ก้าวเดินที่จับต้องได้ของ แมนยู ยุค เทน ฮาก

ก้าวเดินที่จับต้องได้ของ แมนยู ยุค เทน ฮาก
แฟนบอลที่น่าจะมีความสุขที่สุดกลุ่มหนึ่งในเวลานี้คงจะมีกองเชียร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ด้วยนะครับ

เพราะภายใต้การดูแลของ เอริก เทน ฮาก มันมีสิ่งที่พวกเขาสัมผัสไม่ได้มานานมากแล้ว นั่นคือความหวัง

ฤดูกาลนี้จะเป็นอย่างไรไม่รู้ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะหกคะเมนตีลังกาอย่างไรไม่อาจทราบได้ แต่พวกเขามีความหวัง มีถนนแห่งจินตนาการสายยาวทอดไปข้างหน้า เต็มไปด้วยเรื่องน่าตื่นเต้นที่รออยู่

มันแตกต่างไปจากความรู้สึกที่ผ่านๆ มามาก ทั้งบรรยากาศในทีม ความวุ่นวายทางหน้าสื่อ และสิ่งที่ปรากฏให้เห็นในสนาม

ความอีเหละเขละขละที่เคยเกิดขึ้น การทำงานที่ดูเหมือนประสานงามากกว่าประสานงาน ความย่อหย่อนที่ส่งผลต่อเนื่องมาถึงผลงานน่าอับอาย ขายหน้าทั้งเรื่องฟอร์มการเล่นและปฏิกิริยาตอบสนองของผู้เล่น เรื่องเหล่านี้เราอาจไม่ทันได้เอะใจรู้เลยว่ามันแย่แค่ไหนจนกระทั่ง เทน ฮาก ทำให้เห็นนั่นแหละว่ามันมีจริงๆ

วินัยที่หย่อนยานมีจริง สิทธิพิเศษของนักเตะบางคนมีจริง ความไม่อีนังขังขอบกับผลการแข่งขันที่น่าอับอายมีจริง

แน่ล่ะครับมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนั้นก็ได้ ความหย่อนยานทางวินัยก็อาจจะไม่ได้มากนักหรอก สิทธิพิเศษของนักเตะบางคนก็คงไม่ถึงกับน่าเกลียดที่สุดขนาดนั้น หรือความไม่อีนังขังขอบที่ว่าก็ไม่ได้ถึงระดับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย แพ้ยับเยินหรือแพ้น่าขายหน้าก็คงไม่ได้ยิ้มรื่นมีความสุขไม่กระทบกระเทือนใดๆ อะไรอย่างนั้น

เพียงแต่มันไม่ถูกต้อง

สิ่งที่ เทน ฮาก ทำให้เราเห็นก็คือ แม้มันจะมีอยู่บ้าง แต่มันไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมาตรฐานของสโมสรระดับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสถานการณ์ที่ทีมกำลังเผชิญหน้า

มันไม่ใช่แค่นิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอก.. ไม่ได้ก็คือไม่ได้

คุณจะแค่หย่อนยานนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้เสียหายอะไรนี่.. ไม่ได้ คุณจะแค่มีสิทธิพิเศษเล็กๆ น้อยๆ หรือไม่ได้เจ็บปวดอะไรนักกับความพ่ายแพ้.. ไม่ได้ เพราะพวกคุณไม่ได้เล่นให้กับทีมกระจอกๆ นะ ไม่ได้สวมเสื้อของสโมสรที่เพิ่งเกิดใหม่ไร้ซึ่งเกียรติประวัติใดๆ นะ

พวกคุณกำลังเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นะโว้ย เพราะฉะนั้นไอ้ที่คุณว่าคุณอายแล้วคุณต้องอายยิ่งกว่านั้นอีกเป็นเท่าตัว ไอ้ที่ว่าไม่ได้หย่อนยานทางวินัยมากนักอะไรนั่นก็งี่เง่า ทำให้มันเป็นศูนย์ซะสิ หรือสิทธิพิเศษที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไรนั่นก็ตาม ถ้ามันไม่มีเลยแล้วมัดใจทุกคนเป็นหนึ่งเดียวได้มากขึ้นจะดีกว่าไหม

อย่าลืมว่าพวกคุณสวมชุดแข่งเดียวกัน และเป็นชุดแข่งของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่คุณต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามมาจากนั้นก็ยังต้องเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เรื่องของตัวเองเอาออกไปไกลๆ ก่อน ผู้จัดการทีมที่ผ่านๆ มาเขาจะอนุญาตอย่างไรผมไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมเป็นเจ้านายพวกคุณ ผมไม่อนุญาตให้ใครก็ตามคิดถึงตัวเองก่อนสโมสร หรือเทียบเคียงกับสโมสร หรือเป็นลำดับถัดมาจากสโมสร

ทัศนคติตรงนี้ต้องไปในทางเดียวกัน ผมทำมันคนเดียวไม่ได้หรอกต้องเป็นเราทุกคนช่วยกัน แต่ผมจะกำหนดเส้นที่เป็นมาตรฐานของผมเอาไว้ และจะไม่มีใครอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานนั้น

มันไม่ใช่มาตรฐานที่โหดร้ายอะไรเลย กฎเหล็กต่างๆ ของเขาแทบจะเป็นเรื่องพื้นฐานทั่วๆ ไปของความเป็นทีมด้วยซ้ำ แต่มันกลับถูกละเลยมาพักใหญ่แล้ว

