ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์นี้ ต้องให้เครดิตผู้เล่นเกมรับเต็ม ๆ โดยเฉพาะแข้งจาก นิวคาสเซิ่ล ที่ช่วยกันพาทีมขนหนึ่งแต้มกลับบ้านในเกมเยือน อาร์เซน่อล ขณะที่เกมรุกก็ผลงานดีไม่แพ้กันโดยเฉพาะ แฮร์รี่ เคน!
ผู้รักษาประตู : ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด)
นึกภาพไม่ออกเลยว่า หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีนายด่านสแปนิชรายนี้เฝ้าเสาหน้าปากประตูนั้นจะเป็นเยี่ยงไร
ช็อตโชว์ซูเปอร์เซฟสองจังหวะติดต่อกันจากการโหม่งของ ฟิลิป บิลลิ่ง กับ โดมินิก โซลันกี้ เหลือเชื่อแล้ว แต่ช็อตปัดลูกยิงของ แอนโธนี่ นั้นเหลือเชื่อยิ่งกว่า
กองหลัง : คีแรน ทริปเปียร์ (นิวคาสเซิ่ล)
รับมือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จนแทบอีกฝ่ายแทบกระดิกไม่ออก เป็นอีกหนึ่งเกมที่ฟอร์มยอดเยี่ยมสำหรับกัปตัน "สาลิกาดง"
กองหลัง : สเวน บ็อทแมน (นิวคาสเซิ่ล)
สั่งการแนวรับได้ยอดเยี่ยม มีสกัดเคลียร์บอลทิ้งสวย ๆ พาทีมเก็บคลีนชีตในลีกเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกัน
กองหลัง : แดน เบิร์น (นิวคาสเซิ่ล)
การรับมือกับ บูกาโย่ ซาก้า ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย แต่แนวรับร่างโย่งกลับทำได้ดีเยี่ยม จัดการเอาอยู่ตลอดทั้งเกม
กองหลัง : ลุค ชอว์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)
โดดเด่นตั้งแต่ต้นเกม สร้างสรรค์เกมได้ดีจนกลายเป็นคนจบกอร์ แถมมีลูกเปิดที่อันตราย ขณะที่เกมรับก็ถือว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
กองกลาง : โชลินตอน (นิวคาสเซิ่ล)
มิดฟิลด์กลายพันธุ์ที่ผันตัวจากกองหน้ามาเล่นตำแหน่งนี้ได้ดีเหลือเชื่อ โชลินตอน เล่นเกมรับได้อย่างโดดเด่นกับสถิติเข้าปะทะบอลสำเร็จ 5 ครั้ง และตัดบอลได้อีก 3 หนในเกมบุกแชร์แต้ม อาร์เซน่อล ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
กองกลาง : กาเซมีโร่ (แมนฯ ยูไนเต็ด)
กลายเป็นกำลังสำคัญของ "ปีศาจแด" ไปเป็นที่เรียบร้อย เปิดบอลสุดแม่นยำ อ่านจังหวะการเปิดฟรีคิกได้ดีนำไปสู่การได้ประตูขึ้นนำ คุมเกมแดนกลางได้ดี เป็นเกมที่น่าประทับใจสุด ๆ
กองกลาง : ซอลลี่ มาร์ช (ไบรท์ตัน)
โดดเด่นเรื่องทำประตูขึ้นมาโดย 3 เกมหลังสุด มาร์ช ซัดได้สองประตู ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 16 เกมในลีกสอยตาข่ายไม่ได้เลย
กองหน้า : คาโอรุ มิโตมะ (ไบรท์ตัน)
เป็นวันที่ยอดเยี่มจริง ๆ สำหรับแข้งทีมชาติญี่ปุ่นรายนี้ที่เล่นงานใส่ เนธาน แพตเตอร์สัน แบ็กดาวรุ่ง เอฟเวอร์ตัน จนปั่นป่วน แถมยังจบสกอร์ได้อย่างเยือกเย็นอีก
กองหน้า : แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส)
ยังเป็นตัวแบกบนแนวรุกของ คลับไก่ เกมนี้โดดเด่นด้วยการเหมาสองตุงช่วยต้นสังกัดกลับมาคว้าชัยชนะได้อีกครั้ง
กองหน้า : ไบรอัน เอ็มเบวโม่ (เบรนท์ฟอร์ด)
ใช้ความเร็วฉีก เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ จนเป็นที่ติดตา อีกทั้งยังซัดประตูใส่ ลิเวอร์พูล พา เบรนท์ฟอร์ด กำราบด้วยสกอร์ 3-1