แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเดินหน้าคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกกลับมาจากศึกฟุตบอลโลก 2022
ล่าสุดเปิดบ้านอัด บอร์นมัธ 3-0 ทำแต้มเท่าทีมอันดับ 3 ของตารางอย่าง นิวคาสเซิ่ล แล้ว แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด
1. ก่อนอื่นไปดูการจัดตัวผู้เล่น
เมื่อต้องลงเล่นเป็นเกมที่ 3 ในรอบ 7 วัน เอริค เทน ฮาก เปลี่ยนแปลงตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจาก ราฟาแอล วาราน กับ ลุค ชอว์ ไปเป็น แฮร์รี แม็กไกวร์ กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ
อืมมมมมม...นะ
'เบิ้ม ต.ญ.' กลับไปเล่นเป็นแบ็คซ้ายเหมือนเดิม
ตรงกลางมีการเปลี่ยนแปลง 1 ตำแหน่งที่พาดพิงไปถึงแดนหน้า
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่ง 'หน้าต่ำ' ขณะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ถูกถ่างออกไปเป็นตัวริมเส้นแทน อันโตนี่ ที่ฟอร์มไม่ค่อยโสภาสักเท่าไหร่
ส่วน มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง
นอกนั้นเหมือนเดิมหมดทั้ง อารอน วาน-บิสซาก้า, กาเซมิโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
2. เรื่องรูปแบบการเล่น และเกมไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงมากมาย เนื่องเพราะพลพรรคปีศาจแดงเหนือกว่าทุกซอกหลืบ ด้วยศักยภาพของนักเตะ และฟอร์มการเล่น แถมยังเตะที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกต่างหาก
ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเจาะผู้มาเยือนที่มาตั้งรับได้หรือเปล่า และจะแสดงความผิดพลาดอะไรออกมาจนเป็นเหตุให้เสียประตูหรือไม่
แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้เวลาไม่นานในการกระทุ้งประตูแรก เพื่อคลายความกดดัน
หลังจากนั้นก็มาได้ประตูที่ 2 และ 3 ในครึ่งหลัง
แต่ที่สุดยอดมากคือจังหวะเข้าทำของประตูที่ 2
จังหวะนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกคู่แข่งรุมเข้ามาบีบถึงในแดน ก่อนทำชิ่งแก้เพรสส์แล้ว ลุค ชอว์ กระชากจากครึ่งสนามทะลุขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ พลันจ่ายให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ไหลบอลต่อให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ บริเวณด้านขวาของกรอบเขตโทษ
เสี้ยววินาทีต่อมา เจ้าหนูอาร์เจนติน่าก็บรรจงผ่านบอลจังหวะเดียวด้วยขวาให้ ลุค ชอว์ ที่สอดตัวขึ้นมาสับไกยิงทันที !!!
ทั้ง 3 ประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ มิได้มาจากการครองบอลขึงคู่แข่งนะครับ แต่มาจากจังหวะเข้าทำที่รวดเร็ว
ประตูแรกจากการเล่นลูกฟรีคิกที่ คริสเตียน เอริคเซ่น เปิดให้ กาเซมิโร่ พุ่งเข้าชาร์จ
ประตูที่ 2 มาจากการแก้เพรสส์ในแดนอย่างที่บอก และประตูที่ 3 ก็มาจากการเปลี่ยนจังหวะการเล่นแล้วจู่โจมอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
3. อย่างไรก็ตาม
แม้จะไม่เสียประตู แต่ยังมีจุดบกพร่องในเกมรับ
การจับคู่กันเป็นเซ็นเตอร์แบ็คของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ไม่นำพามาซึ่งความน่าไว้ใจเลยนะครับ
พวกเขาปล่อยให้ บอร์นมัธ ใช้ลูกกลางอากาศเล่นงานเกมรับของตัวเองจนตุปัดตุเป๋เลยทีเดียว
การประกบตัวยังทำได้ไม่ดีนักจนผู้มาเยือนสามารถขึ้นโขกหาจังหวะจบได้บ่อยครั้ง
ไอ้ที่รอดพ้นจากการถูกทะลวง Rule Darkz พลางแคล้วคลาดเพราะทั้งคู่ห้อยเหรียญ 'หลวงพี่เด' เอาไว้ มิเช่นนั้นคงจะโดนไปแล้วอย่างน้อย 1-2 ดอก
การจ่ายบอลก็พลาดแบบไม่น่าพลาด คะเนดูแล้ว ถ้าไม่จำเป็นคู่นี้คงไม่ได้เล่นคู่กันอีกนานเลยทีเดียว
4. ขออนุญาตตำหนิผู้ตัดสินเล็กน้อยนะครับ
ก็อดแดมน์ ดัมพ์ชิต สติวปิด แอนด์ มาเธอร์ฟัคเกอร์ เรียนตามตรงว่าน่าเอานกหวีด รวมถึงยืมธงของคุณไลน์แมนแล้วบรรจงยัดเข้าไปในรูทวารหนักยิ่งนัก
พี่เขาปล่อยให้ผู้เล่นทีมเยือนเล่นเกมหนักพลางเสียบสกัดอย่างน่าเกลียดหลายดอก
จังหวะแฮนด์บอลในเขตโทษ แทนที่จะเป่าหยุดเกมดู VAR สักหน่อยกลับทำเป็นทองไม่รู้ร้องซะอย่างนั้นจนเป็นเหตุให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบเสียประตูในจังหวะต่อเนื่อง
ป้ามึงถึงแก่กรรมเหรอครับ คุณภาพและมาตรฐานในการตัดสินจึงบัดซบและตบชักซะขนาดนั้น
5. หลังศึก เวิลด์ คัพ 2022 แมนฯ ยูไนเต็ด กะซวกชัย 4 เกมติดต่อกันในทุกรายการ โดยยังไม่เสียเลยสักประตูเดียว แถมกดไป 9 ดอก
ฟอร์มการเล่นโดยรวมถือว่าไม่เลวเลยนะครับ การบริหารทีม การจัดตัวผู้เล่น การวางแผน และการแก้ปัญหาของ เอริค เทน ฮาก ก็ทำได้ดีเลยทีเดียว
2 เกมถัดไปเป็นโปรแกรมบอลถ้วย เอฟเอ คัพ กับ คาราบาว คัพ ที่ไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรงสักเท่าไหร่
ดูแล้วเด็กผียังมีเวลาหลงระเริงไปอีก 2 นัด
แต่หลังจากนั้น 'ของจริง' จะมาเยือน เมื่อต้องเซิ้งกับ แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล
คิดเรื่องนี้ก็ใจสยิวขึ้นทันใด
...ว่าแล้วขอขอบคุณพวกพรี่ๆ ที่ยอมอดหลับอดนอนช่วยเชียร์ปีศาจแดงเมื่อคืนนี้ดีกว่า แม้จะเพียงแค่จบครึ่งแรกก็ยังดี
ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณจากใจครับ 555555555555555
บอ.บู๋