มันก็พักใหญ่ๆ จนเราไม่ทันสังเกตนั่นแหละ จนกระทั่งได้เห็นสิ่งที่ เทน ฮาก ทำจึงได้รู้ว่า เฮ้ย.. ที่ผ่านมามันเละเทะขนาดนั้นเลยหรือ

เมื่อทุกอย่างถูกตบแต่งและขัดเกลาให้เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง อะไรต่ออะไรก็เริ่มดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยคุณภาพพื้นฐานของพวกเขานั้นดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เมื่อตั้งหลักได้ การก้าวเดินก็จะยิ่งไปได้เร็วขึ้น

ผมประทับใจความเด็ดขาดและการเอาจริงแบบเข้มๆ ของ เทน ฮาก ตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้ามาสู่ทีม เห็นด้วยกับมาตรการของเขา การวางบรรทัดฐานของเขา การเรียกร้องเอาการตอบสนองที่คู่ควรกับการเป็นนักฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของเขา รวมถึงการบริหารคนในแบบของเขา

ผมจับตาดูอย่างเอาใจช่วยว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร เพราะการเทกแอ๊กชั่นด้วยท่าทีขึงขังในห้องแต่งตัวที่วุ่นวายและเต็มไปด้วยนักฟุตบอลค่าตัวแพงค่าเหนื่อยมหาศาลนั้นในบางครั้งอาจไม่ได้รับผลที่ดีตอบกลับมาก็ได้ กุนซือแข็งๆ บางคนก็พังเพราะความพยายามเปลี่ยนห้องแต่งตัวแบบฉับพลันนั่นแหละ

แต่จนกระทั่งถึงตรงนี้.. ดูเหมือนว่ายาแรงของ เทน ฮาก จะได้ผล เกมในลีกชนะรวดมา 4 นัดแล้ว สิบเกมหลังสุดแพ้แค่ครั้งเดียว ลีก คัพทะลุเข้ารอบตัดเชือกพร้อมยึดสถานะเต็งหนึ่งของรายการ เอฟเอ คัพเข้ารอบสี่ ยูโรปา ลีกชนะรวดใน 5 นัดหลังของรอบแบ่งกลุ่ม รอเจอบาร์เซโลน่าในเกมน็อกเอ๊าต์

ที่สำคัญคือการตอบสนองของนักเตะเมื่ออยู่ในสนามอยู่ในระดับดีมาก และมันเริ่มเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศในทีมดี สปิริตดี ตัวเก๋าช่วยทีมได้ ตัวสดหรือพวกดาวรุ่งก็เริ่มทยอยเปล่งประกาย หยิบจับใครลงสนามก็ดูจะตอบแทนความไว้วางใจได้ดี

เทน ฮาก ได้ห้องแต่งตัวมาอยู่ในมืออย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งยังได้นักเตะที่เหมาะสมที่สุดเหมือนเป็นจิ๊กซอว์สารพัดนึกอย่างกาเซมิโร่เข้ามาเสริมอย่างถูกเวลา มันคือการซื้อตัวแห่งฤดูกาลของเขาจริงๆ

โปรแกรมหนักที่รออยู่ทั้งรับมือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในสัปดาห์นี้ ไปเยือน คริสตัล พาเลซ กับ อาร์เซน่อล ในสัปดาห์หน้ามาถึงในช่วงเวลาที่ดีมาก เพราะเชื่อว่าแฟนยูไนเต็ดเองก็อยากรู้เหมือนกันว่านับจากวันที่ถูกทีมเรือใบสีฟ้าขยี้ยับเยิน 3-6 เมื่อเดือนตุลาคมนั้น สามเดือนผ่านไปพร้อมความเชื่อมั่นที่มากขึ้น พวกเขายกระดับขึ้นมาได้แค่ไหนแล้ว

มันคือบททดสอบชั้นดีที่จะได้รู้ถึงมาตรฐานของตัวเอง ณ เวลานี้ ไม่มีเกมไหนอีกแล้วครับที่เหมาะสมกับการให้คำตอบเรื่องนี้ได้ดีไปกว่าการเจอกับซิตี้และไปเยือนทีมปืนใหญ่ที่กำลังติดลมบน

ผลงานควบคู่กันไปที่ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกลีก คัพ คือการก้าวเดินที่จับต้องได้ของยูไนเต็ดในยุค เทน ฮาก มันอาจจะเป็นแค่ฟุตบอลถ้วยเล็กที่หลายคนไม่ได้สนใจมากนัก แต่กับทีมปีศาจแดงในเวลานี้ต้องการมันอย่างจริงจัง

จะอย่างไรมีโทรฟี่ติดมือก็ย่อมดีกว่าไม่มี และมันจะช่วยยืนยันให้กับทุกๆ คนในทีมได้มั่นใจว่าไอ้ที่เรากำลังทำอยู่และทิศทางที่กำลังเดินมาซึ่งทุกคนบอกกันว่าถูกต้องแล้วนั้นมันถูกต้องจริงๆ

เราจะไม่หลงทางอีก จะศรัทธาและยึดมั่นในวิถีที่เรากำลังเป็น

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังสร้างความสุขให้กับแฟนบอลของตัวเอง

อย่างที่บอกไปในย่อหน้าแรกๆ นั่นล่ะครับ ผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไรไม่อาจรู้ได้เพราะเป็นเรื่องอนาคต แต่เวลานี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสิ่งที่พวกเขาไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว.. นั่นคือความหวัง

ถนนแห่งจินตนาการสายยาวทอดไปข้างหน้า ยังมีเรื่องน่าตื่นเต้นรออยู่อีกเยอะเลยล่ะครับ

ตังกุย


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport