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายของ แมนยู ได้เลย จนนาที 23 เออร์ลิง ฮาลันด์ ได้โอกาสสับไกครั้งแรกลากมากดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษแต่ยังติดบล็อกแนวรับเจ้าถิ่น
นาที 34 แมนยู เกือบจะได้ประตูขึ้นนำอีกหนจากจังหวะสวนกลับ บรูโน่ วางบอลยาวให้ แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวก่อนจะลากบอลผ่าน เอแดร์ซอน ที่พยายามออกมาตัดบอลนอกกรอบ ก่อนได้ยิงด้วยขวาไปติดบล็อกของ มานูเอล อาคานจี ที่สกัดก่อนที่บอลจะข้ามเส้นไปได้หวุดหวิด
นาที 37 ยังเป็นโอกาสของ แมนยู เมื่อ แรชฟอร์ด กระชากบอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน
ท้ายครึ่งแรกช่วงทดเวลานาที 45+1 แมนซิตี้ ได้ลุ้นส่งท้าย ไคล์ วอล์คเกอร์ ลองส่องนอกกรอบด้วยขวาบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังทำประตูกันไมได้ จบครึ่งแรกเสมอ 0-0
ครึ่งหลัง แมนยู ใช้โควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง อันโตนี่ ลงมาเล่นแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
จนกระทั่งนาทีที่ 60 แมนซิตี้ ปลดล็อกขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ตักบอลจากสุดเส้นหลังไปเสาไกลให้ แจ็ค กรีลิช ตัวสำรอง โขกคนเดียวโล่งๆส่งบอลตุงตาข่าย
อย่างไรก็ตาม นาที 79 แมนยู ได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 แทงทะลุช่องบอลเลยไปถึง บรูโน่ แฟร์นันด์ส หลุดไปยิงจ่อๆในเขตโทษไม่เหลือ โดยจังหวะนี้ผู้ตัดสินยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าของ แรชฟอร์ด แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR กลับมาให้ประตูแก่เจ้าถิ่นเนื่องจากดาวเตะทีมชาติอังกฤษไม่ได้มีส่วนร่วมกับจังหวะนี้
เท่านั้นไม่พอ นาที 82 แมนยู พลิกแซงนำแบบเหลือเชื่อ 2-1 บอลเริ่มจาก อเลฮานโดร การ์นาโช่ ทางฝั่งซ้ายแล้วตบเข้ากลางให้ แรชฟอร์ด ชาร์จหน้าประตูจ่อๆไม่เหลือ
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 คว้าชัย 5 นัดรวดในลีกมี 38 แต้มขึ้นมารั้งที่ 3 ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ยังมี 39 แต้มตามจ่าฝูง อาร์เซน่อล เป็น 5 คะแนนชั่วคราวแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, ลุค ชอว์, ไทเรลล์ มาลาเซีย (ลิซานโดร มาร์ติเนซ น.90+3) - กาเซมีโร่ (สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ น.90+2), คริสเตียน เอริคเซ่น (อเลฮานโดร การ์นาโช่ น.72) - เฟร็ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด (แฮร์รี่ แม็กไกวร์ น.90+2) - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (อันโตนี่ น.46)
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, มานูเอล อาคานจี, นาธาน อาเก้m ไทเรลล์ มาลาเซีย - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา - ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิง ฮาลันด์, ฟิล โฟเด้น (แจ็ค กรีลิช น.57)