แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชำเราผู้มาเยือนจากท้ายตารางอย่าง น๊อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไปแบบไม่ระบมหัวแม่ตีนเท่าไหร่ในเกมแรกของช่วงหฤโหดแห่งพรีเมียร์ลีกที่ต้องหวดกัน 7 วัน 3 นัด
และนี่คือสิ่งที่ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอกแบบพอสังเขป
1. เจอทีมหนีตกชั้นในบ้าน แล้วมีชัยด้วยสกอร์ 3-0 แบบไม่ต้องกระเสือกกระสนอะไร ฟอร์มการเล่นก็ไฉไลในระดับหนึ่ง
เฉพาะอย่างยิ่งด้วยแผงหลังที่ไม่ค่อยสมประกอบถึงขนาดต้องเอา ลุค ชอว์ เข้ามาเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค โดยรวมจึงถือว่าน่าพอใจ แถมช่วยลดความเจ็บปวดจากการแห้วแดก โคดี้ คักโป ได้เยอะเลยทีเดียว
อนึ่ง จริงๆ ก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากนักหรอกครับ แต่ถ้าไม่เจ็บปวดเลย เดี๋ยวพวกพรี่ๆ บางคนเขาไม่พอใจผมอีก
2. ผมชอบประตูแรกจากลูกสูตรเตะมุมเป็นพิเศษ
เหตุเพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคหลังกลายเป็นทีมที่ไม่ค่อยได้ประตูจากการเล่นลูกเซ็ตพีซสักเท่าไหร่
เมื่อ คริสเตียน เอริคเซ่น ปาดลูกเรียดๆ มาทางเสาแรก
ทันใด มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ตอนแรกยืนอยู่แถวเสาสองก็สับตีนหนีตัวประกบมาที่จุดนัดพบตรงเสาแรกแล้วตวัดยิง
ส่วนประตูที่ 2 ก็มาจากจังหวะโต้กลับที่เริ่มต้นการสวนเร็ว ตั้งแต่ในแดนตัวเอง
ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนำห่าง 2-0 ด้วยฟอร์มการเล่นที่เหนือกว่าก็สบายใจได้ ถ้าไม่ติดว่าต้องเขียนให้อ่าน ผมนอนหลับไปแล้ว
3. ผู้เล่นสายพันธุ์ปีศาจแดงโชว์ฟอร์มไฉไลหลายคน
ลุค ชอว์ สวมบทเซ็นเตอร์แบ็คได้สะเด่าเกินคาด สามารถยึดเป็นอาชีพได้เลย
อารอน วาน-บิสซาก้า ก็ปรับปรุงการผ่านบอลและเปิดบอลได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
คุณเกษมวิโรจน์ก็แสดงให้เห็นว่า 'เวิลด์ คลาสส์' นั้นเป็นอย่างไร
คริสเตียน เอริคเซ่น กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็ตามมาตรฐาน
มาร์คัส แรชฟอร์ด นอกจากจะยิงและจ่ายแล้วยังสร้างความระทมกบาลให้คู่แข่งเป็นระยะ ขณะที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ก็เล่นด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
4. ไอ้ที่น่าผิดหวังคือ อันโตนี่
ทำไมจังหวะกระชากบอลไปข้างหน้ามันดูแปลกๆ เหมือนเครื่องสะดุดอย่างไรชอบกล
เวลาเลี้ยงก็ตะกุกตะกัก เวลาจ่ายก็เสียบ่อย พอมีโอกาสทำลายตาข่ายก็ปล่อยให้มันหลุดลอยไปอีก
เฮ่ออออออ..อ..อ..อ..อ
ส่วนผู้เล่นอีกคนที่ลงมา (ตัวสำรอง) แล้วไม่มีอะไรเหมือนเดิมคือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ทั้งๆ ที่เห็นถึงความตั้งใจ แต่ไม่มีอะไรเลย
คิดง่ายๆ เฟร็ด แม่งลงมาทีหลัง แล้วหาจังหวะไปทำประตูได้อะ - คิดเอา !!!
5. โปรแกรมหฤโหดกำลังแสยะยิ้มรอปีศาจแดงอยู่นะครับ
เกมต่อไปคือเยือน วูล์ฟส์ วันเสาร์สิ้นปี ก่อนเจอ บอร์นมัธ ในบ้านวันอังคารที่ 3 มกราคม 2023
แล้วต่อด้วยบอลถ้วยอีก 2 นัด ทั้ง เอฟเอ คัพ vs เอฟเวอร์ตัน และคาราบาว คัพ vs ชาร์ลตัน
ทั้งหมดภายในเวลาห่างกัน 13 วัน ก่อนทำศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แล้วต่อด้วยเยือน อาร์เซน่อล
"บอ.บู๋"